กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--กทม.
คกก. พิจารณางบประมาณรายจ่าย ปี 54 กระทุ้งสำนักการศึกษา จัดซื้อคอมพิวเตอร์ล่าช้าไม่คืบหน้า ทำเด็กไม่ได้ใช้ประโยชน์ จี้ผู้บริหารเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด แนะเข้มคัดเลือกเยาวชนแลกเปลี่ยนต้องสามารถดูแลตนเองได้เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางทยา ทีปสุวรรณ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนัก ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3-6 สภากรุงเทพมหานครจี้เร่งจัดซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของนักเรียน แนะต้องฝึกเยาวชนแลกเปลี่ยนให้ดูแลตนเองได้
ที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ตั้งข้อสังเกตหลายประการ เช่น การดำเนินการจัดสรรคอมพิวเตอร์ในโครงการคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาในช่วงเวลาที่ผ่านมามีความล่าช้ามาก ส่งผลกระทบต่อนโยบายคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาที่วางไว้ ทำให้เด็กนักเรียนไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้ ทั้งโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างเมือง ตามนโยบายสภาบ้านพี่เมืองน้อง สภากรุงเทพมหานคร นอกจากเด็กนักเรียนที่ยึดมาตรฐานในการคัดเลือกจากความสามารถด้านภาษาและการแสดงที่ยอดเยี่ยมเพื่อร่วมโครงการ ทั้งควรเข้มงวดในการพิจารณาและคัดสรรตัวแทนนักเรียนที่จะต้องมีความรับผิดชอบตนเองและแก้ไขปัญหาได้เมื่อพักอาศัยอยู่ต่างประเทศในช่วงระยะเวลาโครงการ ซึ่งจะต้องสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เป็นภาระต่อเพื่อนร่วมคณะ ทั้งบุคลากรครูที่ถูกคัดสรรจะต้องมีความสามารถและมีประโยชน์ในการทำงานมากที่สุด ทั้งการก่อสร้างหรือปรับปรุงโรงเรียนของกรุงเทพมหานคร ควรกระจายอำนาจต่าง ๆ ให้กับเขตนั้นรับผิดชอบเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ และโรงเรียนที่อยู่ในแผนพัฒนาและปรับปรุงก่อสร้างอาคารเรียน ควรเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงต้องพิจารณายุบโรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนไม่มากแล้วโยกย้ายนักเรียนและครูมารวมกับโรงเรียนที่มีความพร้อมมากกว่าเพื่อโอกาศที่กรุงเทพมหานครนำพื้นที่ไปพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อไป ทั้งโรงเรียนในระดับมัธยมของกรุงเทพมหานคร ควรมีการปรับให้เป็นมาตราฐานเทียบเท่าโรงเรียนเอกชน และบุคคลากรที่จะมาเป็นครู ควรมีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณภาพเพื่อให้เกิดการพัฒนาทางการศึกษา รวมถึงควรพิจารณาในการจัดสรรงบประมาณพัฒนาโรงเรียน สร้างอาคาร และเพิ่มฝึกอบรมและสร้างจริยธรรมเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากรทางด้านการศึกษา ตรงตามนโยบายกรุงเทพมหานครอีกด้วย
ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครกันอย่างกว้างขวาง พร้อมมอบหมาย ให้ทางหน่วยงานที่ได้รับการพิจารณานำเอกสารเพิ่มเติมมายื่นให้ทางคณะกรรมการฯ เพื่อการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไปด้วย