ศจ. ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณฯ ทรงห่วงไยปัญหาด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมตั้งกองทุน 100 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Tuesday August 14, 2007 11:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--นาราซีซเท็ม
Ministerial Regional Forum on Environment and Health
in Southeast and East Asian Countries
8-9 August 2007, Bangkok, Thailand.
“ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงให้ความสำคัญกับปัญหาอนามัยและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคให้ความสำคัญ รวมถึงปัญหามลพิษทางอากาศที่เป็นสารก่อมะเร็ง และเพื่อเป็นการสร้างศักยภาพในการแก้ไขปัญหาอนามัยและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว พระองค์ได้พระราชทานเงินทุน 100 ล้านบาทในการจัดตั้งกองทุนด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรในภูมิภาคให้มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนางานด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม” นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในงานแถลงข่าวช่วงสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายแพทย์วัลลภยังกล่าวต่อไปว่า การประชุมในระดับรัฐมนตรีครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของรัฐบาล 14 ประเทศ จาก 2 ภูมิภาค และองค์กรระหว่างประเทศหลายหน่วยงานจัดการประชุมขึ้น โดยมี 5 หน่วยงานหลักทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมได้แก่ รัฐบาลไทย - กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ 2 องค์กร — องค์การอนามัยโลก (WHO) สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสำนักงานภูมิภาคแปซิฟิคตะวันตก และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยประกาศเป็น “ปฏิญญากรุงเทพ” ซึ่งจะเป็นกลไกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ และปรับปรุงกรอบนโยบาย กฎหมายระดับประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งสนับสนุนการบูรณาการกลยุทธ์และกฎหมายด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์โดยรวมด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม จะเห็นได้ว่ามีความสัมพันธ์กันอยู่ เพราะผลที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากจากโรคไข้เลือดออก ไข้มาลาเรียที่เกิดจากการที่มียุงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโลกร้อนขึ้น ไข้หวัดนกก็เป็นหนึ่งในส่วนของสิ่งแวดล้อมที่มากระทบต่อสุขภาพ ในขณะเดียวกันทางด้านสิ่งแวดล้อมต้องคำนึงว่า ในการแก้ไขคุณภาพของสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าประเทศจะรวยหรือจนแค่ไหนก็กำลังตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง เกิดความเสียหายกับเศรษฐกิจและสังคม
และในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือปี 2010 ในที่ประชุมได้กำหนดให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการปฏิบัติตามปฏิญญาฉบับนี้ต่อไป โดยจะจัดขึ้นในสาธารณรัฐเกาหลี
หมายเหตุ : การประชุมรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 1 8-9 สิงหาคม 2550 ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ กรุงเทพมหานคร
จัดโดย 5 หน่วยงานร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ รัฐบาลไทยประกอบด้วย 1. กระทรวงสาธารณสุข 2. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ 4.โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค 5. องค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสำนักงานภูมิภาคแปซิฟิคตะวันตก
ผู้เข้าประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุข จากประเทศต่างๆ 14 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศมองโกเลีย สหภาพพม่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐเกาหลี และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พร้อมทั้งมีผู้สังเกตการณ์จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เอสแคป และธนาคารโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท นาราซีซเท็ม จำกัด
โทร. 0 2722 7311-3, 0877 111 748, 0 2590 4025
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ