กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--ค็อกเน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น
ค็อกเน็กซ์จัดแสดงโซลูชั่นทางด้านออโตเมชั่นในงาน Automotive Manufacturing 2010
ค็อกเน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ภายใต้ชื่อ CGNX) ผู้จัดหาระบบ machine vision, vision sensor และ Industrial ID reader ชั้นนำของโลก แถลงข่าวถึงแผนการในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและทิศทางในการเติบโตของธุรกิจ โดยมุ่งเน้นในการจัดหาออโตเมชั่นโซลูชั่นสำหรับโรงงานในประเทศไทย โดยจะจัดแสดงโซลูชั่นดังกล่าวในงาน Automotive Manufacturing 2010 ซึ่งจัดขึ้นที่ไบเทค ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2553
บริษัทคือผู้จัดหาโซลูชั่นทางด้านออโตเมชั่นให้กับธุรกิจหลากหลายประเภทในประเทศไทย อาทิเช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ อีเล็คโทรนิคส์ และไฮเทคโนโลยีที่ผลิตสินค้าป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ค็อกเน็กซ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางด้าน vision systems และ Industrial ID reader ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมดังกล่าวข้างต้นเพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการในการควบคุมคุณภาพ, ความปลอดภัยและการผลิตในรูปแบบออโตเมชั่นสำหรับโรงงานอุตสาห- กรรมการผลิตในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ของค็อกเน็กซ์จะช่วยเร่งสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมการผลิตในไทยโดยอาศัยระบบออโตเมชั่น ระบบแขนกลอุตสาหกรรม และวิชั่นซิสเต็มส์ ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนทางการผลิตและการประกอบชิ้นส่วนที่ลดลง
อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนสูงต่างก็เฟ้นหาระบบ machine vision ชั้นนำของโลก ค็อกเน็กซ์ให้ความสำคัญกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ อีเล็คโทรนิคส์ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ผลักดันยุทธศาสตร์การเติบโตทางธุรกิจสำหรับค็อกเน็กซ์ในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มร.ดิเดียร์ ลาครัวซ์ รองประธานบริหารอาวุโสฝ่ายการขายและการตลาดระหว่างประเทศของ ค็อกเน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ประเทศไทยมียอดขายในไตรมาส 1&2 ของปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและเราเชื่อว่าการเติบโตจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกสำหรับอุตสาหกรรมอีเล็คโทรนิคส์ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) และแผ่นวงจรไฟฟ้า (PCB) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับอุตสาห-
กรรมคอนซูเมอร์อีเล็คโทรนิคส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็น ผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและบรรจุภัณฑ์ โอกาสทางธุรกิจของค็อกเน็กซ์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เนื่องจากประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตขั้นต้นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ไปยังต่างประเทศทั่วโลก ยกเว้นจีนและอินเดีย”
มร. ลาครัวซ์ กล่าวเสริมว่า “พันธสัญญาของค็อกเน็กซ์ที่มีต่อตลาดประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นว่าโซลูชั่นทางด้านออโตเมชั่นและวิชั่นเทคโนโลยีของเราจะช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมการผลิตแบบออโตเมชั่นในไทย ในการสร้างผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิ ปรับปรุงกระบวนการควบคุมคุณภาพและเพิ่มความน่าเชื่อถือในตัวสินค้า และที่สำคัญช่วยเพิ่มกำลังการผลิตในระดับสูงสุด” ลูกค้าระดับโกลเบิลของ ค็อกเน็กซ์ อาทิ เวสเทิร์นดิจิตอ ซีเกท ฮิตาชิ โซนี มิตซูบิชิ ฟอร์ด คอนติเนนตัล พี แอนด์ จี จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คอลเกตปาล์มโอลีฟและเนสเล่ เป็นต้น ต่างก็มีฐานการผลิตในเมืองไทยเช่นกัน เขากล่าวต่อว่าหลังจากที่บริษัทได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Automotive Manufacturing 2010 แล้วเราจะจัดกิจกรรมทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์อื่น ๆ เพิ่มตามมาในช่วงครึ่งปีหลังของ 2010 เรามีแผนที่จะขยายธุรกิจในประเทศไทยโดยจะยังคงยุทธศาสตร์ในการขายผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน