CENรุกธุรกิจพลังงานทดแทน-มองเห็นอนาคตไปได้อีกไกล เซ็น MOU แต่งตั้งบริษัทรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของจีน NORINCO ให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 23, 2010 09:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--IR network CEN รุกเดินหน้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนหลังมองเห็นลู่ทางอนาคตที่ยังสดใส “วุฒิชัย ลีนะบรรจง” ระบุจะเป็นการสร้างฐานรายได้ใหม่อีกช่องทางหนึ่ง ที่ผลักดันผลประกอบการของบริษัทให้ขยายตัวได้อย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุดเซ็น MOU ร่วมกับ NORINCO ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ที่ใช้เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เผยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท โดยมาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการและจากสถาบันการเงิน พร้อมคาดระยะเวลาคืนทุนประมาณ 3-5 ปี ส่วนผลประกอบการปีนี้มั่นใจเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) (CEN) เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ Memorandum of Understanding (MOU) เกี่ยวกับโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.9 MW ร่วมกับ NORINCO International Cooperation ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดำเนินกิจการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น ถนน สะพานขนาดใหญ่และก่อสร้างโรงไฟฟ้า เช่น เขื่อนผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศ ในรายละเอียดของ MOU ระบุว่า CEN จะเป็นผู้ดำเนินการในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ใช้เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป โดยจะมีการใช้ที่ดินของ CEN เองที่มีอยู่ในหลายจังหวัด เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ รวมถึงการยื่นขออนุญาตต่างๆ ซึ่ง NORINCO International Cooperation จะเป็นผู้จัดหาเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการดังกล่าวบรรลุผลได้เป็นอย่างดี “คณะผู้บริหารของ CEN มองเห็นว่าธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจมาก ทั้งยังจะเป็นการสร้างฐานรายได้ใหม่ให้กับบริษัท ซึ่งเป็นฐานรายได้ที่มีความมั่นคงอย่างสม่ำเสมอและจะเป็นผลักดันให้ผลประกอบการของ CEN ในอนาคตเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในเบื้องต้นประมาณ 600 ล้านบาท โดยจะนำมาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการและมาจากการสถาบันการเงินอีกส่วนหนึ่ง โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 3-5 ปี ” ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีอีกเป็นจำนวนมาก โดยจะเห็นได้จาก "สถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุด” หรือ “พีค” (Peak Load) ของประเทศที่ทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการขยายกลุ่มธุรกิจพลังงานของ CEN ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง และใน อนาคตจะนำขยะมาคัดแยกและแปรรูปเป็นขยะเชื้อเพลิง หรือ Reduce Derived Fuel (RDF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีมาจากเกาหลี มาเป็นเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้ชีวมวล จะเป็นรากฐานในการผลักดันให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วยความมั่นคงและแข็งแกร่ง เขากล่าวต่อในช่วงท้ายว่าการที่ CEN ได้ร่วมงานกับ NORINCO International Cooperation ที่พร้อมทั้งทางด้านเงินลงทุน เทคโนโลยี และประสบการณ์การทำงานมาแล้วทั่วโลก ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าวจะเป็นก้าวแรกของความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัท และในอนาคตก็อาจจะได้มีโอกาสร่วมงานกันอีกเกี่ยวกับธุรกิจทางด้านพลังงานทดแทนไม่ว่าจะเป็น Wind Turbine หรือ Solar Cell ที่บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในเครือของ CEN กำลังศึกษาเพิ่มเติมอยู่ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ทั้งโครงการในประเทศไทยและในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่นประเทศลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ CEN ในปีนี้ยังมั่นใจ จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากบริษัทในเครือทั้ง 3 แห่ง คือ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) (UWC) บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (RWI) และบริษัท เอ็นเนซอล จำกัด (ENS) ซึ่งมีผลประกอบการที่ดีขึ้น จากการบริหารจัดการด้านการผลิตและการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ