สัมภาษณ์ โรเบิร์ต โรดริเกซ ผู้อำนวยการสร้าง Predators

ข่าวบันเทิง Thursday June 24, 2010 11:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--mmm-digital สวัสดีครับ ตอนนี้เราอยู่ที่สตูดิโอ ทรับเบิ้ลเมคเกอร์กับโรเบิร์ต โรดริเกซ เพื่อคุยถึงโปรเจคต์ใหม่ของเขา นั่นคือภาพยนตร์ Predators ถาม : คุณเริ่มเป็นแฟนหนัง Predator ตั้งแต่เมื่อไร ตอบ : เริ่มจากหนังครับ ผมจำได้ว่า ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกกับพี่ชาย ตอนเราอยู่ที่ซานอันโตนิโอ พี่ชายผมเป็นนักเพาะกาย เราเลยดูหนังทุกเรื่องที่อาร์โนลด์ ชวาสเนกเกอร์เล่นรวมทั้ง Predator ซึ่งผมชอบมาก และนำเอาแนวหนังมาทำหนังของตัวเองในเวลาต่อมา คือเป็นหนังแนวผสม เช่น From Dusk till Dawn และ Planet Terror รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่นำเอา 2 หรือ 3 หรือ 4 แนวมาผสานรวมกัน Predator เป็นแนวบู๊ล้างผลาญ ที่ผสมกับแนวไซไฟ ผมว่ามันออกมาดีมาก มีประสิทธิภาพมากจริงๆ ถาม : อะไรทำให้คุณอยากทำโปรเจคต์นี้ ตอบ : กลับไปยังปี 1995 ผมได้รับการขอให้เขียนเรื่อง Predator ให้กับฟ็อกซ์ ผมพอมีเวลาอยู่บ้างก่อนที่จะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Desperado ผมก็เขียนให้โดยไม่ได้กำกับและด้วยความที่ไม่ต้องกำกับ ผมเลยทำให้มันระห่ำได้เต็มที่เท่าที่ต้องการ ผมให้เรื่องเกิดบนอีกโลกหนึ่งแล้วก็มีกลุ่ม Predators ผมไม่ต้องพะวงเรื่องงบประมาณในการสร้างเลยเสกสรรให้เป็นยังไงก็ได้ พอผมส่งงานเสร็จก็ไปทำงานทำหนังของผมต่อ และดูเหมือนว่าจะลืมมันไปเลยด้วยซ้ำ พวกเขาก็ทำภาพยนตร์เรื่อง Alien vs. Predator ขึ้นมา จนกระทั่งปีที่แล้วโปรเจกต์นี้ก็ถูกนำกลับมาให้ผมอีก ฟ็อกซ์ถามผมว่าสนใจจะกำกับหรือจะโปรดิวซ์ที่สตูดิโอของผม พวกเขาต้องการนำซีรี่ส์นี้กลับมาทำใหม่ และใช้บทที่ผมเขียน ผมเลือกที่จะเป็นโปรดิวเซอร์ให้เพราะไม่สามารถกำกับได้ เนื่องจากกำลังเร่งกำกับภาพยนตร์อีกเรื่องนึงอยู่ ซึ่งต้องเข้าฉายในซัมเมอร์นั้น ถาม : อะไรทำให้คุณเลือกที่จะเป็นโปรดิวเซอร์แทนการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ และทำไมคุณจึงเลือก นิมโรด แอนตัล ให้เป็นผู้กำกับ ตอบ : นิมโรดเป็นผู้กำกับที่ผมชื่นชมตลอดมา ผมได้ดูหนังเรื่องแรกที่เขากำกับคือ Control ผมบอกได้ตั้งแต่ฉากแรกเลยว่าเขาเป็นผู้กำกับขั้นเทพ เขาเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี ผมได้พบกับเขาและเราเข้ากันได้ดีมาก ผมจำเป็นต้องหาผู้กำกับเพราะกำลังยุ่งอยู่กับอีกโปรเจกต์นึง เลยไม่มีเวลากำกับเอง แต่ผมก็ยังอยากมีส่วนในภาพยนตร์อยู่ เพราะไม่งั้นก็จะหลุดมือผมไปอีกเหมือนเมื่อ 15 ปีก่อน เมื่อผมเจอผู้กำกับที่ใช่ก็เลยทำหนังด้วยกันที่นี่ ผมเคยดูเรื่อง Armored และได้เห็นว่านิมโรดสามารถทำงานร่วมกับเหล่านักแสดงได้อย่างใกล้ชิด ผมเลยรู้ว่าทีมงานของผมจะสามารถร่วมงานกับเขาได้อย่างดี เช่นกัน นิมโรดมุ่งมั่นและสร้างสรรค์อย่างมาก มีวิธีดำเนินเข้าสู่เรื่องได้ดีเยี่ยม และเน้นไปที่การล่า ถาม : เป็นที่รู้กันว่าคุณมักใส่อารมณ์ขันเข้าไปในภาพยนตร์แอคชั่น ครั้งนี้คุณบอกให้ผู้กำกับทำแบบนั้นด้วยหรือไม่ ตอบ : เราต้องระวังกันมากในเรื่องนี้ ทั้งผู้กำกับและผมต้องอ่านบททั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่า มุขขำๆ ที่ใส่เข้าไปจะต้องสอดคล้องกับบุคลิกตัวละคร และเนื้อเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเน้นความเข้มข้นของเรื่องมากกว่า อารมณ์ขันจะใช้อย่างประหยัด แค่ที่จำเป็นเท่านั้น เรื่องอาจดำเนินไปอย่างจืดชืดได้ถ้าความมั่นใจของผู้แสดงลดลง เราทำหนังเรื่องนี้ราวกับมันเป็นเวอร์ชั่นแรก จึงต้องเน้นความรู้สึกเข้มๆ ให้มากหน่อย ถาม : คุณเป็นคนชอบเกาะติดโปรเจคต์ของตัวเองตลอดมา รู้สึกยังไงบ้างกับการเป็นโปรดิวเซอร์อย่างเดียว ตอบ : นั่นเป็นสิ่งที่ผิดแผกออกไปมากสำหรับผม มันเป็นความพยายามในการร่วมงานมากกว่าเพราะผมไม่ใช่คนประดิษฐ์ Predators ในหนังที่ผมสร้างเองบางทีเวลามีไอเดียเกี่ยวกับเนื้อเรื่องและตัวละคร ผมกลับต้องทำทุกอย่างเองคนเดียวเพื่อลดค่าใช้จ่าย ผมต้องทำบัญชีค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กับการเขียนเรื่องหรือออกแบบต่างๆ ต้องทำทุกอย่างแบบพะวักพะวง แต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน เพราะไม่ใช่คอนเซปต์ของผมแต่แรกเริ่ม ผมทำหนังเรื่องนี้ได้ด้วยความรู้สึกของแฟนหนังคนหนึ่ง หรือในฐานะผู้ให้การสนับสนุน และรวบรวมทีมงานที่ดีที่สุด แล้วมองดูทุกอย่างเกิดเป็นชีวิตขึ้นมาในสตูดิโอของผม เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก ผมอยากทำงานโปรดิวเซอร์มากขึ้นและให้คำปรึกษาคนทำหนังรุ่นใหม่ให้มาที่นี่มาทำงานในสตูดิโอแห่งนี้ และสนุกกับการสร้างสรรค์ด้วยกัน ถาม : เวอร์ชั่นใหม่กับเวอร์ชั่นในปี 1980 มีความสร้างสรรค์ต่างกันอย่างไร ตอบ : ตัวละครใน Predator มีความคลาสสิค วิธีที่เราใช้จะไม่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูตอนที่ 5 ในซีรี่ส์แต่จะเหมือนคุณกำลังดูตอนแรก ซึ่งมีความจริงจัง น่าสะพรึงกลัว นั่นคือความรู้สึกตอนที่คนดูยังไม่รู้จักกับสัตว์ร้ายเหล่านี้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องใช้นักแสดงที่ฝีมือเยี่ยมจริงๆ ก็เพื่อให้คุณเชื่อในสิ่งที่นักแสดงเชื่อ แล้วภาพยนตร์ก็จะมีความตื่นตาตื่นใจ กลับมาสดใหม่อีกครั้ง ราวกับเป็นครั้งแรกที่คุณได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ถาม : ภาพยนตร์ของคุณสามารถตอบสนองความต้องการของแฟนหนังที่ต้องการฉากแอคชั่นและความรุนแรงที่มากขึ้นได้หรือไม่ ตอบ : หนังของผมเป็นประเภทเลือดท่วมจอ เป็นหนังแอคชั่นแนวเขย่าขวัญ แต่ด้วยความเป็นหนังที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละคร เป็นหนังที่คนดูจะรู้สึกรักและเป็นห่วงตัวละคร อย่าง Alien ภาคแรก หรือ Aliens ของเจมส์ คาเมรอน หรือ Predator เวอร์ชั่นแรก เราต้องการเร้าความรู้สึกของคนดู เมื่อเขารักตัวละครก็ไม่อยากให้เกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับตัวละคร แต่แน่ละยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้น มันเป็นไอเดียของหนัง ถาม : Predators เวอร์ชั่นใหม่มีความลงตัวในลำดับเหตุการณ์ของภาพยนตร์ชุดนี้อย่างไรบ้าง ตอบ : ผมเริ่มพิจารณาที่จะกลับมาทำหนังเรื่องนี้อีกหลังจากมี Predator 2 ออกมา ผมต้องแกล้งทำราวกับว่าไม่เคยมี Predator 2อยู่เลย และกลับไปที่ Predator 1 เท่านั้น แล้วทำเวอร์ชั่นนี้ตามออกมา ดังนั้นจึงเคยมีเรื่อง Predator และนี่ก็คือ Predators เหมือน Alien กับ Aliens คุณไม่จำเป็นต้องเคยดูอีกเวอร์ชั่นหนึ่งถึงจะดูรู้เรื่อง เวอร์ชั่นนี้มีการเรียงลำดับเหตุการณ์อย่างดีต่อจากเวอร์ชั่นแรกและมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่บ้าง คุณสามารถชมเวอร์ชั่นใหม่เพียงอย่างเดียวก็รู้เรื่อง แต่ผมก็อยากให้คุณดูเวอร์ชั่นแรกด้วย ถาม : เราคาดหวังอะไรจาก Predators เวอร์ชั่นใหม่ได้บ้าง ตอบ : ตัว Predators ในเวอร์ชั่นใหม่มีมากกว่าหนึ่งชนิด มีมากกว่าหนึ่งเผ่าพันธุ์ และมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต มนุษย์ไม่ใช่เหยื่อชนิดเดียวบนดาวแห่งนี้ Predators มีวิวัฒนาการและพัฒนาความเป็นนักล่าของตัวเองโดยเรียนรู้จากสิ่งมีชีวิตที่พวกมันล่า เราจะได้เห็น Predators จากเผ่าพันธุ์ต่างๆ กัน พวกมันซาดิสต์และชั่วร้ายมากขึ้นมันจะทำทุกอย่างเพื่อเป็นผู้ชนะ ถาม : Predators มีบุคคลิกภาพแห่งคุณธรรมอย่างซามูไรบ้างไหมตอนที่มันล่า ตอบ : แน่นอน มีกฎสำหรับเหล่า Predator ที่คุณจะรู้จักและรัก แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มี Predators มากกว่าหนึ่งเผ่าพันธุ์ มีเผ่าที่ไม่ลงรอยกับเผ่าอื่นและมันไม่ได้มีคุณธรรมเหมือนเผ่าอื่น เราเรียกพวกมันว่าบีเซอร์เกอร์ มันจะทำทุกอย่างที่มันอยากจะทำ มีความชั่วร้ายกว่ากลุ่มอื่น มันยิงคนที่ไม่มีอาวุธต่อสู้เลยก็ได้ ถาม : มีอาวุธใหม่ๆ ของ Predator บ้างไหม ตอบ : มีมากเพราะพวกมันมีพัฒนาการจากการล่าเหยื่อชนิดต่างๆ และพวกมันพัฒนาขึ้นมากจากเมื่อครั้งที่คุณเคยเห็น พวกมันมีเทคนิคการล่าใหม่ๆ และอาวุธใหม่ๆ พวกมันตื่นเต้นกับความโหดร้ายที่จะเกิดขึ้น เราเพิ่งเริ่มทำเอฟเฟ็คต์กัน และเป็นสิ่งน่าตื่นเต้นที่จะเห็นเอฟเฟ็คต์เสร็จ ถาม : คุณจะนำอาวุธเก่าๆ ของ Predator กลับมาใช้อีกไหม ตอบ : เรายังรักษาสิ่งที่เราชอบจากเวอร์ชั่นแรก และเพิ่มเติมสิ่งใหม่เข้าไป พวกเขายังคงมีกล้องกับมีดดาบอยู่ในมือ นั่นคือจุดตั้งต้นและเราต่อเติมจากตรงนั้น ถาม : เลือดของ Predators มีสีอะไร ? ตอบ : เอ่อ มีความคลาสสิคของ Predators แบบออริจินัล เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของผมตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้ว พวกตัวละครต้องเผชิญหน้ากับ Predator ชนิดเดียวกับที่คุณเห็นในเวอร์ชั่นแรก เป็นเผ่าพันธุ์เดิม หน้าเดิม ร่างกายเดิมอาวุธเดิม เหมือนกับตอนที่อาร์โนลด์เล่น ซึ่งหลังจากนั้นมีการเปลี่ยนดีไซน์ไปมาก จนคุณจำพวกมันไม่ค่อยได้ จึงเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นของออริจินัล และสีเลือดก็ยังเป็นสีเดิม ส่วน Predators ตัวใหม่ๆ ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะให้สีเลือดพวกมันเป็นสีอะไร เราใช้ของเหลวในการถ่ายทำ แต่สีก็สามารถเปลี่ยนได้หมด ถาม : ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวละครที่เป็นมนุษย์ให้ฟังหน่อย ตอบ : ตัวละครของเราเป็นนักฆ่าจากทั่วโลก และมาจากทุกชนชั้น คนหนึ่งมาจากแก็งค์ยาเสพติด คนหนึ่งเป็นผู้พิทักษ์กฎหมาย อีกคนเป็นทหารรับจ้าง อีกคนเป็นมือปืนซุ่มยิงส่วนอีกคนเป็นนักโทษแดนประหาร ไอเดียมีอยู่ว่า Predators พัฒนาผ่านการสู้รบและการล่า ดังนั้นมันจึงเลือกศึกษาคนต่างๆ เหล่านี้ เพื่อดูว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร พวกมันไม่ต้องการคนกลุ่มเดิมๆ และจะไม่ล่ากลุ่มคนที่มีลักษณะเหมือนๆ กัน เพราะมันไม่ต้องการเหยื่อชนิดเดียว พวกมันจะล่าคนที่มีความคิดจิตใจแตกต่างออกไป แล้วเรียนรู้จากคนพวกนั้น โดยเฉพาะคนที่สามารถต่อกรกับมันได้ มันจะสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะนั่นคือคนที่ทำให้มันเรียนรู้ได้มากที่สุด มันต้องการความท้าทายจากเหยื่อที่ไม่เหมือนกัน ถาม : นักแสดงบางคนดูเหมือนไม่เหมาะกับบทที่ได้รับ คุณมีหลักในการคัดเลือกนักแสดงอย่างไร ตอบ : ผมชอบการคัดนักแสดงอย่างมาก หากพวกเขาเป็นนักแสดงที่เก่งกาจและให้รับบทที่พวกเขามักจะไม่ได้เล่นในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ หนังทุกเรื่องของผมมักจะทำแบบนี้ คือ ให้นักแสดงเข้ามาลองเล่นดู ผมจ้างจอร์จ คลูนี่ย์ กลับเข้ามาเล่นอีก เมื่อเขาเบรกจากทีวีซีรี่ส์เรื่อง ER ครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นเขามีภาพลักษณ์ของคุณหมอผู้อ่อนโยน คนดูก็เลยหลงคิดว่าเขาเป็นได้แค่นั้น แต่ลืมไปว่าเขาคือนักแสดงฝีมือฉกาจที่เล่นบทอะไรก็ได้ ผมเลยจ้างเขามารับบทนักฆ่าในภาพยนตร์ From Dusk Til Dawn ผมชอบทำแบบนี้มาก เอเดรียนก็อยากทำอย่างที่จอร์จ และอันโตนิโอ บันเดอเรส มาร่วมงานภาพยนตร์แอคชั่นกับผม นักแสดงผู้เก่งกาจสามารถเล่นบทอะไรก็ได้ ผมรู้ว่าเอเดรียนจะรับเล่นบทนี้ เขาเตรียมความของร่างก่าย ส่วนด้านจิตใจเขาจ้องจะเซอร์ไพรส์คนดูอยู่แล้ว เขามีความสามารถในการแสดงที่จะทำให้คนดูเชื่อว่าทุกอย่างที่เขาทำเป็นเรื่องจริง นั่นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง เป็นวิธีที่ทำให้คนดูรู้สึกสดใหม่ ถ้าเราดูนักแสดงเล่นบทที่เขาก็เล่นบ่อยๆ อยู่แล้ว มันก็เป็นอะไรที่ชวนให้หลับ แต่เมื่อเราให้นักแสดงเล่นบทที่เขาก็เล่นบ่อยๆ อยู่แล้ว มันก็เป็นอะไรที่ชวนให้หลับ แต่เมื่อเราให้นักแสดงเล่นบทที่เขาไม่เคยเล่นมาก่อน ก็จะดูเหมือนเสี่ยงมากกว่าแต่ก็เปล่า เพราะเอเดรียนเป็นตัวเลือกที่สุดยอดจริงๆ ถาม : อะไรคือเหตุผลที่เลือกเอเดรียน โบรดี้มาแสดงเรื่องนี้ทั้งๆ ที่เขาดูไม่เหมาะกับหนัง ตอบ : เขารับบททหารรับจ้างที่ต้องเป็นผู้นำกลุ่มนักฆ่าอย่างไม่เต็มใจนัก เขาไม่ใช่แนวนักรบสุดขั้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวละครที่อาร์โนลด์เล่นจะไม่ฉลาด เพียงแต่ตัวละครที่เอเดรียนเล่นจะดูปราดเปรื่องและเลือดเย็น อีกทั้งมีความแตกต่างจากนักฆ่าในกลุ่มเดียวกันเป็นคนที่คิดถึงตัวเองเท่านั้น การจะดึงบุคคลิกเช่นนี้ออกมาได้ ต้องใช้คนที่เป็นนักแสดงขั้นสมบูรณ์แบบ เอเดรียนสนใจรับเล่นและเมื่อมีนักแสดงรางวัลออสการ์มาเล่นให้ เราก็มาถูกทางแล้ว เมื่อคุณดูนักแสดงที่ใช่ คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังดูเรื่องจริง ตัวละครก็ดูเป็นคนที่มีตัวตนจริงๆ ซึ่งต่างจากการดูการ์ตูน คุณจะรู้สึกถึงความน่ากลัวได้มากขึ้นเมื่อคุณเชื่อว่าทุกอย่างที่เห็นเป็นของจริง ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยนักแสดง ถาม : มีนักแสดงคนอื่นๆ ที่จะทำให้เราแปลกใจได้อีกไหม ตอบ : นักแสดงทุกคนรับบทแตกต่างกันไป อลิซ บราก้า ก็น่าทึ่ง ส่วนลอเรนซ์ ฟิชเบิร์นก็เล่นได้ยิ่งใหญ่ เขาระเบิดอารมณ์ออกมาเลย ผมชอบเวลาที่นักแสดงมาถ่ายทำแล้วก็หายตัวไปกลายเป็นตัวละครในบทต่างๆ เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เราถ่ายทำกันเร็วมากและบทก็เป็นบทที่นักแสดงไม่ค่อยได้เล่น แต่งานก็ออกมาดีและพวกนักแสดงก็ชอบมาก ถาม : ช่วยเล่าเบื้องหลังการเลือกอลิซ บราก้า มาแสดงหน่อยได้ไหม ตอบ : ในบทภาพยนตร์ออริจินัล ผมมีตัวละครผู้หญิงเพียงตัวเดียว และเป็นตัวละครที่สำคัญสำหรับผม ผมมีพี่น้องผู้หญิง 5 คน ก็เลยต้องมีตัวละครหญิงแกร่ง ไม่ใช่มีไว้แค่เพื่อการแสดง แต่ต้องเป็นหัวใจของเรื่อง เราจึงต้องหานักแสดงที่ใช่ ผมเป็นแฟนหนังของอลิซมาตั้งแต่ได้ดูเธอครั้งแรก ตอนเธอเล่นเรื่อง City of God แล้วก็เลยติดตามหนังของเธอเรื่อยมา เพราะผมชอบดูความสามารถของชาวลาติน ส่วนขั้นตอนการคัดตัวนักแสดงก็เรียบง่าย ผมขอให้เธออ่านบท แล้วลองเล่นดู ตอนนั้นเธออยู่นิวยอร์ค ทีมงานได้ส่งบทไปให้เธอทางอินเตอร์เน็ทและเธอก็เล่นแล้วส่งกลับมาให้ดู ผมนั่งดูเธอผ่านจอคอมพิวเตอร์เล็กๆ ที่โต๊ะตัวนี้ ผมบอกได้ตอนนั้นเลยว่าเธอใช่เลย ผมเรียกผู้กำกับให้มาดู เขาก็ตกหลุมรักเธอด้วย เราตกลงจ้างเธอ เธอเยี่ยมจริงๆ ถ้าดูจากจอเล็กๆ ยังทำได้ดีขนาดนั้น เวลาเธออยู่บนจอยักษ์จะขนาดไหน เธอเป็นขั้นเทพจริงๆ ถาม : คุณคัดเลือกแดนนี่ เทรโจ มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างไร ตอบ : ผมไม่ใช่คนเลือกแดนนี่มาเล่นเรื่องนี้ พวกเขียนบทต่างหากที่เป็นแฟนหนังของแดนนี่ พวกเขารู้ว่าผมกำลังทำหนังเรื่อง Machete อยู่ เราพยายามคิดถึงตัวละครที่น่าจะมาอยู่เคียงข้าง เอเดรียน อลิซ และลอเรนซ์ เราอยากให้ตัวละครนั้นเป็นแนวเจสซี เวนทูรา พวกเขาเขียนบทที่มีตัวละครแนวแดนนี่ เทรโจ โดยไม่อยู่ในบทออริจินัลของผม เราเลยให้แดนนี่เล่น เขาเองก็รู้สึกสนุกมากในการเล่นเรื่องนี้ ถาม : คุณตัดสินใจอย่างไรในการให้หลุยส์ โอซาวา ชางเฉียน เล่นเป็น ฮันโซ นักเลงยากูซา ตอบ : เราเปิดกว้างในการคัดเลือกตัวแสดง ซึ่งต้องมีบุคลิกลักษณะและหน้าตาที่น่าสนใจ เราเห็นหลุยส์และคิดว่าเขาช่างเหมาะสม เขามีบุคลิกที่ยิ่งใหญ่ และทันสมัย ลักษณะของเขาทำให้คนไม่สามารถคาดเดาได้ง่าย เราต้องเขียนเรื่องเพิ่มเพื่อเป็นแบ็คอัพให้บุคลิกและความเป็นมาของเขา ความฝันของคนทำหนังก็คือ การได้พบนักแสดงที่สามารถทำให้ตัวละครมีชีวิตขึ้นมาแล้วช่วยให้นักแสดงเหล่านั้นไปถึงตอนจบที่อาจเขียนขึ้นใหม่ คุณอาจมีคอนเซปต์อยู่แล้ว แต่นั่นยังไม่สมบูรณ์จนกว่าใครคนหนึ่งจะทำให้มันมีชีวิตขึ้นมา ตัวละครที่หลุยส์เล่นมีความเก่งเฉียบขาด เขาจึงต้องแสดงชนิดที่ผมคิดว่าแฟนหนังต้องตื่นตะลึงในสิ่งที่เขาเล่น ถาม : คุณมีการเทรนนักแสดงอย่างไรบ้าง ตอบ : อย่างเร็ว เราเริ่มจ้างเขาเพียงสองสามอาทิตย์ก่อนถ่ายทำ และเริ่มเทรนกันเลยจากสถานที่ที่เป็นฉากของเรื่อง พวกเขาไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนักเช่นเดียวกับตัวละครที่ไม่มีเวลามากนักในการต่อสู้เอาชีวิตรอด ความฉุกละหุกจึงกลายเป็นตัวช่วยให้นักแสดงมีพลัง เพราะทุกคนต้องพยายามเร่งตัวเองให้ทันกับบท ทำให้หนังออกมามีคุณภาพจริงๆ โชคดีที่ทุกคนมีสภาพร่างกายที่พร้อมมาก่อนแล้ว ทำให้แสดงออกมาได้ดีเมื่อถึงเวลา ถาม : อาร์โนลด์ ชวาสเนกเกอร์ จะมาเป็นดารารับเชิญเรื่องนี้หรือไม่ ตอบ : เราหวังพึ่งอาร์โนลด์ไม่ได้เพราะเขาเป็นผู้ว่าการรัฐ ซึ่งต้องยุ่งอยู่กับสิ่งที่สำคัญกว่า เราต้องทำหนังของเราให้ดีก่อน อาจมีบางอย่างในภาพยนตร์ที่ทำให้คนดูนึกถึงเขา อาจมีบทที่พูดถึงเขา ผมว่าเราต้องทำหนังให้ดีจริงๆ ถ้าคนชอบมากก็อาจมีภาคต่อ ซึ่งอาจมีอาร์โนลด์มาเล่นในภาคต่อก็ได้ ผมเคยคุยกับเขาในครั้งที่เขียนเรื่องเมื่อ 15 ปีก่อน ทำให้รู้ว่าเขารักซีรี่ส์นี้มาก ถาม : จะมีคำฮิตติดปากขำๆ เหมือนในเวอร์ชั่นออริจินัลไหม ตอบ : มี มีเยอะด้วย เราอยากให้หนังมีคำฮิตติดปากที่คุณเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ถาม : คุณอยากกำหนดให้ Predators เป็นหนังเรตไหน ตอบ : เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้ว เราอยากให้เป็นหนังที่มีความรุนแรง ผมไม่รู้ว่าในประเทศอื่นๆ จะถูกจัดให้เป็นเรตไหน แต่ในอเมริกาเป็นเรต R (คือหนังที่มีความรุนแรงและไม่เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี) จริงๆ แล้วทางสตูดิโออยากให้เราทำหนังที่โหดแค่ไหนก็ได้สำหรับเป็น DVD ที่ไม่ต้องถูกจัดเรตติ้ง เราไม่ต้องการยั้งมือ แต่ต้องการทำหนังที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ คงจะเป็นเรื่องยากถ้าต้องพยายามทำให้หนังเรื่องนี้นุ่มนวลลงจนดูได้ทุกเพศทุกวัย ถาม : ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยกล้องดิจิตอลใช่หรือไม่ ? ตอบ : เราถ่ายทำด้วยกล้องพานาวิชั่นดิจิตอล ก็เป็นเรื่องดีที่เราสามารถเห็นสิ่งที่เรากำลังทำอย่างที่มันเป็นจริงๆ คุณสามารถหมุนกล้องเพื่อดูภาพที่คุณต้องการ ทุกคนสามารถเห็นภาพเหล่านั้นได้โดยเฉพาะการถ่ายฉากสัตว์ร้าย ผมชอบการถ่ายทำในลักษณะนั้น ผู้กำกับภาพก็ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาเคยถ่ายทำด้วยกล้องดิจิตอลมาก่อน เป็นการถ่ายโฆษณาเท่านั้น แต่เขาก็ถ่ายภาพยนตร์ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ถาม : คุณเคยคิดจะทำ Predators ให้เป็นหนัง 3D บ้างไหม ตอบ : มันไม่ใช่หนังที่เหมาะจะเป็น 3D หนำซ้ำเรายังมีเวลาน้อยเลยดูไม่น่าจะทำได้ แต่ก็อาจเป็นภาคต่อไป.... ถาม : ตอนนี้เป็นยุคของคอมพิวเตอร์กราฟฟิค แต่ทำไมหนังของคุณถึงไม่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคในการสร้างตัว Predators เลย ตอบ : เราใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคในการเพิ่มประสิทธิภาพในบางฉาก แต่สำหรับตัว Predators เอง เราอยากใช้วิธีเก่าๆ เพราะมันออกมาดูดีกว่า เพราะนักแสดงสามารถตอบโต้อารมณ์กับมันได้ ทำให้ดูหนักแน่นกว่าการใช้กราฟฟิค เพราะพวกมันมีความเป็นมนุษย์ คุณสามารถปฏิสัมพันธ์กับมันได้ สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นที่เราต้องไปเปลี่ยน มันไม่ได้เสียหายตรงไหน ถาม : คุณเล่าเรื่องเพลงประกอบภาพยนตร์ให้ฟังหน่อยได้ไหม ? ตอบ : ผมจ้างจอห์น เดบนี่ย์มาทำเพลงประกอบภาพยนตร์ ผมเคยร่วมงานกับเขามาก่อนแล้ว เขาเก่งมาก หนังที่เราร่วมงานกัน เช่น Sin City เมื่อเขาทำเพลงประกอบเรื่อง Iron Man 2 เสร็จแล้วก็มีเวลาว่าง เราเลยให้เขาร่วมงานเรื่องนี้ เขาอยากให้ผมให้ไอเดียเรื่องเพลงประกอบด้วย เราชอบทำงานด้วยกัน ผมกำลังจะทำเพลงประกอบเรื่อง Machete ก็ต้องดูว่าผมจะมีเวลามาช่วยจอห์นไหม แต่ก็จะพยายามช่วยเสริมอะไรเข้าไปบ้าง เรามีเพลงประกอบดีๆ ที่จะใช้ เราคิดว่าจะใช้เพลงของอลัน ซิลเวสทรี่ คุณจะได้ยินเพลงที่ใช้ในเวอร์ชั่นแรกในเรื่องนี้ด้วย มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ ผมดีใจที่เราได้ใช้มันอีก คุณจะไม่รู้สึกว่าเป็นหนัง Predatorจริงๆ ถ้าไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งจาก Predator มาใส่ไว้ด้วย ถาม : Predators เวอร์ชั่นนี้มีการกำหนดลักษณะตัวละครที่ลึกกว่าเดิมหรือไม่ ตอบ : ใช่ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ เราอยากให้ตัวละครแต่ละตัว ตัวละครที่เป็นมนุษย์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดาวดวงเด่นในภาพยนตร์ พวกเขามาจากต่างที่ และเป็นนักฆ่าต่างประเภทกัน ไม่ใช่กลุ่มตัวละครที่มีลักษณะเหมือนๆ กันสู้รบกับตัวละครอีกกลุ่มที่ก็มีลักษณะเหมือนกันทั้งกลุ่ม เราต้องให้ตัวละครมีบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวและคนดูสามารถแยกแยะแต่ละตัวละครออกจากกันได้ และเข้าใจความเป็นตัวละครเหล่านั้น เราใช้เวลาอย่างมากเพื่อทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ถาม : คุณไปหาฉากถ่ายทำที่เป็นป่าได้จากที่ไหน ตอบ : อยู่ที่ฮาวายในพื้นที่ที่ไม่มีใครไปถึง แต่มันสวยงามและก็ดูเถื่อนๆ เป็นบริเวณที่เป็นป่าทึบของฮิโล เข้าไปได้ยาก ก็มีที่นั่นและที่เท็กซัส หลายสถานที่ที่คุณเห็นในภาพยนตร์อยู่ในและรอบๆ ออสติน สตูดิโอจะโทรถามวันเว้นวันว่า “เจอสถานที่ถ่ายทำหรือยัง” มันก็อยู่ใกล้แค่นี้ อยู่ที่ออสตินนี่เอง มีโขดหินแปลกๆ พื้นที่ธรรมชาติที่ดูแปลกตา และสวนสาธารณะต่างๆ ถาม : ช่วยเล่าถึงหมาล่าเนื้อใน Predators ให้ฟังหน่อย ตอบ : ผมชอบไอ้พวกนี้มากเลย มันบ้าดี เราอยากนำเทคนิคการล่าเหล่านี้กลับมาสู่ Predators มี Predator ชนิดหนึ่งที่คุณอาจเรียกมันว่า Predator แกะรอยเหยื่อ Predator ชนิดนี้จะมีหมาล่าเนื้อพวกนี้ด้วย ผมไม่รู้จะบรรยายพวกมันว่าอะไร มันฟัดเหยื่อกระจุย พวกมันดุร้าย ดูน่าเกลียดน่าขยะแขยง และดูเหมือนจริง เราสร้างมันขึ้นมาโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคเข้าช่วย พวกมันร้ายจริงๆ ผมชอบ ถาม : ทำไมคุณถึงสร้างภาพยนตร์ที่มีปรากฏอยู่แล้ว ตอบ : ปกติผมก็ไม่ทำแบบนั้น เพราะผมเดินตามแนวทางของจอร์จ ลูคัสที่เขาบุกเบิกไว้ก่อน ผมจำได้ว่าเขาอยากทำหนังเรื่อง Flash Gordon แต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากผู้มีลิขสิทธิ์ เขาเลยไปเขียนเรื่อง Star Wars และทำหนังเรื่องนี้แทน ซึ่งก็ได้ผลตอบรับออกมาดีกว่าเสียอีก ผมเลยพยายามทำหนังของตัวเองที่แตกแนวออกไป ถ้ามีคนถามผมว่าอยากกำกับหนังเจมส์ บอนด์ไหม? ผมจะตอบว่าขอสร้างเจมส์ บอนด์ของตัวเองและเรียกมันว่า Spy Kids ก็แล้วกัน ขณะที่ Predators แตกต่างออกไปเพราะเรื่องเขียนขึ้นเมื่อปี 1995 และผมไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องทำอะไรกับมัน เมื่อมันถูกนำกลับมาให้ผมอีกครั้ง ผมก็ยังชอบตัวละครเหล่านั้นอย่างไม่เสื่อมคลาย และคิดว่าโปรเจกต์นี้น่าจะสนุกสำหรับทีมถ่ายทำ เราได้เรียนรู้อย่างมากในการถ่ายทำด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่คุณคิดว่าคุณจะไม่ได้กลับไปทำอีก แถมเป็นภาพยนตร์ที่ถูกนำไปทำเป็นการ์ตูนอย่างต่อเนื่อง จึงต้องคิดว่าจะสร้างสรรค์ให้มันกลับมาน่าสะพรึงกลัวอีกครั้งได้อย่างไร นั่นคือ ความท้าทายครั้งใหญ่ และนั่นคือเหตุผลที่เราอยากทำมัน ถาม : คุณทำอย่างไรให้ Predator กลับมาสู่ความเป็นเลิศอีกครั้ง ตอบ : ความเป็นเลิศมันอยู่ที่ความน่าสะพรึงกลัว เราค้นพบว่าหนังเรื่องนี้สามารถกลับมาน่ากลัวได้ถ้ากลับไปที่การล่า และลงไปในเทคนิคการล่าของ Predator รวมทั้งเหตุผลที่ทำไมพวกมันถึงได้ตามล่าเรา ทำไมมันถึงเริ่มสนใจเรา คุณจะไม่สามารถทนได้กับการเลือกจังหวะล่าของ Predator คุณจะมาถึงหายนะทันทีที่คุณรู้สึกดี นั่นเป็นแง่มุมหายนะที่เรานำมาเล่นกันมาก เราทำให้คุณตกหลุมรักตัวละครแล้วก็ทำให้พวกเขาต้องพบกับความสยดสยอง ซึ่งสิ่งนี้เหมือนกับ Predators อย่างมาก มันต้องการให้คุณมีหัวจิตหัวใจต่อกัน มันต้องการให้คุณมีความเป็นมนุษย์เพราะนั่นคือสิ่งที่มันต้องการจะล่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ