เจ็ดในสิบของผู้บริโภคชาวไทยเผยกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติแล้วหลังจากความไม่สงบทางการเมือง ทีวี และอินเตอร์เน็ต แหล่งข้อมูลที่สำคัญที่สุด

ข่าวทั่วไป Thursday June 24, 2010 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--นีลเส็น จากผลการสำรวจทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาจาก นีลเส็น ผู้นำด้านการวิจัยทางการตลาดและข้อมูลชั้นนำของโลก พบว่าแม้เหตุการณ์ในจุดที่รุนแรงที่สุดเพิ่งผ่านพ้นไปประมาณหนึ่งเดือน ชาวไทยกล่าวว่าพวกเขาได้กลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติแล้ว งานวิจัยชิ้นนี้ยังเปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทย การใช้สื่อ ในช่วงเวลานั้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ตั้งใจจะเปลี่ยนหลังจากเหตุการณ์จบลง รายงานชิ้นนี้เกิดจากการรวมผลงานการวิจัยจากหลายส่วนงานของนีลเส็น อาทิ การวิจัยออนไลน์ ซึ่งนีลเส็นทำการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ต อายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 500 คนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8-14 มิถุนายน รวมถึงข้อมูลการซื้อสินค้า อุปโภค บริโภค จาก นีลเส็นรีเทล ออดิด การติดตามพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภคของครัวเรือน จากนีลเส็น โฮม สแกน และพฤติกรรมการใช้สื่อทีวี และวิทยุ จาก นีลเส็นมีเดีย ทีวี และ อินเทอร์เน็ต เป็นช่องทางการรับข่าวสารที่สำคัญที่สุด จากการสำรวจ เมื่อนีลเส็นถามว่าช่องทางใดคือช่องทางหลักในการรับข่าวสารในช่วงเหตุกาณ์ไม่สงบ ผู้บริโภคมากถึงเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์กล่าวว่า พวกเขาติดตามข่าวจากทีวี นอกจากนี้กลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากเกือบจะเท่ากัน ใช้สื่ออินเตอร์เน็ต ( 94%) อันดับรองลงมาคือ หนังสือพิมพ์ (76%) และ วิทยุ (43%) ตามลำดับ ที่น่าสนใจจากการสำรวจก็คือ แหล่งข่าวใหม่ๆ เช่น บล็อก ออนไลน์ (35%) และ Twitter (25%) ก็ได้รับการกล่าวถึงเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของคนในด้านการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆในช่วงเวลานั้น (ตารางที่ 1) และเนื่องจากผู้บริโภคต้องการติดตามข่าวสารเป็นอย่างมากในช่วงเหตุการณ์นี้ นีลเส็นได้พบการดูทีวี และฟังวิทยุในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมสูงมากอย่างเห็นได้ชัด จากผลการสำรวจด้านทีวีเรทติ้ง ระหว่าง 13-21 พฤษภาคม 2553 นีลเส็นพบว่าคนในกรุงเทพดูทีวีเพิ่มมากขึ้นถึง ยี่สิบสามเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน นอกจากนี้ ในวันที่ 19 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันที่กลุ่มผู้ชุมนุมถูกยึดพื้นที่คืนและรัฐบาลประกาศการห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล นีลเส็นพบว่า จำนวนผู้ดูทีวีในกรุงเทพเพิ่มพุ่งขึ้นถึง สามสิบหกเปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกันวันเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนทางด้านวิทยุ นีลเส็นพบจำนวนคนฟังวิทยุในการติดตามข่าวสารเพิ่มขึ้นสิบสี่เปอร์เซ็นต์ ในเดือนพฤษภาคม 2553 ผู้บริโภคซื้ออะไรในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบ จากดัชนีรายงานการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่เกิดขึ้นใน ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว และโชว์ห่วย โดยรวมแล้วธุรกิจของกลุ่มสินค้าสินค้าอุปโภค บริโภค (FMCG) มีการชะลอการเติบโตในเดือนพฤษภาคม 2553 มาที่ 4.9 เปอร์เซนต์ จาก 8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายน เนื่องจากผู้บริโภคซื้อแต่สิ่งของที่จำเป็น (ตารางที่2 ) นายแอรอน ครอส กรรมการผู้จัดการ บริษัทนีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ระหว่างเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองเราสังเกตุว่าคนทานข้าวที่บ้านมากขึ้น ซึ่งก็หมายถึงว่าจำนวนครัวเรือนมากขึ้น ในกรุงเทพซื้อข้าวและอาหารแช่แข็ง ขณะเดียวกันครัวเรือนต่างๆ ก็ทำการกักตุนสินค้าอาทิ อาหารสด นมผง บะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง และอาหารสำเร็จพร้อมรับประทานมากขึ้น” “ผลกระทบทางด้านลบจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในเดือนพฤษภาคม ที่มีต่อการเติบโตของของกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค (FMCG) เกิดขึ้นในกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัด อย่างไรก็ตามเรามองว่าการเติบโตของกลุ่มสินค้านี้จะคืนสู่ปกติตั้งแต่มิถุนายน” ผู้บริโภคเน้นในเรื่องของความคุ้มราคา การใช้เวลาที่ดีกับครอบครัว และประหยัด หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าเจ็ดในสิบของผู้บริโภคชาวไทยคาดหวังว่าพวกเขาจะกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติทันที หรือภายในหนึ่งเดือนหลังจากความไม่สงบทางการเมือง ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้น วางแผนจะใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น (53%) อยู่บ้าน (49%) ออมเงิน (39%) และ มองหาสินค้าที่คุ้มราคา (25%) นาย แอรอน ยังกล่าวต่ออีกว่า “เหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคมถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ โดยหลังจากนั้นเราได้เห็นความภูมิใจในชาติที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยยังคงจะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และยืนได้อย่างแข็งแกร่งในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากหนึ่งในสี่ (24%) ของผู้บริโภค วางแผนที่จะสนับสนุนการซื้อสินค้าไทยมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้” เมื่อถามถึงการวางแผนทางด้านการเงินหลังจากนี้ ผู้บริโภคกล่าวว่าพวกเขาตั้งใจที่จะเพิ่มเงินออม (31%) สลากออมสิน (30%) ซื้อทอง (22%) และ เพิ่มประกันชีวิต (20%) ในการลงทุนในอนาคต (ตารางที่ 3) ห้างโปรดหลังจาก เซ็นทรัล เวิลด์ ถูกทำลาย หลังจาก เซ็นทรัล เวิลด์ ถูกทำลาย ชาวกรุงเทพเลือกที่จะไป เดอะ มอล์ บางกะปิ เป็นสถานที่สำหรับ ชอปปิ้ง ทานอาหาร และเดินเล่น มากที่สุด (27%) อันดับรองลงมาคือ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า (23%) ตลาดนัดจตุจักร (22%) และเซ็นทรัล ลาดพร้าว ( 21%) เกี่ยวกับนีลเส็น บริษัท นีลเส็น จำกัด เป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลทางการตลาด และข้อมูลทางสื่อ ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงการตลาดเป็นอย่างดี โดยบริษัทให้บริการด้านข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภค รวมถึงการบริการการตรวจวัดและจัดเก็บข้อมูลทางด้านสื่อต่างๆ นีลเส็นเป็นบริษัทเอกชนที่เปิดดำเนินการมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมี สำนักงานใหญ่อยู่ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nielsen.com ตารางที่ 1 ตารางที่ 2 ตารางที่ 3

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ