กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--เจเอสแอล
“สุริวิภา” เบิกฟ้ารับปีหมูด้วยเรื่องราวของสิ่งมีค่าที่อยู่ใกล้ตัวเราทุกคนมากที่สุด “ข้าว” อาหารหลักประจำชาติของชาวไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แปลงท้องทุ่งย่านรังสิตพื้นที่กว่า 6 ไร่ ให้เป็นห้องเรียนกลางแจ้งขนาดใหญ่ให้นักศึกษาสัมผัสชีวิตจริงของชาวนา โดยมี ดร.การดี ปรีชานนท์ ผู้ช่วยอธิการบดีฯ เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปได้เห็นความงดงามอันเกิดขึ้นบนท้องทุ่งธรรมศาสตร์
“ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน เป็นแหล่งผลิตบัณฑิตที่มีความเลิศด้านวิชาการ มีคุณธรรมและทำเพื่อประชาชน ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ได้ริเริ่มโครงการที่หวังผลให้นักศึกษามีความเข้าใจเห็นอกเห็นใจประชาชน 70% ของประเทศที่มีอาชีพชาวนา นำเอาชีวิตจริงและ ขั้นตอนการทำนามาให้นักศึกษาสัมผัสด้วยตัวเอง เราเชิญชวนให้น้องปีหนึ่งและทุกชั้นปีไม่จำกัดคณะอาสาสมัครมาทำนา หลังจากเตรียมพื้นที่ก็เริ่มปักดำเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 49 วันแรกการทำนาเป็นการร่วมตัวคนระดับด็อกเตอร์มาลงแขกดำนาได้มากที่สุด นำโดยดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นายกสภามหาวิทยาลัยฯ ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ ตลอด 6 เดือนที่ปลูกข้าวดูแลนา เรามีชาวนา ชาวบ้านแถวปทุมธานี นักศึกษาที่มีความรู้ ช่วยกันถ่ายทอดความรู้วิธีการทำนา จนเราเก็บเกี่ยวข้าว ส่งเข้าโรงสีและจะนำผลผลิตจากหยาดเหงื่อมาหุงทานร่วมกันใน “วันรับประทานข้าว” วันที่ 10 มกราคมนี้ ดิฉันเชื่อมั่นว่า ส่วนหนึ่งในนักศึกษาพันกว่าคนที่อาสาสมัครมาทำนาจะมีความเห็นอกเห็นใจเข้าใจในวิถีชีวิตของชาวนาได้มากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่เขาอยู่ท่ามกลางสังคมวัตถุนิยมและใส่ใจสังคมน้อยลง เราไม่ได้หวังผลให้เขาทำนาเป็น แค่ให้เขาสะกิดใจเข้าใจ ที่เชื่อว่าได้ผลแน่ๆ เพราะแม้แต่ลูกสาว น้องขิม-เด็กหญิงพอดี ที่เคยไปเรียนรู้การดำนา ยังบอกได้ว่าเราต้องทานข้าวให้หมดอย่าให้เหลือ สงสารชาวนา เขาลำบากมาก กว่าจะได้ข้าวแต่ละเมล็ด เพียงเท่านั้นโครงการเราก็บรรลุผลแล้ว และเรายังมีการทำโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาผลผลให้กับชาวนาด้วย”
เรื่องราวส่วนตัวของ ดร.สาวแสนสวย ก็น่าสนใจไม่แพ้กับงานที่ทำ ดร.การดี หรือ“อ้อ” เล่าว่า “ดิฉันจบด้านวิศวกรรมอุตสาหการ ปริญญาตรีที่ธรรมศาสตร์ ต่อป.โทและเอกที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน สหรัฐอเมริกา ขณะต่อป.เอก ทำงานไปด้วยเป็นผู้ช่วยอาจารย์สอนป.ตรีและโทที่นั่น จนมีนักศึกษาทักว่า หน้าเธอเหมือนเด็กมัธยมมากกว่าจะเป็นอาจารย์ ก็เลยขอโทษที่ช่วยไม่ได้ว่าเราเรียนเร็วกว่าเขา ทุกวันนี้สอนบริหารอุตสาหการคณะพาณิชย์ฯ และเป็นผู้อำนวยการศูนย์ให้คำปรึกษาทางธุรกิจของมหาวิทยาลัยฯ อาจเป็นเพราะเป็นคนตรง คิดซับซ้อนเชิงธุรกิจไม่เป็นจึงตั้งเป้าหมายมาทางนี้ ทั้งที่ตอนจบเอกก็มีบริษัทที่อเมริกาจะให้เงินเดือนหกหลัก ก็ตัดสินใจไม่รับเพราะคิดว่าตอนที่เราเรียนได้รับทุนสะดวกสบายเหมือนชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบแล้ว น่าจะถึงเวลาที่เราต้องทำอะไรให้บ้านของเราเองแล้ว”
ยังมีวิธีคิดที่น่าติดตามจากมุมมองของหญิงสาวที่มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสังคม ติดตามได้ใน “สุริวิภา” วันพุธที่ 10 มกราคมนี้ เวลาดีสี่ทุ่ม ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ต้องการข้อมูลเพิ่มติดต่อ วิรดา อนุเทียนชัย (วิ) 0 — 1804 - 5493
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net