กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอเผย ต่างชาติเชื่อมั่นประเทศไทยมากยิ่งขึ้น หลังฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศลงทุนตั้งฐานการผลิตรถยนต์แบบใหม่ที่ไม่เคยผลิตในไทยมาก่อนถึง 5 รุ่น และมีแผนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทนเป็นมูลค่าถึง 2.6 หมื่นล้านบาท เป็นโอกาสทองให้เอสเอ็มอีผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยคว้าโควต้าป้อนชิ้นส่วน ค่ายยักษ์เพิ่ม นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงการประกาศแผนการลงทุนในประเทศไทย ของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor Company) ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง ว่า จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีแก่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สะท้อนให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งน่าลงทุนและมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่มีศักยภาพในการรองรับความต้องการของค่ายรถยนต์ระดับโลก
ทั้งนี้ โครงการผลิตรถยนต์ของ ฟอร์ด มอเตอร์ จะเป็นการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยมีการผลิตในประเทศไทยมาก่อน และเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกถึงร้อยละ 80 และก่อให้เกิดการจ้างงานสูงถึง 11,000 คน ส่วนการผลิตรถยนต์ตามโครงการนี้ จะแบ่งระยะเวลาการผลิตเป็น 2 ช่วง คือ 1. ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2552 ถึงประมาณปลายปีพ.ศ. 2555 จะลงทุนประมาณ 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในส่วนของการพัฒนาพื้นที่ การสร้างโรงงาน และการติดตั้งเครื่องจักรในส่วนต่าง ๆ สำหรับการผลิตรถยนต์ใหม่ 3 รุ่น ซึ่งจะมีกำลังผลิตปีละประมาณ 150,000 คัน
ช่วงที่ 2 คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2556 ถึงประมาณปลายปีพ.ศ. 2557 จะลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติม เช่น ระบบอัตโนมัติของโรงประกอบตัวถัง ระบบอัตโนมัติของโรงทำสี สำหรับผลิตรถยนต์ใหม่อีก 2 รุ่น ซึ่งจะทำให้มีกำลังผลิตเป็นปีละประมาณ 200,000 คัน
นางสาวอัจฉรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการของฟอร์ด จะมีการใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย จะได้ผลิตป้อนให้กับค่ายรถยนต์ระดับโลก โดยในเบื้องต้นฟอร์ดต้องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ได้แก่ ชิ้นส่วนตัวถัง ระบบห้ามล้อ ระบบกันสะเทือน ระบบส่งกำลัง ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกและภายใน
สำหรับรถยนต์ที่จะผลิตในโครงการนี้ จะมีทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา
นอกจากนี้ โครงการผลิตรถยนต์ของฟอร์ด ยังจะมีการติดตั้งระบบเทคโนโลยีที่สมัยใหม่ อาทิ ระบบควบคุมการทรงตัวด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONIC STABILITY CONTROL) ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (ADVANCED FUEL-EFFICIENT DUAL CLUTCH POWERSHIFT 6-SPEED TRANSMISSION) และระบบประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง (ECOBOOST ENGINE TECHNOLOGY)