กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--อาสาสมัครสาธารณสุข
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ จะมีสวัสดิการด้านสาธารณสุข เช่นบัตรทองรักษาพยาบาลฟรีดูแลอยู่ แต่กลุ่มคนเหล่านี้กลับไม่สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้โดยสะดวก ซึ่งเกิดจากฐานะที่ยากจนและขาดความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลผู้ป่วย
ปัญหาที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและจิตใจของผู้ป่วยและผู้ด้อยโอกาสเองแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวหรือผู้ดูแล และขยายวงกว้างออกไปกลายเป็นภาระของชุมชน “โครงการไทยเหล่าใหญ่ห่วยใยผู้ด้อยโอกาสในชุมชน” จึงเกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของ เทศบาลตำบลเหล่าใหญ่ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อดูแลรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางปานแก้ว แสบงบาล นักบริหารงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลเหล่าใหญ่ และผู้ประสานงานโครงการฯ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ตำบลเหล่าใหญ่มีผู้ด้อยโอกาส ซึ่งแบ่งเป็นผู้พิการ 31 ราย, ผู้ป่วยโรเอดส์ 5 ราย, ผู้ป่วยด้านจิตเวชและผู้ป่วยเรื้อรัง 83 ราย และผู้ยากจนขาดการดูแล 8 ราย รวมทั้งสิ้น 127 คน ถึงแม้เขาเหล่านี้จะได้รับสวัสดิการด้านสาธารณสุขเช่นบัตรทองรักษาฟรี แต่ผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้นอกจากจะไม่สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว ยังไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องหรือรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะกลายเป็นผู้พิการซ้ำซ้อนมีชีวิตอยู่เหมือนรอวันตาย
“โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวชนั้นมีความสำคัญมากที่สุด บางคนเอะอะโวยวาย มีท่าทางจะทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตัวเอง บางคนก็ไม่ได้รับยาต่อเนื่องคือรับยาไปแต่ไม่กินอาการก็กำเริบ ส่วนผู้พิการบางคนประสบอุบัติเหตุหากไม่ได้ทำกายภาพบำบัดก็จะกลายเป็นผู้พิการซ้ำซ้อน จึงเห็นว่าหากเราไม่ช่วยคนกลุ่มนี้จะลำบากมาก เพราะเขากลายเป็นภาระให้ครอบครัวเสียทั้งเงินและเวลา” นางปานแก้วระบุ
โครงการนี้ได้เน้นไปที่การตรวจเยี่ยมดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยประสานงานกับ โรงพยาบาลกุฉินารายณ์ ส่งแพทย์และพยาบาลมาตรวจรักษาและให้คำแนะนำต่างๆ และใช้ อาสาสมัครสาธารณสุข ที่มีจิตอาสาออกเยี่ยมเยียนติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของผู้ด้อยโอกาสให้ดีขึ้น รวมทั้งอบรมให้ความรู้ความเข้าใจในวิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้องกับครอบครัวของผู้ป่วย ฝึกงานสร้างอาชีพเสริมให้กับผู้พิการ ในขณะเดียวกันก็นำคณะผู้บริหารของเทศบาลลงเยี่ยมผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ทำให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนจนเกิดเป็นนโยบายในการพัฒนาสุขภาวะของชุมชนของเทศบาลอย่างต่อเนื่อง
“หลังจากเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2552 ก็เห็นผลทันที คนป่วยจิตเวชที่ไม่เคยกินยาเลย อสม.ก็ไปรับยามาให้ ไปเยี่ยมที่บ้าน ดูแลเรื่องกินยาทุกวัน ก็ปรากฏว่าคนที่เคยอยู่มุมห้องถือมีดคอยจะฆ่าพ่อฆ่าแม่ก็หาย ผู้ป่วยจิตเวชทั้ง 33 คน ก็มีอาการดีขึ้นเกือบหมดทุกราย เพราะครอบครัวเข้าใจเห็นความสำคัญและยินยอมให้นำตัวไปรักษา” นางปานแก้วกล่าวเสริม
นางนิตยา ไชยวงศ์ ประธานกลุ่ม อสม. บ้านเหล่าใหญ่หมู่ที่ 7 บอกว่าในชุมชนของตนนั้นมีผู้ด้อยโอกาส 3 คน เป็นผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุที่ขาดคนดูแล โดยทุกวันจะเข้าไปถามสารทุกข์สุกดิบติดตามการกินยารักษาดูแลอย่างต่อเนื่อง หากมีปัญหาด้านอื่นๆ ก็จะนำมาเสนอกับทางคณะทำงานประสานงานกับทางเทศบาลให้ความช่วยเหลือต่อไป
“บางคนบ้านสกปรกรกรุงรังทีมงานก็เข้าไปช่วยกันปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น การไปเยี่ยมผู้ป่วยบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันของญาติกับทีมงาน ผู้ป่วยจิตเวชบางคนถูกขังในบ้านมานานกว่า 20 ปี ครอบครัวก็ยอมให้เราพาหมอไปตรวจไปเยี่ยม ติดตามการกินยาสม่ำเสมออาการก็ดีขึ้นพูดคุยรู้เรื่อง อสม.ทุกคนก็รู้สึกภูมิใจที่มีส่วนช่วยให้ชีวิตของดีขึ้น” นางนิตยากล่าว
นายอภิชัย พลหงส์ อายุ 47 ปี ประธานกลุ่มผู้ด้อยโอกาสตำบลเหล่าใหญ่ ผู้พิการด้วยโรคโปลิโอแต่กำเนิด ที่ไม่ปล่อยให้ความพิการเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือคนอื่นๆ โดยผันตัวเองด้วยจิตอาสามาเป็น อสม. ดูแลคอยดูแลผู้ด้อยโอกาสรายอื่นๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้
“ถึงเราเดินเหินไม่สะดวก แต่ยังมีอีกหลายคนที่ด้อยโอกาสมากกว่าเรา อะไรที่พอจะช่วยให้เขาดีขึ้น ช่วยตัวเองได้ ไม่เป็นภาระครอบครัว อย่างน้อยได้ไปพูดคุย ถามไถ่ ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยกับครอบครัวก็ยังดี ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะทำให้คุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสดีขึ้นแล้วยังมีการรวมกลุ่มสร้างอาชีพให้กับผู้พิการด้วย” นายอภิชัยกล่าว
เช่นเดียวกับ นายเอกสิทธิ์ จิตรจักร วัย 45 ปี อดีตผู้ป่วยจิตเวชที่ถึงแม้ปัจจุบันยังต้องกินยาอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ยังมีจิตอาสาดูแลผู้ด้อยโอกาสในชุมชนด้วยความสงสารคนอื่นๆ ที่มีโอกาสน้อยกว่าตนเองในการได้รับการรักษา ประกอบกับเคยบวชเป็นพระมาก่อนจึงได้นำหลักธรรมคำสอนมาช่วยผ่อนคลายความทุกข์ใจให้กับผู้ป่วยเวลาออกเยี่ยมเยียน
“อยากเห็นคนป่วยคนอื่นๆ หายป่วย เพราะโรคนี้ถ้าได้รับการรักษากินยาอย่างต่อเนื่องอาการก็จะดีขึ้น วันหนึ่งก็จะออกไปเยี่ยมอย่างน้อย 2 ราย ไปสอบถามอาการ บางครั้งก็ไปนวดแผนโบราณให้กับผู้ป่วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็จะดีใจที่มี อสม.ไปเยี่ยมไปหา” นายเอกสิทธิ์กล่าว
คุณยายจอม ใจศิริ อายุ 78 ปี ผู้สูงวัยที่ขาดผู้ดูแล อยู่บ้านคนเดียวไม่มีห้องน้ำใช้ เวลาจะทำธุระหนักเบาก็จะต้องถือเสียมเดินเข้าไปขุดดินในสวนหลังบ้าน ทาง อสม.ก็ประสานกับเทศบาลของบมาช่วย ชาวบ้านก็ลงแรงร่วมกันสร้างห้องน้ำ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “สะดวกขึ้นไม่ต้องเดินไกล ทางกลุ่ม อสม.ก็มาเยี่ยมบ่อย ตอนนี้ปวดหลังก็เอายามาให้ มาพูดคุยทำให้ไม่เหงา”
“หลังจากมีโครงการนี้ขึ้นมาก็ทำให้ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากสมาชิกในชุมชนมากขึ้น ผลที่ตามมาก็คือทำเขาให้เกิดมีกำลังกายและใจที่ดีขึ้น เพราะมีแพทย์ พยาบาล และ อสม.มาตรวจเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้สุขภาพจิตของตัวผู้ป่วยเองรวมไปถึงครอบครัวหรือผู้ดูแลก็ดีขึ้น ดูแลตนเองได้ ไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว อยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างปกติสุข” นางสาวพรพรรณ แก้วคำภา ปลัดเทศบาลตำบลเหล่าใหญ่กล่าวสรุป.