กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2553 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2553 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การกู้เงินภาครัฐ
? เดือนพฤษภาคม 2553
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณโดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 37,000 ล้านบาท และได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 27,000 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 4,726 ล้านบาท โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการกู้เงิน รวม 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 27 ล้านบาท กู้เพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 63 ล้านบาท และ กู้เพื่อการลงทุน 1,410 ล้านบาท องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 2,164 ล้านบาท และการประปานครหลวงกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 1,062 ล้านบาท
? ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 390,406 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 345,572 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 44,834 ล้านบาท
2.2 ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553
? หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ วงเงินรวม 127,440 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 1) การแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาล 23,000 ล้านบาท 2) การปรับโครงสร้างตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนด 25,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญา
ใช้เงิน 3) การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF1) ที่ครบกำหนด 69,440 ล้านบาท และ 4) การปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ที่ครบกำหนด 10,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินสำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นได้ทำการ Roll Over หนี้เดิมรวม 116,765 ล้านบาท
2. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
2.1 เดือนพฤษภาคม 2553
? หนี้ในประเทศ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงินรวม 10,850 ล้านบาท
หมายเหตุ: *แผนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศได้นับรวมการ Roll over ตั๋วเงินคลังที่ใช้เพื่อบริหารเงินสดในการรองรับการทำธุรกรรมการใช้จ่ายของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2553 โดยมียอดวงเงินตั๋วเงินคลังยกมา ณ ต้นปีงบประมาณ 2553 จำนวน 281,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะทำการ Roll Over ตั๋วเงินคลังที่
ครบกำหนดทุก 28 วัน 91 วัน และ 182 วัน ตามอายุของตั๋วเงินคลังในแต่ละรุ่น
** กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF1) ที่ครบกำหนดในเดือนเมษายน 2553 จำนวน 39,440 ล้านบาท โดยดำเนินการกู้เงิน ระยะยาว จำนวน 14,440 ล้านบาท และกู้เงินระยะสั้น จำนวน 10,747 ล้านบาท รวมทั้งใช้เงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (FIDF1 และ FIDF3) จำนวน 14,253 ล้านบาท ซึ่งนำมาทดรองจ่ายไปก่อน จากนั้นได้ทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2553 โดยออกพันธบัตร ในเดือนเมษายน 2553 จำนวน 8,000 ล้านบาท เดือนพฤษภาคม 2553 จำนวน 8,000 ล้านบาท และเดือนมิถุนายน 2553 จำนวน 9,000 ล้านบาท และนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรดังกล่าวไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (FIDF1 และ FIDF3) ซึ่งใช้เป็น Bridge Financing สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
? เดือนพฤษภาคม 2553
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยเงินงบประมาณรวม 26,461 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการชำระคืนเงินต้น 20,001 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,460 ล้านบาท
? ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมโดยเงินงบประมาณรวม 116,012 ล้านบาท