กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอร่วมมือกับ ป.ป.ท. เดินหน้าเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีของประเทศไทย โดยลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาคการลงทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เล็งเชื่อมโยงข้อมูลและช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากนักลงทุนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือได้รับผลกระทบจากการทุจริตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างบีโอไอ กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาคการลงทุน ว่า การร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของภาครัฐในการสร้างกระบวนการที่โปร่งใส่ในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีแก่ประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในการป้องกันและปราบการการทุจริตในภาครัฐอย่างจริงจัง
“ บีโอไอ และ ปปท. ตระหนักดีว่า นักลงทุนต่างชาติต้องการดำนินธุรกิจภายใต้กฎกติกาที่ชัดเจน เป็นธรรม และมีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้องการดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาประเทศไทย ดังนั้น การสร้างความโปร่งใส จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างชาติ ” เลขาธิการบีโอไอกล่าว
ที่ผ่านมา บีโอไอมุ่งเน้นการทำให้นโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนและการพิจารณาให้การส่งเสริมมีความโปร่งใสและปฏิบัติต่อนักลงทุนอย่างเท่าเทียมกัน หรือแม้แต่การให้บริการ การให้คำปรึกษา และการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
นางอรรชกากล่าวด้วยว่า บีโอไอทำงานใกล้ชิดกับหอการค้าต่างประเทศประจำประเทศไทย โดยได้มีการประชุมหารือเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรค ก่อนที่จะร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือ หรือขอความร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายภิญโญ ทองชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กล่าวว่า ในฐานะที่สำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานหลักของฝ่ายบริหารที่มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ท. กับบีโอไอ จะเชื่อมต่อช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนจากนักลงทุนและผู้ประกอบการกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือการทุจริตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และจะสนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมทั้งการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากนักลงทุนและผู้ประกอบการเพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาคการลงทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ประกอบกับ คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ ในคราวการประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ได้เห็นชอบ 6 มาตรการ ที่สำนักงาน ป.ป.ท. เสนอ โดยเฉพาะมาตรการที่ 6 มาตรการสร้างกลไกคุ้มครองนักลงทุนและผู้ประกอบการชาวต่างชาติ อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐอย่างจริงจัง ด้วย