ปภ.เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน

ข่าวทั่วไป Wednesday March 21, 2007 09:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ปภ.
กรมป้องกันฯ เตือนประชาชนให้เตรียมรับมือพายุฤดูร้อนระลอกใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18- 22 มีนาคมนี้ เพราะอาจได้รับอันตรายจากการถูกต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้านเรือนได้รับความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนภาคใต้ให้ระมัดระวังการออกเดินเรือในช่วงวันที่ 20-22 มีนาคม นี้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 18-22 มีนาคมนี้ ความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกเกิดขึ้นในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ซึ่งในขณะนี้พายุฤดูร้อนได้สร้างความเสียหายแก่ประชาชนในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดศรีษะเกษ และบุรีรัมย์ ได้ถูกพายุได้พัดถล่มบ้านเรือนและโรงเรียน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ สร้างความสูญเสีย ทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนสร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตร จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หมั่นดูแลและซ่อมแซมบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณา ให้แข็งแรงและปลอดภัย เพราะอาจโดนลมพายุพัดสร้างความเสียหายและป้ายอาจหักโค่นล้มได้ ส่วนเกษตรกรควรหาไม้ค้ำยันกิ่งของต้นไม้เพราะหากถูกลมพายุพัด ก็จะช่วยลดความเสียหายได้ นอกจากนี้ ไม่ควรใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด และควรออกห่างจากวัตถุที่เป็นสื่อไฟฟ้าทุกชนิด เช่น ลวด โลหะ ท่อน้ำ แนวรั้วบ้าน รถแทรกเตอร์ เป็นต้น รวมทั้งไม่ควรใส่เครื่องประดับโลหะ เช่น ทองเหลือง ทองแดง ฯลฯ ในที่แจ้ง หรือถือวัตถุโลหะ เนื่องจากอาจเป็นสื่อนำประจุไฟฟ้า ทำให้เกิดฟ้าผ่าได้ ไม่ควรขับรถ เดินฝ่าฝน หรือหลบใต้ต้นไม้ เพราะเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า ต้นไม้ล้มใส่ และลูกเห็บตกใส่ได้ และสำหรับประชาชนที่อยู่ภาคใต้ให้ระวังการออกเดินเรือในช่วงวันที่ 20 —22 มีนาคมนี้ เนื่องจากมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ไม่ควรนำเรือออกจากฝั่งในขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการโดนพายุซัดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ