กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมลงนามกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเพิ่มทางเลือกลงทุน “Employee’s Choice” สำหรับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสมาชิก กบข. เพื่อสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาว อันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาตลาดทุนไทย มุ่งส่งเสริมการเลือกรูปแบบลงทุนที่เหมาะกับตนเอง และกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวหาความรู้เรื่องลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า หนึ่งในแปดมาตรการของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย คือ การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนผ่านการออมระยะยาวให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยการใช้ประโยชน์จากการออมระยะยาวที่มีอยู่แล้วในระบบ คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นเครื่องมือสำคัญ ความร่วมมือในครั้งนี้จึงมีส่วนอย่างยิ่งในการสนับสนุนแผนพัฒนาตลาดทุนไทยดังกล่าว
“การผลักดันให้นายจ้างที่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ กบข. มีนโยบายการลงทุนมากกว่าหนึ่งแบบสำหรับสมาชิก หรือที่เรียกว่า Employee’s Choice นั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้พนักงาน หรือลูกจ้างที่มีอายุต่างกัน และมีความต้องการในการลงทุนที่ต่างกัน ได้มีโอกาสเพิ่มทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งการมีนโยบายการลงทุนเดียวอาจไม่ตอบสนองต่อลูกจ้างได้ทั้งหมด
Employee’s Choice จะส่งผลให้เกิดการขยายฐานการลงทุนผ่านผู้ลงทุนสถาบันในอนาคต รวมทั้งเพิ่มปริมาณเงินออมระยะยาวในระบบ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดทุนมีแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ และจะช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีอัตราการลงทุนในตราสารทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 9—11% ซึ่งถือว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีก” นายจรัมพรกล่าว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เพิ่มทางเลือกในการลงทุนแก่สมาชิกหรือ Employee’s Choice เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ จะสนับสนุนความรู้ด้านการลงทุนผ่านกิจกรรมและสื่อประชาสัมพันธ์ อาทิ กิจกรรม SET in the City 2010 สถานีโทรทัศน์ Money Channel นิตยสาร Money & Wealth เอกสารเผยแพร่ ตลอดจนหลักสูตรอบรมความรู้ขั้นพื้นฐานและเชิงเทคนิคแก่กลุ่มนายจ้างและลูกจ้างด้วย
ด้านนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป กบข. จะเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถเลือกแผนการลงทุน โดยได้ออกแบบแผนการลงทุนให้เลือกได้ทั้งหมด 4 แผน ได้แก่ 1) แผนตลาดเงิน มีระดับความเสี่ยงต่ำสุด ลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ที่มีกำหนดไม่เกิน 1 ปี 2) แผนตราสารหนี้ ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เน้นผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินฝาก 3) แผนหลัก เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 60% สำหรับสมาชิกที่ไม่ประสงค์เลือกแผนการลงทุนใด กบข. จะบริหารเงินออมตามแผนนี้ และแผนที่ 4) แผนผสมหุ้นทวี ลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นมากขึ้น มีระดับความเสี่ยงสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีโครงการฝึกอบรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุนรวม การวางแผนเกษียณ และจะเผยแพร่แนวคิดดังกล่าวไปยังสื่อภายใต้การดูแลของ กบข. ด้วย ปัจจุบัน กบข. มีสมาชิกทั่วประเทศมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่ง ณ มีนาคม 2553 กบข. มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนอยู่ที่ประมาณ 10.71% มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการที่ 347,000 ล้านบาท
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในการเป็นแหล่งเงินออมเพื่อการเกษียณอายุซึ่งถือเป็นเสาหลักสำคัญ ปัจจุบันมีทางเลือกการออมอีกมากแต่สิ่งสำคัญคือการต้องทำให้ผู้ลงทุนเข้าถึงและเข้าใจในโอกาสการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมและผู้ลงทุนไปพร้อม ๆ กัน ส่วนบทบาทของสมาคม บลจ. นอกจากความร่วมมือในด้านการให้ความรู้เรื่องวางแผนการออมและเลือกเครื่องมือลงทุนและผลักดันให้กลุ่มนายจ้างและลูกจ้างหันมาใช้ Employee’s Choice กันมากขึ้นแล้ว ยังมีแผนจะปรับปรุงการมีแบบสอบถามเพื่อทดสอบสมาชิกเพื่อความเป็นมาตรฐานเดียวกันด้วย
“สำหรับการลงทุนแบบแผนทางเลือก Employee’s choice เริ่มได้รับการยอมรับ โดยมีแนวการเติบโตที่มากขึ้นคือ ณ สิ้นปี 2552 มีนายจ้างจัดให้มี Employee’s choice แก่ลูกจ้างรวม ทั้งสิ้น 1,317 ราย คิดเป็น 14.1% ของนายจ้างทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นถึง 98% จากปีก่อนหน้า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 มีบริษัทนายจ้างกว่า 10,000 บริษัท จำนวนลูกจ้างที่เป็นสมาชิกประมาณ 2.1 ล้านคน มีมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 512,000 ล้านบาท คิดเป็น 5.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งประเทศซึ่งนับว่าสูง และตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 10% ลงทุนในหุ้นเฉลี่ยประมาณ 9.5% หรือปีละ 35,000 ล้านบาท” คุณวรวรรณกล่าวเพิ่มเติม
ภายใต้ความร่วมมือตามโครงการนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กบข. และสมาคม บลจ. จะร่วมกันเผยแพร่แนวคิดการเลือกลงทุน “Employee’s Choice” ผ่านแคมเปญ “เลือกที่ใช่” ผ่านกิจกรรม และสื่อประชาสัมพันธ์อย่างครบวงจร โดยมีแผนจัดสัมมนาให้แก่กลุ่มผู้แทนสมาชิกและนายจ้าง ในเดือนกันยายน 2553 นี้ เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ Employee’s Choice อย่างกว้างขวางทั้งในภาครัฐและเอกชน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222