เอชพีย้ำภาพผู้นำตลาดไอทีไทยต่อยอดการพัฒนาองค์กรธุรกิจแบบยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Wednesday January 24, 2007 09:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
เน้นกลยุทธ์การตลาดแบบ ‘รุกตลาด’ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในทุกระดับ
สานต่อการนำเสนอกลยุทธ์ Adaptive Enterprise และ Adaptive Infrastructure เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่
บุกตลาดเอสเอ็มบีด้วยสมาร์ท ออฟฟิศโซลูชั่นเพื่อเอสเอ็มบีอย่างครบวงจร ชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพและนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมเน้นย้ำบริการ HP Total Care
นำผลิตภัณฑ์ไอทีใกล้ชิดคอนซูเมอร์ยิ่งขึ้น ชูกลยุทธ์ Digital Life เพื่อสร้างตลาดใหม่ พร้อมใช้เทคโนโลยีขยายฐานธุรกิจภาพและการพิมพ์เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์
ประกาศผลประกอบการรวมปี 2549 ทะลุเป้ากว่า 9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
บริษัท ฮิวเลตต์ - แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด แถลงวันนี้ถึงแนวนโยบายของบริษัทฯ ในปี พ.ศ. 2550 เน้นการเติบโตขององค์กรด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ ‘รุกตลาด’ เพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อให้เกิดความพอใจสูงสุด (Total Customer Experience) ตั้งเป้าขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นเพื่อลูกค้าทุกระดับ นำเสนอพอร์ทโฟลิโอใหม่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ด้วยแนวทางดังกล่าว เอชพีมั่นใจครองสถานภาพความเป็นผู้นำตลาดไอทีในประเทศไทย พร้อมทั้งช่วยเพิ่มผลประกอบการ พัฒนาศักยภาพของบุคลากร และสร้างความเติบโตแบบยั่งยืนให้กับองค์กร
พร้อมกันนี้ เอชพีประกาศผลประกอบการของปีงบประมาณ 2549 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2549 โดยมีรายได้รวมที่ 91,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดปี 2548 เอชพีมีรายได้รวม 86,700 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมีอัตราการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลกและทุกกลุ่มธุรกิจ
เอชพี คือผู้นำในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีโซลูชั่นและการให้บริการ ที่ให้ความสำคัญแก่ลูกค้าในทุกระดับชั้น” คุณสรรพัชญ โสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ในปี พ.ศ. 2550 เอชพีเน้นกลยุทธ์การ ‘รุกตลาด’ มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์โซลูชั่นและการให้บริการแก่ลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่ลูกค้าระดับคอนซูเมอร์ ลูกค้าระดับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไปจนถึงลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มราชการ เอชพีพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นและนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการ หัวใจสำคัญของการรุกตลาดคือ การค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูง และการนำเสนอสินค้าที่มีราคาแข่งขันในตลาดได้เมื่อเทียบราคาต่อประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเอชพีคือพันธมิตรทางธุรกิจที่นำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุด”
ผลประกอบการของปีงบประมาณ 2549 แสดงให้เห็นว่า เอชพีได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาการเติบโตขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เอชพียึดมั่นแนวทางทางการเติบโตขององค์กรที่เน้นหนักในสามด้านสำคัญ คือ ด้านการเพิ่มผลประกอบการ ด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และด้านการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ซึ่งเอชพีเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแนวทางในการรักษาสถานภาพความเป็นผู้นำและนำพาองค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
“ในปีนี้ ลูกค้าคือหัวใจสำคัญของแนวทางการดำเนินงาน เอชพีเน้นหนักในด้าน Total Customer Experience หรือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าที่เกิดจากการรับฟังความคิดเห็นและนำเสนอผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ตรงใจ ซึ่งเอชพีดำเนินการควบคู่ไปกับการทุ่มทุนด้านการค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับผลิตภัณฑ์โซลูชั่น และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าให้ดีมากยิ่งขึ้น” คุณสรรพัชญ กล่าวเสริม
สานต่อการนำเสนอกลยุทธ์ Adaptive Enterprise และ Adaptive Infrastructure เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่
สำหรับแนวทางของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีโซลูชั่นในปี 2550 เอชพียึดมั่นในแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์โซลูชั่นและการให้บริการที่สามารถช่วยลูกค้าระดับองค์กรพลิกศักยภาพ ด้านไอทีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ เอชพีสานต่อกลยุทธ์ Adaptive Enterprise และ Adaptive Infrastructure เพื่อช่วยให้ลูกค้าในระดับองค์กรธุรกิจและกลุ่มราชการ สามารถนำไอทีไปใช้เพื่อปรับองค์กรให้พร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
“ในส่วนของเทคโนโลยีโซลูชั่น เอชพีมีความพร้อมที่จะนำเสนอสายผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทุกขนาด ระบบสตอเรจเพื่อการจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการระบบ และโซลูชั่นทางด้านไอทีต่างๆ โดยในปี 2550 เอชพีให้ความสำคัญกับ Blade Computing Solutions อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Adaptive Infrastructure เพื่อการพัฒนาศูนย์ข้อมูลขององค์กร (Data Centers) ไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุน และลดพื้นที่จัดเก็บ ซึ่งเอชพีได้พัฒนาแนวทางนี้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพของซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบ และระบบการบริการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด” คุณสรรพัชญกล่าว
ในด้านการบริการ เอชพีมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพและรักษาระดับประสิทธิภาพของพนักงาน และวิธีการให้บริการแก่ลูกค้าในทุกระดับ ในส่วนของลูกค้าระดับองค์กรธุรกิจ เอชพีสานต่อแนวทางของปีที่ผ่านมาในการให้บริการด้านการปรึกษาและการวางระบบไอที พร้อมพัฒนาคุณภาพการให้บริการ Outsourcing ที่ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง สำหรับลูกค้าระดับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางและลูกค้าระดับคอนซูเมอร์ เอชพีมุ่งมั่นในการรับฟังความคิดเห็น ตรวจวัดระดับความพึงพอใจด้วยการทำแบบสำรวจ เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น
รุกตลาดเอสเอ็มบี ด้วยสมาร์ทออฟฟิศโซลูชั่น พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้วยบริการ HP Total Care
ในฐานะผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีโซลูชั่นสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มบี) เอชพีมีความพร้อมในการสนับสนุนและให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพราะตระหนักดีว่าธุรกิจเอสเอ็มบีมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไป ดังนั้น เอชพีจึงได้จัดเตรียมชุดผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่หลากหลายที่สุดเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจของตน
นอกจากนั้น เอชพีเปิดตัวบริการ HP Total Care อันเป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมวัฏจักรการใช้งานไอทีอย่างครบวงจร ทั้งด้านบริการ เครื่องมือ รวมทั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับลูกค้าเอสเอ็มบีทุกประเภทและทุกขนาดธุรกิจ
เพื่อตอบสนองการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มบีในภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ด้านไอทีของลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น บริการ HP Total Care นำเสนอนวัตกรรมทางธุรกิจที่ก้าวล้ำและสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละขนาดธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเอสเอ็มบีให้มากขึ้น
“HP Total Care เป็นกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนของเอชพีในตลาดเอสเอ็มบี โดยเอชพีกำหนด 3 กลยุทธ์หลัก ในการรุกตลาดเอสเอ็มบี คือ การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าด้วยโซลูชั่นทั้งของเอชพีและของพันธมิตร และบริการ HP Total Care การสร้างความเข้มแข็งให้กับช่องทางจัดจำหน่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งจะทำให้เอชพีสามารถให้บริการลูกค้าเอสเอ็มบีได้อย่างทั่วถึงไม่ว่าลูกค้าจะซื้อผลิตภัณฑ์จากที่ใด และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในทุกด้าน เพื่อครองความเป็นผู้นำและขยายตลาดให้เติบโตขึ้น” คุณสมพงษ์ สุทธิเชื้อชาติ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนล ซิสเต็มส์ กล่าวเสริม
นำผลิตภัณฑ์ไอทีใกล้ชิดคอนซูเมอร์ยิ่งขึ้น ชูกลยุทธ์ Digital Life เพื่อสร้างตลาดใหม่ พร้อมใช้เทคโนโลยีขยายฐานธุรกิจภาพและการพิมพ์เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์
ด้วยความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ไอที เอชพีมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ไอทีให้ตอบสนองความต้องการและกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้บริโภค ภายใต้แนวคิดหลักคือ “Digital Life” ที่จะครอบคลุมชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น Digital Home ที่รวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์พีซีและมีเดียเซ็นเตอร์พีซี เน้นการใช้งานและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน Digital Mobility ที่รวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและเอชพีไอแพ็ค เน้นความสามารถในการเชื่อมต่อเพื่องานและความบันเทิงไร้ขีดจำกัดทุกที่ทุกเวลา และ Digital Photography ที่มุ่งเน้นสินค้าด้านภาพและการพิมพ์เพื่อส่งเสริมความสนุกสนานในการพิมพ์ด้วยตัวเองทั้งภายในบ้านและนอกสถานที่ ซึ่งภายในปีนี้ เอชพีจะนำผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ไอทีภายใต้แนวคิดดังกล่าวเข้าสู่ตลาดครั้งใหญ่ และมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของลูกค้าในลักษณะเซ็กเมนเตชั่น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์การพิมพ์เพื่อธุรกิจและองค์กรใหญ่ (ฺCommercial and Enterprise Printing) นั้น เอชพีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ท ทั้งซิงเกิลฟังก์ชั่นและมัลติฟังก์ชั่น (HP LaserJet MFP) รวมถึงโซลูชั่นส์งานพิมพ์ (Printing Solutions) ตลอดจนเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับงานดีไซน์ (HP Designjet) และการพิมพ์ในระดับอุตสาหกรรม (HP Indigo and HP Scitex) โดยปัจจุบันเอชพีเป็นผู้นำในตลาดด้านการพิมพ์เพื่อธุรกิจทุกๆ กลุ่ม
คุณประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ และคอนซูเมอร์ กล่าวว่า “เอชพียังคงเห็นโอกาสทางการตลาดสำหรับ คอมเมอร์เชียล พริ้นติ้ง อีกมากเนื่องจากธุรกิจยังมีความต้องการด้านการพิมพ์ในรูปแบบที่หลากหลายและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เอชพีจะใช้เทคโนโลยีการพิมพ์อันก้าวหน้าเป็นเครื่องมือในการขยายตลาดการพิมพ์เพื่อธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตลาดเอสเอ็มบี ตลาดเอ็นเตอร์ไพรซ์ ตลาดกราฟิกอาร์ต และอุตสาหกรรมการพิมพ์ขนาดใหญ่ ทั้งในส่วนที่เอชพีมีตลาดอยู่แล้ว ในส่วนที่ยังคงมีช่องว่างอยู่ หรือมองหาตลาดใหม่ๆ ซึ่งนอกจากตัวผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ชั้นนำแล้ว เอชพียังมุ่งนำเสนอโซลูชั่นส์การพิมพ์ควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการพิมพ์ เพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการแก่แผนกไอทีในองค์กร ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นอีกด้วย”
ครองความเป็นผู้นำในตลาดไอทีอย่างต่อเนื่อง
“ด้วยแนวทางที่กล่าวมา พร้อมตัวเลขของผลประกอบการ เอชพีเชื่อมั่นว่าเราคือผู้นำในตลาดไอที ที่นำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าในทุกระดับ จุดเด่นของเอชพีคือนวัตกรรมโซลูชั่นที่ครบวงจร พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย เอชพีทุ่มทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และความสามารถในการเป็นผู้มีส่วนร่วมในการเสริมศักยภาพด้านไอทีให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง” คุณสรรพัชญ กล่าวสรุป
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นผู้นำในการใหับริการด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี และโซลูชั่นครบวงจรแก่ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และหน่วยงานทั่วโลกโดยครอบคลุมการให้บริการด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานภายในบ้านและสำนักงานธุรกิจตลอดจนธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ สำหรับผลประกอบการของบริษัทประจำปีงบประมาณ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2549 เอชพีมีรายได้รวมทั้งสิ้น 91.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเอชพี ได้ที่ http://www.hp.com
ข่าวประชาสัมพันธ์โดย :
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
ธรณ ชัชวาลวงศ์
โทรศัพท์ : 0-2627-3501 ต่อ 118 แฟกซ์: 0-2627-3545
อีเมล์ : tchatchavalvong@th.hillandknowlton.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ