กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
บริษัท ดีเอชซี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “DHC” ซึ่งได้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 3 ปี และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าและผลิตจากประเทศญี่ปุ่น 100% ทุกผลิตภัณฑ์ล้วนแต่เป็นที่นิยมและติดอันดับยอดนิยมของผู้ใช้ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีช่องทางการจัดจำหน่าย แบบ Beauty Delivery “ความงามที่โทรสั่งได้จากญี่ปุ่น” เป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ด้วย ระบบ Call Center ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ที่สำคัญยิ่งคือ DHC มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์ความงามที่พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำก่อนการตัดสินใจซื้อ ตลอดจนการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเน้นความรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้ได้มากที่สุด บริษัทฯจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในไทยเพราะความชัดเจนทั้งในด้าน Brand Positioning และ Distribution Channel
ปัจจุบัน DHC มีความมุ่งมั่นที่จะคัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่จะตอบสนอง Life style ของคนไทยเพื่อที่จะก้าวมาเป็นอันดับหนึ่งของผู้นำในตลาดเครื่องสำอางและนำแบรนด์ให้เป็น“Beauty Delivery”ได้อย่างเต็มตัว ดังนั้นทางบริษัทจึงต้องการตอกย้ำและสร้างความเข้าใจให้กับกลุ่มเป้าหมายให้เข้าใจได้ง่ายและเน้นการนำเสนอให้ตรงใจผู้บริโภค จึงได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในชื่อชุด “Delivery หรือ ส่งตรง” ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวและตอกย้ำถึง Brand Differentiated ได้อย่างชัดเจน
นางสาวอาภรณ์ ทรัพย์มนชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเอชซี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงที่มาของแนวคิดในการผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ว่า จากการที่ดีเอชซี ได้มีการขยายฐานลูกค้าออกไปยังกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้นนั้น ยังมีกลุ่มเป้าหมายบางส่วนที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะหาซื้อได้จากช่องทางใด ทางบริษัทฯ จึงต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงลักษณะของธุรกิจว่าเป็นลักษณะการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ด้วยการโทรสั่ง ที่พร้อมส่งตรงถึงบ้านให้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีการรับประกันคุณภาพของสินค้า โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าวจะมีแนวความคิดที่ชัดเจนและชี้ชัดให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ด้วย Key Massage ที่สื่อว่า “DHC เป็น Beauty Delivery เพียงแค่โทร 02-3536-333 ดีเอชซี ก็จะบริการจัดส่งความงามจากญี่ปุ่นถึงบ้านคุณ”
นางสาวอาภรณ์ ทรัพย์มนชัย เปิดเผยถึงเรื่องราวการนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ว่ามีการสร้างเสน่ห์และความน่าสนใจด้วยการใช้จินตนาการของคุณพ่อ ที่เมื่อมองเห็นกล่องผลิตภัณฑ์ความงามของ DHC แล้ว ก็จินตนาการไปว่า คนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ความงามของ DHC ผิวจะสวย ใส เหมือนสาวญี่ปุ่น จึงมองเห็นกล่องที่มาส่ง กลายเป็นหญิงสาวสวยสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งงานนี้ได้นางแบบสาว “MEI” ที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเป็นตัวแทนความงามจากญี่ปุ่น โดยบุคลิกภาพและหน้าตาของ “MEI”นั้นมีชีวิตชีวา และทันสมัย เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่สำคัญคือเธอมีผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัส และรับรู้ ถึงความงามแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ที่ได้นำสินค้าที่มีคุณภาพ และถูกผลิตขึ้นในประเทศญี่ปุ่น 100% สำหรับกลุ่มเป้าหมายของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้คือกลุ่มเป้าหมายหลักของ DHC ซึ่งเป็นกลุ่มผู้หญิงทำงาน อายุ 25-35 ปี
นางสาวอาภรณ์ ทรัพย์มนชัย กล่าวว่าภาพยนตร์โฆษณา “ส่งตรง” จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะสามารถทำให้เพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ให้มากขึ้นตามเป้าที่วางไว้คือ ประมาณ 20, 000 คน ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่คาดหวังไว้คือ 500 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10% และจะทำให้จำนวนสมาชิกของเพิ่มขึ้นถึง 75,000-80,000 คน โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 คน จากปีที่ผ่านมาตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ โฆษณาชุด Delivery หรือส่งตรง จึงถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ DHC ตั้งใจและทุมงบประมาณเพื่อรังสรรค์งานที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายได้ชมงานที่มีคุณภาพและสื่อความเป็น DHC ได้อย่างชัดเจน เพื่อจะได้ขยายผลต่อไปในธุรกิจสำหรับ ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพและเสริมอาหารในอนาคตอันใกล้
ทางบริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 37 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณการผลิต 7 ล้านบาทและงบประมาณการซื้อสื่อโฆษณา 30 ล้านบาท ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะเริ่มออกอากาศวันแรกในวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 ด้วยความยาว 45 วินาที เป็นเวลา 2 อาทิตย์ในช่วงแรกหลังจากนั้นจะcut down ความยาว15 วินาที จำนวน 2 เวอร์ชั่น และจะเผยแพร่ต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ทางบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ Creative Juice\G1 เป็นเอเยนซี่ที่รับผิดชอบเรื่องการสร้างสรรค์งานโฆษณาชุดนี้ และคัดเลือกให้ คุณสุธน เพ็ชรสุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเป็นผู้กำกับ
นาย วิศาล เมฆสมณะศักดิ์ รองประธาน-ปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดของดีเอชซี ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำเรื่อง Beauty Delivery และแสดงศักยภาพของระบบ Delivery ของ DHC ที่ได้มีการพัฒนาระบบขนส่ง Express Service เพื่อจะนำส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและช่วยประหยัดเวลารวมไปถึงค่าใช้จ่ายใน
เรื่องการเดินทางและเหมาะกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยในยุคปัจจุบัน โดยในปัจจุบัน ลูกค้า DHC ใน กรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล จะได้รับสินค้าภายใน 1-2 วันทำการ (สั่งเช้าส่งเย็น หรือสั่งบ่ายวันนี้ได้พรุ่งนี้เช้า) และลูกค้าต่างจังหวัด จะได้รับสินค้าภายใน 3 วันทำการ หลังจากที่ได้ชำระค่าสินค้าแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ DHC ได้พัฒนาขึ้น
DHC มีนโยบายในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็น Beauty Delivery โดยการพัฒนาระบบขนส่ง ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยได้มีการจัดทำ ระบบ Tracking ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบเพื่อให้ทราบว่าขณะนี้ขั้นตอนของการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคอยู่ในขั้นตอนใด นอกจากนี้ก่อนจัดส่งสินค้า เจ้าหน้าที่ฝ่าย Logistic Center จะมีการโทรเช็คความสะดวกกับลูกค้า ก่อนเสมอ และเสริมสร้างทีม Express Service ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับการส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าต่างจังหวัดจะใช้ วิธี EMS ประกอบกับการใช้ระบบ Tracking เข้ามาช่วยด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ลูกค้ามั่นใจในประสิทธิภาพของ DHC ที่ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ตลอดจนการขนส่งและการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ที่จะทำให้ DHC เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในด้าน Beauty Delivery ในใจผู้บริโภค ครองใจลูกค้าได้อย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด
Tel: 0-2284-2662 ต่อ 401-404 Fax: 0-2284-2291-2
คุณสาโรจน์, E-mail: sarote@kanokratpr.com
คุณปัจจัยญา, E-mail: pajjaiya@ kanokratpr.com
pajjaiya@hotmail.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net