กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของและผู้ให้บริการอาหารจานด่วนพิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ประกาศแต่งตั้ง นายศรัณย์ สมุทรโคจร ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (Managing Director) คนใหม่ของบริษัทฯ แทนที่มร.โจเซฟ ฮาน ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไต้หวัน
นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นลูกหม้อเก่าของบริษัทฯ เนื่องจากทำงานที่บริษัทยัมมานานกว่า 12 ปี และได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มาโดยตลอด อาทิ ประธานบริหารฝ่ายการเงิน ของ เคเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ประธานบริหารฝ่ายการเงิน ไทรคอน เรสเทอรองตส์ (ประเทศไทยและสิงคโปร์) ผู้จัดการทั่วไป ไทรคอน เรสเทอรองตส์ (ประเทศสิงคโปร์) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายแบรนด์และการเงินเคเอฟซี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงินและการพัฒนาธุรกิจ และตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของยัม คือ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฎิบัติการเคเอฟซี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับบริษัทฯ นายศรัณย์ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพในการบริหารงานธุรกิจอาหารจานด่วน (Quick Service Restaurant) และเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ เข้าใจในวัฒนธรรมองค์กรของยัมเป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงมั่นใจว่านายศรัณย์เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะสามารถนำองค์กรยัมไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และรักษาไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหาร
นายศรัณย์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบหน้าที่อันสำคัญยิ่งขององค์กร โดยเฉพาะองค์กรอย่างยัมที่นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่ในระดับโลกแล้ว ยัมยังเป็นองค์กรที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และประสบความสำเร็จอย่างสูงในธุรกิจอาหาร ซึ่งดูได้จากสถิติในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่สำคัญการทำงานที่ยัมเป็นลักษณะแบบคนกันเอง มีความเป็นครอบครัว ผูกพันใกล้ชิด และทำงานกันเป็นทีม เป็นองค์กรที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยที่ความสำเร็จทุกชิ้นล้วนเกิดขึ้นมาจากการมีส่วนร่วมของทุกๆ คนในองค์กร มีความสมัครสมานสามัคคี และร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว”
“บุคลากรของยัมเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีความร่วมมือร่วมใจที่ดี และมีความมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตราฐานระดับสากล ตลอดจนการบริการที่สร้างความประทับใจเหนือความคาดหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหัวใจหลักในการทำงาน และเราก็ได้ใช้มาตรฐานเหล่านี้กำหนดเป็นนโยบายที่พนักงานทุกคนควรต้องยึดถือและปฎิบัติอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด” นายศรัณย์กล่าวเสริม
สำหรับนโยบายด้านการดำเนินงานในฐานะกรรมการผู้จัดการคนใหม่ นายศรัณย์กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการที่ผมร่วมงานกับยัมมากว่า 12 ปี และได้มีส่วนร่วมในการจัดวางนโยบายและกำหนดกลยุทธ์ต่างๆขององค์กรมาโดยตลอด ดังนั้นนโยบายภาพรวมจากนี้ไป คงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก หากแต่จะเน้นที่การสร้างและพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพทั้งในด้านความสามารถ ทักษะ ตลอดจนเสริมสร้างทัศนคติ
ที่ดีในการทำงานและการให้บริการลูกค้าเป็นหลัก ภายใต้คอนเซปต์ Strong Growth on Sound Foundation ตามรูปแบบของ YUM Dynasty Model เพื่อให้สามารถนำผลิตภัณฑ์ และการบริการที่มีคุณภาพ มานำเสนอแก่ลูกค้า ตลอดจนเพื่อสร้างความเติบโตให้แก่องค์กรอย่างมั่นคง”
นอกจากนี้ นายศรัณย์ยังได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจอาหารจานด่วนหรือ Quick Service Restaurant ในประเทศไทยว่า แนวโน้มในช่วง 2-3 ปีนี้จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของนโยบายการตลาดของเคเอฟซีและพิซซ่าฮัทนั้น จะมีกลยุทธ์ที่ต่างกันออกไปตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยจะทำให้ทั้งสองแบรนด์เป็น Dominant Brand ในใจผู้บริโภค ให้ครอบคลุมทุกๆ จุด ซึ่งจะต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี การตัดสินใจด้านการตลาดจึงต้องมาจากการทำวิจัยการตลาด (Insight Marketing) อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งทำให้เข้าใจลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
“เคเอฟซีในฐานะที่เป็น Brand Leader ในส่วนของ Quick Service Restaurant จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตได้หลายทาง เราจะเน้นการขยายตลาดไปในพื้นที่นอกห้าง และในเขตต่างจังหวัดที่เป็นพื้นที่รองลงไปทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งวางแผนการขยายบริการเดลิเวอร์รี่หรือ Home Service ไปในพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ประมาณ 20% ในช่วง 1 -2 ปีนี้ นอกจากนี้ยังเน้นที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ในทุกๆโอกาส สำหรับแผนการขยายร้านนั้น เรามองว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 สาขาในเขตกรุงเทพ และเมืองสำคัญๆ และอีกประมาณ 10-15 สาขา ในพื้นที่รองลงไป”
ในส่วนของพิซซ่าฮัท “เราจะเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยจะเน้นในด้านการสร้างความรู้ความเข้าใจและตอกย้ำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นและเลือกที่จะพิจารณาคุณภาพของอาหารมากกว่าที่ปริมาณ ซึ่งจะเน้นที่การจัดกิจกรรมการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคและเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมาสัมผัสกับแบรนด์ของเราให้มากที่สุด เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมทั้งมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังจะเน้นที่กระบวนการพัฒนา ตกแต่งและปรับปรุงร้าน ตลอดจนการบริการลูกค้าให้มีระบบ มีมาตรฐานสูงสุด เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว”
ส่วนเป้าหมายการเติบโตขององค์กรยัม “ผมมองว่าองค์กรของเราสามารถเติบโตได้เป็น 2 เท่าภายในปี 2010 ซึ่งนับว่าเป็นภารกิจที่ท้าทาย แต่ผมเชื่อมั่นว่า เราสามารถไปถึงจุดนั้นได้แน่นอน เพราะยัมมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพ มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน มีพัฒนาการทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตลอดจนการบริการที่สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งทางบริษัทแม่เองก็มีความมั่นใจในเรื่องนี้ เพราะบริษัทฯ แม่ก็พร้อมที่จะทุ่มเม็ดเงินเป็นงบประมาณการลงทุนให้กับยัม ประเทศไทยถึงประมาณกว่า
600 ล้านบาทต่อปี และนอกจากการสร้างและพัฒนาคน พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพได้มาตราฐานสากลแล้ว
ยัม ประเทศไทยยังคืนกำไรให้แก่สังคมในโครงการเคเอฟซีเพื่อสังคมด้วยการสร้างโรงเรียน ห้องสมุด และศูนย์การเรียนรู้ พร้อมทั้งบริจาคอุปกรณ์การเรียนการสอนให้แก่โรงเรียนตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศด้วย ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ”นายศรัณย์ กล่าวในตอนท้าย
ยัม! ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของยัม! แบรนด์ส อิงค์ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเครือข่ายร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนสาขากว่า 34,000 ร้าน ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก บริษัทมีการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งด้วยจำนวนพนักงานกว่า 840,000 คนทั่วโลก ให้บริการภายใต้ 5 แบรนด์ ได้แก่ เคเอฟซี พิซซ่า ฮัท ทาโก เบลล์ ลอง จอห์น ซิลเวอร์ และ เอแอนด์ดับบลิว สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีร้าน เคเอฟซี 306 สาขา และ พิซซ่าฮัท 75 สาขา ทั้งสองแบรนด์ต่างได้รับการตรวจรับรองตามโครงการ “อาหารสะอาด รสชาติปลอดภัย” (Clean Food Good Taste) และ “ อาหารปลอดภัย” (Food Safety) เป็นรายสาขาจากกระทรวงสาธารณสุข กล่าวได้ว่าทุกวันนี้ เคเอฟซีและพิซซ่าฮัทได้ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงสุดระดับโลกให้กับผู้บริโภค
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ:
คุณสุทธาลินี รองสวัสดิ์
ฝ่ายสื่อสารสัมพันธ์ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ประเทศไทย)
ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-653-2900 ต่อ 6234
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net