กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปได้ปรับตัวลดลง อันมีผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจในยุโรปได้ส่งสัญญาณชะลอการเติบโต อีกทั้งบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก มูดี้ส์ยังอาจปรับลดเครดิตของสเปน นอกจากนี้ Institute of Supply Management รายงานดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือน มิ.ย. 53 ที่ลดลงมาอยู่ที่ 56.2 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน รวมถึง ยังต้องติดตามการใช้นโยบายทางการเงินของรัฐบาลจีนเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศและการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ หลังจากเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอความร้อนแรงหลังจากดัชนีภาคการผลิตอ่อนตัวลงเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (2 ก.ค.53) ราคาปิดตลาดสิงคโปร์น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 71.84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 81.63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 83.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้น ปตท. จึงได้พิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลงลิตรละ 60 สตางค์ (เว้น E85) ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีก ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 ก.ค. 53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E85 พลัส) 19.42
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E20 พลัส) 29.54
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 31.84
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 30.34
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 35.64
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 27.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 28.29
นายวิทยา กล่าวในตอนท้ายว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะมีทิศทางอ่อนตัว ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกลง แต่ก็ขอให้ผู้บริโภคทุกท่านยังคงวางแผนการใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่าเสมอ เพราะประเทศไทยยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้น้อยลงแล้ว ยังเป็นลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2537 2164
โทรสาร 0 537 2171