กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--เจ ดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
- ตอกย้ำความเป็นหนึ่งกับการเป็นผู้นำด้าน “โททอล โซลูชั่น โพรไวเดอร์” ที่มาพร้อมกับสุดยอดแพ็คเกจ “มิกซ์แอนด์แมทช์”
- มุ่งเจาะตลาดใหม่ด้วยกลยุทธ์ “ยูธ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง”
- เปิดตัวในคอนเซ็ปต์ฉีกแนว “Make Premium More Affordable” มอบทางเลือกใหม่สำหรับสินค้าพรีเมี่ยมแก่ผู้บริโภค
ซัมซุง ผู้นำด้านมูลค่าตราสินค้าอันดับหนึ่งของโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มุ่งขยายศักยภาพความเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย ภายใต้งบการทำตลาดปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท เน้นใช้กลยุทธ์การสร้างตลาดใหม่และมุ่งทำตลาดแบบเจาะกลุ่ม ชูเรื่องความได้เปรียบในการเป็น โททอล โซลูชั่น โพรไวเดอร์ ส่งแพ็คเกจ “มิกซ์แอนด์แมทช์” เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมบุกตลาดวัยรุ่น มุ่งเจาะกลุ่มตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ “Make Premium More Affordable” ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้30%หรือประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท
นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “จากปีที่ผ่านมา ซัมซุงครองความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับที่หนึ่งใน 8 กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์สี แอลซีดีทีวี พลาสม่าทีวี โปรเจ็คชั่นทีวี ตู้เย็นไซด์บายไซด์ ตู้เย็นสองประตู จอแอลซีดี และคอมพิวเตอร์ โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จนี้มาจากการที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าในกลุ่มพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากของซัมซุงจากการทำตลาดกับผู้ประกอบการธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผนวกกับความสำเร็จในด้านกลยุทธ์การวางผลิตภัณฑ์ในสถานที่ที่มีความเป็นพรีเมี่ยม อาทิ โรงแรม 5 ดาว และโชว์รูมหรู เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มการรับรู้และความสนใจในตัวสินค้าในกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้เป็นอย่างดี”
สำหรับเป้าหมายของซัมซุงในปี พ.ศ. 2550 นี้ คือ การสร้างตลาดด้วยความเป็นผู้นำ ผ่านความได้เปรียบของเราในด้านความแข็งแกร่งเรื่องเทคโนโลยีและการออกแบบ พร้อมการสร้างและขยายตลาดใหม่เพื่อผลักดันยอดขายและกระตุ้นการเติบโตของตลาด
นายอาณัติกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้ ซัมซุงตั้งเป้าไว้ที่ 30% ของยอดขายในปีนี้หรือประมาณ10,000-11,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดรายได้จะแบ่งเป็นสินค้ากลุ่มภาพและเสียง60% และเครื่องใช้ในครัวเรือนที่เป็นดิจิตอล(Digital Appliances)อีก40% ซึ่งปัจจัยการเติบโตของยอดจะมาจากการสร้างตลาดใหม่ขึ้นมา รวมถึงการขยายตลาดต่างจังหวัดเพื่อรองรับสินค้าในกลุ่มพรีเมี่ยม และการนำเสนอแพ็คเกจ “มิกซ์แอนด์แมทช์” เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการซื้อสินค้าพรีเมี่ยมของผู้บริโภคให้มีมากขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งของซัมซุงในการเป็น “โททอล โซลูชั่น โพรไวเดอร์” หรือผู้ผลิตและให้บริการโซลูชั่นครบวงจร เราจึงมุ่งตอกย้ำความเป็นหนึ่งในด้านนี้ ด้วยการจัดกิจกรรมทางการตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ดังกล่าว เรามั่นใจว่า กลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถสร้าง ความต้องการสินค้าพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าปัจจุบันรวมไปถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ และเปลี่ยนรูปแบบตลาดไปสู่ตลาดสินค้าแบบพรีเมี่ยม เช่น จากทีวีจอแบนเป็นสลิมฟิตทีวี ทีวีธรรมดาเป็นแอลซีดีทีวี และตู้เย็นแบบสองประตูเป็นแบบไซด์บายไซด์ ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2550 ซัมซุงจะเน้นกลยุทธ์หลักคือ “Make Premium More Affordable” หรือการทำให้สินค้าพรีเมี่ยมกลายเป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้บริโภคและการนำเสนอแพ็คเกจแบบโซลูชั่นที่มากขึ้น”
นายอาณัติกล่าวเสริมเกี่ยวกับกลยุทธ์ของซัมซุงในปี พ.ศ. 2550 นี้ว่า ซัมซุงมุ่งที่จะสร้างเทรนด์ให้กับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย และเป็นผู้นำในการขยายการเติบโตของตลาดผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการมุ่งทำตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยม การสื่อสารการตลาดในรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์ การบริหารจัดการ ช่องทางการจัดจำหน่าย การพัฒนาคุณภาพการบริการ การบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้า และการมอบข้อเสนอพิเศษต่างๆ ให้กับคู่ค้า ภายใต้งบการตลาดรวมทั้งปี1,000 กว่าล้านบาท
ทั้งนี้ ซัมซุงได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและไลฟ์สไตล์เพื่อการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ เราตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในตลาดที่เจริญรุดหน้าเช่นเดียวกันกับผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีความต้องการสินค้าที่ไม่เพียงแต่ใช้งานได้จริง แต่ต้องสามารถตอบสนองและบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้อีกด้วย ซึ่งซัมซุงสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่มีรสนิยมนี้ได้ เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องของการออกแบบและเทคโนโลยีอย่างเทียบเท่ากัน นอกจากนี้ ซัมซุงยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเลือกไลฟ์สไตล์ในแบบของตนเอง และเมื่อพิจารณาทางเลือกทั้งหมดแล้ว จึงทำให้ซัมซุงสามารถทำให้สินค้าพรีเมี่ยมกลายเป็นทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับผู้บริโภค และนี่คือความแตกต่างของเราที่ไม่มีใครเทียบได้
นายอาณัติกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมมีความภูมิใจที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่จะเป็นไฮไลท์ของซัมซุงในปี พ.ศ. 2550 นี้ ได้แก่
- ชุดผลิตภัณฑ์ Full HD (Full High-Definition) แบบครบวงจรชุดแรกของโลกที่มีพร้อมทั้งจอภาพและอุปกรณ์แสดงผล ประกอบด้วย แอลซีดีทีวี โมเซล (Mosel), เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์ รวมทั้งจอพลาสม่าทีวี และชุดโฮมเธียเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยี Full HD
- เครื่องเล่นเอ็มพี3 พร้อมลำโพงสเตอริโอบิวท์อินเครื่องแรกของโลกที่ปฏิวัติแนวคิดการฟังเพลงในรูปแบบของการแบ่งปัน(Sharing) ได้แก่ รุ่น K5 และ K3
- เครื่องเล่นเอ็มพี3 พร้อมชุดหูฟังสเตอริโอบลูทูธเครื่องแรกของโลก ได้แก่ รุ่น T9
- เครื่องปรับอากาศกับนิยามการใช้ชีวิตแบบบริสุทธ์ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไมโคร พลาสม่า อิออน (MPI-Micro Plasma lons) ที่สามารถกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรีย พร้อมกู้ดสลีปโหมด (Good Sleep Mode) ที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิในห้องนอนและช่วยประหยัดพลังงาน ได้แก่ รุ่นวิวาเช่ (Vivace) และ โมเดอเรโต (Moderato)
- เครื่องซักผ้าแบบ 3 ใน 1 ด้วยเทคโนโลยีซิลเวอร์นาโน และ “แอร์ วอช (Air Wash)” นวัตกรรมล่าสุดที่สามารถขจัดคราบสกปรกและแบคทีเรียออกจากผ้าโดยไม่ต้องใช้น้ำและผงซักฟอก
- ตู้เย็น 4 ประตู พร้อมชุดทำความเย็นแยกการทำงานอิสระ เครื่องแรกของโลกมาพร้อมระบบประหยัดพลังงานและควบคุมความชื้นได้ถึง 72% (ในขณะที่ตู้เย็นอื่นในตลาดทำได้เพียง 17%) ซึ่งจะส่งผลดีต่อการรักษาความสดและคุณภาพของอาหารได้แก่ ควอโตร (Quatro)
- ชุดครัวแบบบิวท์อิน (Built-in) ที่ประหยัดพื้นที่ใช้สอยในดีไซน์หรูหราทันสมัยสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และรสนิยมผู้ใช้ ประกอบด้วย หัวเตาไฟฟ้า เตาอบไฟฟ้าที่ดูดควัน เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า และตู้เก็บไวน์
ด้วยศักยภาพความเป็นผู้นำและกลยุทธ์ที่ชัดเจน เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างเทรนด์ตลาดใหม่ให้กับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและครองความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน”
ด้านช่องทางการขายของซัมซุงปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มทั้งในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดีลเลอร์ที่เน้นเปิดในตลาดต่างจังหวัด ปัจจุบันมี 70 แห่ง และร้านจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ซัมซุงอย่างเดียว ที่เปิดร่วมกับดีลเลอร์ 6-7 แห่ง
สำหรับตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย สามารถแบ่งออกเป็น กลุ่มภาพและเสียง มีมูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น8-9% ส่วนกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือนที่เป็นดิจิตอล (Digital Appliances) มีมูลค่า 35,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับการทำตลาดของผู้ประกอบการด้วย
บรรยายใต้ภาพ นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (ที่ 3 จากทางขวาภาพ) และผู้บริหารซัมซุงร่วมแถลงข่าวแผนการดำเนินนธุรกิจในปี2550 ประกาศเดินเกมรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มกำลัง ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีโต30%
เกี่ยวกับ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำระดับโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ โทรคมนาคม สื่อดิจิตอล และเทคโนโลยีการควบรวมดิจิตอล ในปี พ.ศ. 2548 บริษัทมียอดขาย 56.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้สุทธิ 7.5 พันล้านเหรียสหรัฐ บริษัทมีพนักงานประมาณ 128,000 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานกว่า 120 แห่งใน 57 ประเทศ และประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 5 หน่วย คือ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตอล ธุรกิจสื่อดิจิตอล ธุรกิจแอลซีดี ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ และธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่เติบโตเร็วที่สุดแล้ว ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์ดิจิตอล หน่วยความจำ โทรศัพท์มือถือ และจอทีเอฟทีแอลซีดีชั้นนำอีกด้วย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com
เกี่ยวกับ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2548 บริษัทมียอดขาย 15.8 พันล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในผลิตภัณฑ์โปรเจคชั่นทีวี พลาสม่าทีวี โทรทัศน์สีจอแบน จอภาพแอลซีดี จอภาพคอมพิวเตอร์ ตู้เย็นทั้งแบบไซด์บายไซด์และแบบ 2 ประตู บริษัทมีพนักงานประมาณ 2,400 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ศูนย์บริการกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และโรงงานจังหวัดชลบุรี และประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 3 หน่วย คือ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตอล ธุรกิจสื่อดิจิตอล และธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com/th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เจ ดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ปริญดา นิลทจันทร์โทร 0-2695-9169 พรชนันท์ มงคลกุล (กิฟท์) โทร 0-2204-8223 , 081-755-1105
อีเมล์ prinda.n@samsung.com อีเมลล์ pornchanan.mongkolkul@jwt.com
รสวันต์ ดวงสร้อยทอง (โอ๋) โทร. 0-2204-8224 , 089-665-6819
อีเมลล์ rossawun.doungsoitong@jwt.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net