สถาบันเหล็กฯ ยืนยัน เหล็กแบบครบวงจรของไทยจะพัฒนาหรือไม่พัฒนา ขึ้นอยู่กับทุกภาคส่วน

ข่าวทั่วไป Friday July 2, 2010 17:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ด้วยมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อการศึกษาของสถาบันฯที่กำลังศึกษาอยู่ว่า มีการปักธงไว้แล้วว่าจะมีการสร้างโรงงานเหล็กแบบครบวงจรขึ้นในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี สถาบันฯขอเรียนว่า การศึกษาโครงการที่สถาบันฯกำลังศึกษาอยู่ในขณะนี้ เป็นการศึกษาเพื่อประกอบการพิจารณาในระดับนโยบายของรัฐบาลว่าจะพัฒนาหรือไม่พัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กแบบครบวงจรในประเทศไทย หากจะพัฒนาก็ต้องนำเอาข้อสังเกตของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2553 มาประกอบการพิจารณา คือ (1) การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการและ (2) การศึกษาการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเศรษฐกิจเชิงนิเวศน์ ซึ่งเป็นผลการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาประกอบการพิจารณา หากไม่พัฒนา ก็ต้องพิจารณาทางเลือกอื่นประกอบ เพราะระบบเศรษฐกิจต้องแบกรับภาระต้นทุนนำเข้าของเหล็กที่ผันผวนไปตามราคาตลาดโลก ก็จะต้องมีการเร่งรุดพัฒนาเศรษฐกิจแขนงอื่นแทนเพื่อสร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจเป็นการชดเชยซึ่งกันและกัน เช่น การส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว การศึกษาในครั้งนี้ ได้เลือกพื้นที่ศึกษาสองแห่ง คือ ในท้องที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เพราะในการศึกษาในคราวเดียวกันนี้มีหลายเรื่องประกอบกัน มีทั้งการพิจารณาองค์ประกอบสำหรับย่านอุตสาหกรรม การสร้างท่าเรือน้ำลึก การพัฒนาเมืองใหม่และวิสาหกิจชุมชน ที่จำเป็นจะต้องพิจารณาองค์ประกอบและรายละเอียดในหลายๆเรื่องเข้าด้วยกันและเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมว่าจะดำเนินการในระดับนโยบายเช่นใด ไม่ใช่เรื่องการศึกษาในระดับโครงการของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่ง ว่าจะสร้างโรงงานเหล็กอย่างไร หรือเป็นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเพื่อขออนุญาตก่อสร้างโรงงาน การศึกษาครั้งนี้ สถาบันฯได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดในทุกภาคส่วนเป็นสำคัญ และยึดเอาข้อแนะนำจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเป็นแนวทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเศรษฐกิจเชิงนิเวศน์ ซึ่งสถาบันฯได้กำหนดเป็นรายละเอียดของกรอบการศึกษาให้มีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ศึกษาไปพร้อมกันกับการศึกษาการพัฒนาเมืองใหม่ เช่น การจัดการน้ำ ก็จะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม และการขาดแคลนน้ำ หรือศึกษาเรื่อง การพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ด้วยพัฒนาการเลี้ยงกุ้งให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นและมีมาตรฐานสินค้าในการส่งออก รวมทั้งปัญหาอื่นๆในท้องถิ่นเช่นการจัดการต่อปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง หรือการจัดการระบบนิเวศน์จากการทำนากุ้ง เป็นต้น อีกเรื่องหนึ่งที่สถาบันฯให้ความสำคัญ ก็คือ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทั้งในระดับนโยบายและในระดับชุมชน โดยในระดับชุมชน ได้กำหนดให้บริษัทที่ปรึกษาจะต้องจัดให้การเสวนาย่อยกับชุมชน 2 รอบ และจัดให้มีการประชุมอบรมเพื่อให้ความรู้เรื่องการพัฒนาการเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ และการประชุมสาธารณะ ตลอดจนการถ่ายทอดผลการศึกษาในแต่ละระยะต่อสื่อในชุมชนท้องถิ่นและสื่อในส่วนกลาง โดยให้นำเอาความคิดเห็นที่สะท้อนมาจากการมีส่วนในแต่ละระยะไปปรับปรุงการศึกษาเป็นการเพิ่มเติมตลอดการศึกษาของคณะผู้ศึกษา สถาบันฯขอเรียนว่า แม้ว่ารัฐบาลจะมีมติไม่พัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กขึ้นในพื้นที่ใดเลยก็ตาม ผลการศึกษาในครั้งนี้ จะเป็นผลประโยชน์ต่อชุมชนที่จะนำไปประกอบการจัดทำแผนในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง และขอยืนยันว่าการศึกษาครั้งนี้เป็นเรื่อง จะ “พัฒนา หรือ ไม่พัฒนา” อุตสาหกรรมเหล็ก ไม่ใช่จะสร้างโรงงานเหล็ก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0890056252 เจเจ้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ