กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 24-27 สิงหาคม 2550 นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 39 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยการประชุมครั้งนี้ จะมีการพิจารณาประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ ดังนี้
1. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน จะพิจารณาร่างพิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) และคณะกรรมการ/คณะทำงานที่เกี่ยวข้องของอาเซียนแล้ว โดยพิมพ์เขียวนี้จะเป็นแผนงานบูรณาการด้านเศรษฐกิจของอาเซียนเพื่อไปสู่ AEC ในปี 2558 และมีเป้าหมายเสนอให้ผู้นำอาเซียนลงนามแถลงการณ์ว่าด้วยพิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียนปลายปีนี้ที่ประเทศสิงคโปร์
2. การรวมกลุ่มสาขาสำคัญของอาเซียน รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะลงนามพิธีสารว่าด้วยการรวมกลุ่มสาขาโลจิสติกส์ ซึ่งจะเป็นสาขานำร่องสาขาที่ 12 ในการเร่งรัดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน พร้อมมีแผนการดำเนินงาน (Roadmap) เป็นภาคผนวก ซึ่งจะเน้นการดำเนินงานเพื่อสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการ การอำนวยความสะดวก และเปิดเสรีบริการสาขาโลจิสติกส์ของอาเซียน
3. การหารือกับประเทศคู่เจรจา รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะร่วมหารือกับประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยประเด็นสำคัญ คือ เรื่องความคืบหน้าการจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างกัน และความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ
ส่วนในเรื่อง กฎบัตรอาเซียน จะพิจารณาร่างกฎบัตรอาเซียนที่คณะทำงานระดับสูงว่าด้วยกฎบัตรอาเซียนได้เสนอให้ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศพิจารณาไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 เพื่อให้ความเห็นในประเด็น/กลไกการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะมีการประชุมคณะทำงานระดับสูง ว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (HLTF-EI) ในวันที่ 13-14 สิงหาคม 2550 ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป. ลาว ซึ่งในส่วนของไทยมีนายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วม การประชุม โดยที่ประชุมจะหารือเรื่องพิมพ์เขียวดังกล่าวข้างต้น และประเด็นด้านการค้าบริการ การลงทุนของอาเซียน เพื่อให้แนวทางด้านนโยบายก่อนเสนอรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนพิจารณาต่อไป