กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. มีคำสั่งเพิกถอนผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน (เจ้าหน้าที่การตลาด) 2 ราย ได้แก่ (1) นายกฤษณะ สหวุฒิภัทร และ (2) นางคัมภิรดา กีรติกมลภัทร เนื่องจากมีการกระทำ หรือพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สข. 15/2548 เรื่อง
การให้ความเห็นชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน และมาตรฐานการปฏิบัติงาน ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2548 และสั่งพัก (3) นางสาวเพ็ญประภา บูลภักดิ์ จากการปฏิบัติหน้าที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน เป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ โดยตรวจพบพฤติกรรมและพิจารณาลงโทษ ดังนี้
รายที่ (1) และ (2) นายกฤษณะและนางคัมภิรดา ร่วมกันปลอมลายมือชื่อของลูกค้าในใบโอนหลักทรัพย์ เพื่อโอนหลักทรัพย์ของลูกค้าออกไปยังบัญชีลูกค้ารายอื่นในความดูแลของนายกฤษณะที่มีการซื้อขายแล้วเกิดผลขาดทุนเป็นจำนวนมาก โดยทำให้ลูกค้าผู้รับโอนเข้าใจว่าเป็นหลักทรัพย์ของนายกฤษณะเอง และยังให้ข้อมูลเท็จกับลูกค้าเจ้าของหลักทรัพย์ว่าเหตุที่ไม่ปรากฏรายการหลักทรัพย์ในรายงานยืนยันการซื้อขายเป็นเพราะหลักทรัพย์ดังกล่าวอยู่ระหว่างตั้งรอขาย ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าหลักทรัพย์ในบัญชียังมีอยู่ครบถ้วน นอกจากนี้นายกฤษณะยังได้ตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าโดยที่ลูกค้ามิได้มีคำสั่ง
มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ลูกค้าเปิดบัญชีเมื่อปี 2542 ซึ่งการกระทำของผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนทั้ง 2 รายนี้ทำให้ผู้ลงทุนได้รับความเสียหายเกือบ 12 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงพิจารณาว่าเป็นความผิดอย่างร้ายแรง และได้เพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของบุคคลทั้งสองตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2550
รายที่ (3) นางสาวเพ็ญประภา ปฏิบัติไม่เป็นไปตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง เจ้าหน้าที่รับอนุญาตในระบบการซื้อขาย พ.ศ. 2543 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2543 และ เรื่อง การซื้อขาย การชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2542 ประกอบหนังสือเวียนที่ กล.(ว) 8/2547 ลงวันที่ 15 กันยายน 2547 เรื่อง ลักษณะการส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากพบว่า นางสาวเพ็ญประภาส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้า
ในลักษณะผลักดันราคาหลักทรัพย์ให้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันอาจส่งผลให้ราคาหรือปริมาณ การซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด (False Market) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาลงโทษห้ามนางสาวเพ็ญประภาปฏิบัติงานใดๆ ในบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่
1 มีนาคม 2550 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 และเป็นผลให้นางสาวเพ็ญประภามีลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ ตามประกาศของคณะกรรมการ ก.ล.ต. นอกจากนี้ เนื่องจากในขณะกระทำความผิดนางสาวเพ็ญประภาดำรงตำแหน่งผู้จัดการสาขาสัมพันธวงศ์ ของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) จึงมีฐานะเป็นผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ด้วย ดังนั้น การลงโทษข้างต้น จึงมีผลให้นางสาวเพ็ญประภา มีลักษณะต้องห้ามในฐานะผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ ก.ล.ต. จึงสั่งห้ามนางสาวเพ็ญประภาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ด้วย โดยให้มีผลในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งพัก