วีเอ็มแวร์ ควงเอชพี เผยโฉมโซลูชั่นสตอเรจ เดสก์ทอป และการเชื่อมต่อแบบครบวงจร

ข่าวเทคโนโลยี Monday July 5, 2010 15:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค บริษัท วีเอ็มแวร์ อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานเวอร์ช่วลไลเซชั่นและ ระบบคลาวด์ และ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่ของโลก ได้ร่วมกันเปิดตัวโซลูชั่นสตอเรจ เดสก์ทอป และการเชื่อมต่อแบบครบวงจร สำหรับช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ให้ปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงการปรับปรุงความพร้อมใช้งานของข้อมูล และลดค่าใช้จ่าย แผนความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด จะทำให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โซลูชั่นเวอร์ช่วลไลเซชั่นในกรอบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกรวมและปฏิรูประบบดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อรองรับระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ไปพร้อมกันด้วย เดวิด บูน ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงานและวางแผนของเดนเวอร์ เฮลธ์ (Denver Health) กล่าวว่า การกู้คืนระบบเมื่อเกิด ภัยพิบัติ (Disaster Recovery) มีความสำคัญต่อองค์กรธุรกิจอยู่แล้ว แต่สำหรับธุรกิจที่มุ่งช่วยเหลือชีวิตประชาชนโดยตรง อย่าง Denver Health การกู้คืนระบบถือได้ว่ามีความสำคัญมากทีเดียว” เดวิด บูน กล่าวอีกว่า การผนวกรวมสตอเรจของเอชพีเข้ากับคลัสเตอร์ High Availability ของวีเอ็มแวร์ ช่วยให้ เราสามารถกู้คืนระบบดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นหากไซต์หนึ่งหยุดทำงานเนื่องจากเกิดภัยพิบัติ อีกไซต์หนึ่งก็จะพร้อมใช้งานทันทีโดยอัตโนมัติ เราคาดหวังว่าโซลูชั่นสตอเรจเวอร์ช่วลไลเซชั่นชุดใหม่จากเอชพีและ วีเอ็มแวร์จะช่วยให้เราสามารถให้การรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย ขณะเดียวกัน เพื่อนำเสนอระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นราคาประหยัดที่ติดตั้งได้อย่างง่ายดาย เอชพีและวีเอ็มแวร์ได้ ผนวกรวม VMware vSphere? Essentials Plus เข้ากับ HP P4000 Virtual SAN Appliance (VSA) โดย HP P4000 เป็น SAN ซอฟต์แวร์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการรับรองว่าพร้อมใช้งานกับเทคโนโลยีวีเอ็มแวร์ (VMware Ready?) ผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรนี้จะช่วยเสริมสร้างระบบไอทีที่ “ทำงานอยู่ตลอดเวลา” จากวีเอ็มแวร์สำหรับองค์กรธุรกิจ ขนาดเล็กและขนาดกลาง (เอสเอ็มบี) ด้วยสตอเรจที่มีความพร้อมใช้งานสูงจากเอชพี โซลูชั่นดังกล่าวรองรับ การแบ็คอัพและกู้คืน พร้อมความสามารถต่างๆ ทางด้านสตอเรจ ที่จะช่วยให้กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มบี สามารถเริ่มต้น เส้นทางการพัฒนาสู่บริการไอทีบนระบบคลาวด์ ในปัจจุบัน บรรดาองค์กรขนาดกลางสามารถผนวกรวมสตอเรจแบบเวอร์ช่วลไลซ์ได้มากขึ้นถึง 600 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งลดความยุ่งยากซับซ้อน ปรับปรุงการใช้พื้นที่เก็บข้อมูล และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ด้วย HP StorageWorks Enterprise Virtual Array (EVA) Cluster ซึ่งผ่านการรับรองสำหรับการใช้งานร่วมกับ VMware vSphere(1) ลูกค้าจะได้รับความสามารถที่เหนือชั้นในระดับองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในส่วนของการปรับขนาดอย่างยืดหยุ่น สมรรถนะ และความพร้อมใช้งานสูง สำหรับการนำเสนอไอทีในรูปแบบของบริการ ระบบคลัสเตอร์นี้เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ประกอบด้วย EVA หลายตัวที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อขจัดสตอเรจ “กลุ่มย่อย” ที่แยกออกจากกัน คลัสเตอร์ EVA จะช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการแหล่งรวบรวมพื้นที่ความจุที่มีขนาดใหญ่สูงสุด 2 เพทาไบต์ (PB) และมีไดรฟ์เกือบ 2,000 ตัว นอกจากนี้ลูกค้ายังลดความเสี่ยง ด้วยการนำเสนอผลลัพธ์ที่คาดการณ์ได้ และเพิ่มความรวดเร็วในการติดตั้งสำหรับสภาพแวดล้อมเวอร์ช่วลเดสก์ทอปขนาดใหญ่ โดยใช้สถาปัตยกรรมอ้างอิง Converged Infrastructure สำหรับ VMware View? ซึ่งประกอบด้วย HP P4800 BladeSystem SAN สถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และเครือข่ายที่แยกเป็นโมดูลย่อยนี้ จะสามารถปรับเพิ่มขนาดเพื่อรองรับเวอร์ช่วลเดสก์ทอปได้หลายพันเครื่อง สถาปัตยกรรมอ้างอิงนี้ให้ประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า 3 เท่าสำหรับผู้ดูแลระบบไอที และสามารถรองรับผู้ใช้ได้ถึง 1,600 คน โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง 50 เปอร์เซ็นต์ และใช้พื้นที่น้อยลง 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไคลเอ็นต์ เวอร์ช่วลไลเซชั่นรุ่นเก่า(2) เทคโนโลยีใหม่นี้ ไม่เพียงช่วยลูกค้าลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบเครือข่ายและค่าใช้จ่ายแล้ว แต่ยังเพิ่ม ความเรียบง่ายให้กับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพของเวอร์ช่วลไลเซชั่น ด้วย HP Virtual Connect ซึ่งผ่านการรับรองว่าทำงานร่วมกับ VMware vSphere ได้อย่างราบรื่น โมดูล HP Virtual Connect FlexFabric ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับเครือข่ายเวอร์ช่วลไลเซชั่น พร้อมความสามารถในการปรับขนาดเพื่อรองรับเวอร์ช่วลแมชชีนได้มากขึ้น 4 เท่าสำหรับแต่ละเบลด รวมทั้ง ขจัดอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการระบายความร้อน ได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant G7 รุ่นใหม่(3) ทั้งนี้ ทางเอชพีได้จัดหาบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับระบบคลาวด์สำหรับเทคโนโลยีของเอชพีและวีเอ็มแวร์ เพื่อ ช่วยให้ลูกค้าสร้างโซลูชั่นคลาวด์แบบส่วนตัว (Private Cloud) และปรับใช้ระบบการจัดการ การกู้คืนระบบ และ การรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน รวมถึงเดสก์ทอปเวอร์ช่วลไลเซชั่น โดยครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด โอปัส อินเทอร์แอคทีฟ (Opus Interactive) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เซิร์ฟเวอร์ และดาต้าเซ็นเตอร์ เลือกใช้โซลูชั่นสตอเรจเวอร์ช่วลไลเซชั่นจากวีเอ็มแวร์และเอชพี “โอปัส อินเทอร์แอคทีฟ ต้องการที่จะจัดหาทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจให้แก่ลูกค้าในรูปแบบของบริการที่คิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง” เจเรมี่ เชอร์วูด รองประธานฝ่ายขายและการปฏิบัติงานของโอปัส อินเทอร์แอคทีฟ “ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจจากเอชพี รวมถึงซอฟต์แวร์จากวีเอ็มแวร์ จึงช่วยให้ลูกค้าของเราลดค่าใช้จ่ายต่อเซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่องได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มความพร้อมใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โซลูชั่นสตอเรจเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ได้รับการเปิดตัวในวันนี้จากเอชพีและวีเอ็มแวร์จะช่วยให้เรานำเสนอผลลัพธ์ที่เหมาะสมและมีความสำคัญต่อลูกค้าของเรา” หากต้องการทราบข้อมูล หรือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นชั้นนำจากเอชพีและวีเอ็มแวร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่ www.hp.com/go/vmware

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ