กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--เอ. พี. ฮอนด้า
ตลาดรวม “มอ’ไซต์” พฤษภาคมฉลุย เดือนเดียวขายแตะ 150,000 คัน “ฮอนด้า” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ พร้อมทำตลาดรถ เอ. ที. ขึ้นเป็นที่ 1 กวาดสัดส่วนถึง 56% รถหัวฉีดสุดฟีเว่อร์ต้อนรับเปิดเทอมใหม่ ชี้ชัดวัยรุ่นไทยนิยมใช้โตพรวด 63%
ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2553 ฉลุย มีปริมาณยอดการจำหน่ายทั้งสิ้น 149, 676 คัน เติบโตขึ้น 10.57% หรือ 14,305 คัน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรถประเภท เอ.ที. ฮอตฮิตสุดขั้ว ด้วยอัตราเติบโตสูงสุดถึง 52% สูงกว่ารถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวที่มีสัดส่วน 45% ส่งผลให้ฮอนด้าครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้เป็นอันดับ 1 ในทุกเซ็กเม้นท์ที่ฮอนด้ามีการวางจำหน่าย ขณะที่เทรนด์การขับขี่ใหม่ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดฟีเว่อร์สุดๆ โกยสัดส่วนตลาดรวมสูงสุด 63% ชี้ชัดในความยอดนิยมของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ สะท้อนวัยรุ่นไทยนิยมใช้รถแบบหัวฉีดเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง ฮอนด้ายังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดตัวจริงด้านกลยุทธ์การตลาด โดยรวมกับดีลเลอร์ทั่วประเทศจัดแคมเปญ “เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบกับฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ”สร้างความฮือฮาให้วงการ เนื่องจากมีผู้สนใจขอคูปองทายผลจากร้านผู้จำหน่ายในจำนวนมากกว่า 1 ล้านใบ ทั้งที่ยังไม่หมดกำหนดรับคูปอง ถือว่าบรรลุผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ในการใช้กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ รวมทั้งได้ภาพลักษณ์และกระตุ้นยอดขายให้แก่รถหัวฉีด
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ว่า “ช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา มีปริมาณยอดสะสมจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์ทั้งสิ้น 750,607 คัน เทียบเท่าอัตราการเติบโตของตลาดสูงถึง 26.84% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 591,755 คัน ซึ่งมีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 158,852 คัน นับเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยฮอนด้าขานรับสัญญาณการเติบโตของทิศทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่โดยมียอดจดทะเบียนรวมระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา 518,865 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาดที่ 69.12%”
หากศึกษาในรายละเอียดจะพบว่า ภายใต้สัญญาณการเติบโตตลาดในภาพรวม สะท้อนตัวเลขเชิงลึกที่ชี้ให้เห็นถึงกระแสการเติบโตของกลุ่มรถจักรยานยนต์ประเภท เอ.ที. ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นมาเป็นลำดับ และครองสัดส่วนความนิยมสูงกว่ารถประเภทครอบครัว โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีอัตราครองตลาดสูงถึง 52% เหตุผลหนึ่งของการเติบโตนี้ เพราะเป็นผลจากการที่ทุกค่ายผู้ผลิตต่างแข่งขันและชิงความนิยมกันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการใช้กลยุทธ์ในการส่งเสริมการจำหน่าย ผลักดันแคมเปญต่างๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้ามากขึ้น คาดการณ์ว่ารถจักรยานยนต์ประเภท เอ.ที. จะสร้างความคึกคักและความตื่นตัวให้กับตลาดได้ต่อไป ซึ่งฮอนด้าสามารถกวาดแชร์เซกเมนต์ดังกล่าว ได้สูงถึง 56 % หรืออยู่ที่ 43,510 คัน จากยอดจดทะเบียนประเภทรถ เอ.ที. รวมทั้งหมด 78,161 คัน รองลงมาเป็นยามาฮ่า 43 % และซูซูกิ 1 %
ขณะที่ฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดตัวจริง ได้นำเอากลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดมาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการผลักดันตลาดรถประเภท เอ.ที. ตลอดมา ด้วยการเปิดเกมรุกกิจกรรมสานต่อไลฟ์สไตล์ความสนุก และเป็นการต้อนรับมหกรรมเกมกีฬายอดนิยมของมวลมนุษยชาติ การแข่งขันฟุตบอลระดับโลก 2010 โดยร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศจัดแคมเปญ “เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบกับฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ” พร้อมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ “เชียร์กีฬาอย่างสร้างสรรค์ ห่างไกลการพนัน และยาเสพติด” แก่สังคมไทย จนได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าและประชาชนทั่วไปอย่างล้นหลาม เนื่องจากไม่ว่าจะ “ทายถูก หรือ ทายพลาด” ก็สามารถจะลุ้นรับโชคจากแคมเปญนี้ได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังเปิดให้ผู้สนใจมาขอรับคูปองทายผลได้ใหม่แบบไม่อั้น ซึ่งขณะนี้มีประชาชนที่มาขอรับคูปองทายผลลุ้นโชคกับสกู๊ปปี้ ไอ รวมกว่า 1 ล้านใบ
และในขณะนี้ถึงแม้ทีมชาติอังกฤษจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไป แต่แฟนบอลชาวไทยยังสามารถส่งคูปองทายผลต่อได้จนถึงวันที่ 11 ก.ค. 2553 นี้ โดยขอรับคูปองเพิ่มได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ และร้านพลัสฟรีดอม คาเฟ่ สยามสแควร์ เพื่อเพิ่มโอกาสการรับรางวัลให้ผู้ใช้และประชาชนทั่วไปได้เลือกลุ้นรางวัลใหญ่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายสิงห์โตคำราม Limited Edition เพียง 100 คัน หรือถ้าเป็นแฟนพันธ์แท้อังกฤษ อยากได้เสื้อโปโลลิขสิทธิ์ทีมชาติไว้เป็นที่ระลึก ฮอนด้าก็มีเตรียมรอไว้สำหรับผู้ที่ทายผิด หรืออาจจะตั้งใจ โดยเตรียมไว้ถึง 1,000 ตัว รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 7 ล้านบาท จับรางวัลพร้อมกันวันที่ 29 ก.ค. นี้ ที่บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด สมุทรปราการ
รายงานตัวเลขตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทุกประเภทเดือนพฤษภาคม 2553 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 149,696 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบ เอ.ที. 78,161 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 52% โดยขึ้นนำรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวที่มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 67,334 คัน หรือเทียบเท่าสัดส่วนตลาด 45% รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตมีจำนวน 1,706 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% แบบออฟโรด 1,582 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% แบบสปอร์ตและประเภทอื่นๆ 893 คัน มีสัดส่วนตลาดกว่า 1%
หากแบ่งแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทของผู้ผลิตในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 100,266 คัน เทียบ เท่าอัตราครองตลาด 67%, ยามาฮ่า 40,826 คัน อัตราครองตลาด 27%, ซูซูกิ 5,412 คัน อัตราครองตลาด 4%, อื่นๆ ได้แก่ คาวาซากิ 1,768 คัน , เจอาร์ดี 48 คัน, แพล็ตตินั่ม 68 คัน, ไทเกอร์ 139 คัน และอื่นๆ 1,149 คัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
แผนกสื่อสารการตลาด บริษัท เอ. พี. ฮอนด้า จำกัด โทรศัพท์ 02 757-6111
คุณปิยังกรณ์ ฉินพรรุจี ต่อ 2510, E-mail: piyangkorn@aphonda.co.th
คุณธัญลักษณ์ ไชยปะ ต่อ 2508, E-mail: thanyalak@aphonda.co.th