กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ก.ล.ต.
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 11/2548 เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2548 มีมติในเรื่อง
ดังต่อไปนี้
1. การอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ประกอบธุรกิจ repo กับผู้ลงทุนทั่วไป
เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำธุรกิจ และเสริมสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขันของบริษัทหลักทรัพย์
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ประกอบธุรกิจซื้อหรือขายคืนหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายหรือซื้อคืน (repurchase agreement : repo) กับผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศได้ จากเดิมที่อนุญาตเฉพาะกับสถาบันการเงินหรือผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเท่านั้น โดยการทำ repo กับผู้ลงทุนทั่วไปนี้
ทำได้เฉพาะตราสารหนี้ภาครัฐหรือตราสารหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยใช้สัญญาที่ ก.ล.ต. ให้ความ
เห็นชอบ และมีอายุไม่เกิน 1 ปี รวมทั้งต้องจัดให้มีบุคคลที่สามทำหน้าที่ดูแลและบริหารหลักประกัน
2. เกณฑ์การเสนอขายหุ้นกู้ของนิติบุคคลต่างประเทศ
เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติ
เห็นชอบในหลักการอนุญาตนิติบุคคลต่างประเทศ (Multinational Corporations : MNCs) เสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย โดย ก.ล.ต. จะอนุญาตเป็นการทั่วไป เมื่อ MNCs ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังแล้ว ทั้งนี้ MNCs จะต้องเปิดเผยข้อมูลตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต. คือ (1) แบบแสดงรายการข้อมูล (แบบ filing) จะต้องเป็นภาษาไทย และมีข้อมูลขั้นต่ำตามที่กำหนด รวมถึงข้อกำหนดสิทธิของผู้ออกและ
ผู้ถือหุ้นกู้ (2) งบการเงินจัดทำตามมาตรฐานการบัญชีของ International Financial Reporting Standards (IFRS) หรือ Financial Accounting Standard (FAS) หรือ United States Generally Accepted Accounting Principles (US GAAP) (3) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น จาก S&P, Moody’s, FITCH หรือ TRIS ก็ได้ และ (4) เปิดเผยข้อมูลประจำปีหลังการขาย โดยสรุปงบการเงินและข้อมูลประจำปีเป็นภาษาไทย ส่วนงบการเงินฉบับเต็มอาจจัดทำเป็นฉบับภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้
อนึ่ง ตามเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง จะมีการกำหนดวงเงินเป็นรายปีทุกปี โดยจะมีการจัดสรรตาม
วัตถุประสงค์การใช้เงินและอันดับความน่าเชื่อถือ
3. เกณฑ์การเสนอขายหุ้นกู้ต่างประเทศต่อธนาคารพาณิชย์
เพื่อเพิ่มช่องทางในการลงทุนแก่ธนาคารพาณิชย์ไทย คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบในหลักการอนุญาตให้บริษัทต่างประเทศสามารถเสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยได้
ภายใต้เกณฑ์ที่ ก.ล.ต. ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ดังต่อไปนี้
1. ผู้ออกหุ้นกู้จะต้องจดข้อจำกัดการโอนหุ้นกู้ไว้เฉพาะผู้ลงทุนที่เป็นธนาคารพาณิชย์ (ไม่รวมธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย) หรือผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศ
2. หุ้นกู้ หรือบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ หรือผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ ต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น จาก S&P, Moody’s, Fitch หรือ TRIS ก็ได้ เว้นแต่จะเป็นการเสนอขายแก่ผู้ลงทุนในวงแคบ
(ไม่เกิน 10 ราย หรือมูลค่าไม่เกิน 100 ล้านบาท)
3. ผู้ออกหุ้นกู้ต้องเปิดเผยข้อมูลตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด โดยสามารถยื่นแบบ filing เป็น
ภาษาอังกฤษได้ แต่ต้องมีข้อมูลขั้นต่ำตามที่กำหนด และมีงบการเงินที่เป็นไปตามมาตรฐาน
บัญชีสากลของ IFRS หรือ FAS หรือ US GAPP
4. การอนุญาตให้ TSD ขยายขอบเขตการให้บริการ
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติอนุญาตให้ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) สามารถประกอบธุรกิจการให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) การให้บริการเกี่ยวกับ
ธุรกรรมการซื้อคืน (repo) และการให้บริการระบบงานอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการจองซื้อหลักทรัพย์ (e-IPO)--จบ--