กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--กทม.
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และประชาชนร่วมใจคืนความสดใสให้กับคลองแสนแสบ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม "ประชาร่วมใจคืนความสดใสให้กับคลองแสนแสบ" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญ พระชนมพรรษา 80 พรรษา และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี ณ ริมคลองพระโขนงบริเวณท่าน้ำคลองพระโขนง-ประเวศน์บุรีรมย์ วัดทองใน เขตสวนหลวง โดยมี ดร.แตงอ่อน มั่นใจตน ผู้อำนวยการโครงการประชาร่วมใจคืนความสดใสให้กับคลองแสนแสบ ส.ก. ส.ข. นักเรียนของโรงเรียนวัดทองใน และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับคณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นักเรียน และชุมชนในเขตสวนหลวง ร่วมกิจกรรมเทน้ำจุลินทรีย์ ประมาณ 3,000 ลิตร ลงในคลองพระโขนง-ประเวศน์บุรีรมย์ ซึ่งเป็นคลองหนึ่งที่เชื่อมต่อกันคลองแสนแสบ เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพน้ำในคลองก่อนที่จะไหลสู่คลองแสนแสบ อันเป็นการร่วมกันฟื้นฟูสภาพน้ำในคลองแสนแสบทางหนึ่ง ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร และคณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมกันดำเนินโครงการ "ประชาร่วมใจคืนความสดใสให้กับคลองพระโขนง-ประเวศน์บุรีรมย์" มาตั้งแต่ปี 2546 เพื่อฟื้นฟูสภาพน้ำในคลองแสนแสบ โดยการให้ความรู้ ปรับวิธีคิดเกี่ยวกับน้ำทิ้ง รวมทั้งสร้างกลุ่มเครือข่ายในการเฝ้าระวังและอนุรักษ์น้ำในชุมชนริมคลอง ประสานงาน จัดกิจกรรมฟื้นฟู เฝ้าระวังรักษาคูคลองโดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตลอดจนส่งเสริมการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ซักล้างชีวภาพเพื่อเป็นการรักษาคูคลอง
ด้าน ดร.แตงอ่อน กล่าวว่า คลองแสนแสบรับน้ำจากคลองซอยมากกว่า 200 คลอง และมีพื้นที่เขตที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 เขต ดังนั้นการฟื้นฟูสภาพคลองแสนแสบจึงต้องรณรงค์สร้างจิตสำนักให้แก่ประชาชนในพื้นที่เขตดังกล่าวร่วมกันอนุรักษ์สภาพน้ำในคลอง ทั้งนี้ปัจจุบันโครงการ "ประชาร่วมใจคืนความสดใสให้กับคลองแสนแสบ" มีเครือข่ายประมาณ 370 ชุมชน 182 โรงเรียน 83 สถานประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ประมาณ 56 แห่ง ศาสนสถาน 33 แห่ง ร่วมรณรงค์ฟื้นฟูสภาพน้ำน้ำคลองต่างๆ ส่งผลให้ปัจจุบัน สภาพน้ำในคลองที่ไหลลงสู่คลองแสนแสบสภาพดีขึ้นมาก และหากทุกภาคส่วนร่วมมือกันเช่นนี้ต่อไปน้ำในคลองทุกสาย รวมทั้งคลองแสนแสบจะใสสะอาดในอนาคตอันใกล้นี้