กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--คิง เพาเวอร์
นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เปิดเผยถึงโครงการคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ (King Power Complex) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ขนาด 30 ไร่บริเวณถนนรางน้ำ-ถนนศรีอยุธยาว่า ขณะนี้ได้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ได้เดินเรื่องการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งนี้ในโครงการคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์นี้ ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน, ร้านค้าปลอดอากรในเมือง, อาคาร Crown Atrium, โรงมหรสพ, ภัตตาคาร และโรงแรม อาคารสำนักงาน เป็นอาคารสูงขนาด 9 ชั้น จะใช้เป็นที่ทำการสำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานสาขากระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งในส่วนอาคารสำนักงานนี้ มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 12,250 ตารางเมตร
ร้านค้าปลอดอากร 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 10,060 ตารางเมตร จำหน่ายสินค้านำเข้าเกือบทุกแบรนด์ชั้นนำของโลก และสินค้าพื้นเมืองคุณภาพสูง รวมถึงสินค้าหัตถกรรมไทยและสินค้า Modern Thai สามารถรองรับให้บริการนักท่องเที่ยวได้มากถึงวันละกว่า 20,000 คน
อาคาร Crown Atrium เป็นอาคารรูปโดมขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอย 2,890 ตารางเมตร เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของคอมเพล็กซ์ ใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมนำสมัย โดยโครงสร้างอาคารจะเป็นโครงเหล็ก ส่วนผนังภายนอกเป็นกระจก จุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่ลงทะเบียนสำหรับลูกค้าก่อนใช้บริการในร้านปลอดอากร รวมถึงใช้สำหรับจัดงานแสดงและนิทรรศการต่างๆ ที่จะจัดให้มีขึ้น โรงมหรสพ ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอาคารร้านค้าปลอดอากร รองรับนักท่องเที่ยวได้คราวละ 1,000 ที่นั่ง ใช้เป็นที่จัดแสดงมหรสพที่เป็นวัฒนธรรมไทยที่มีชื่อเสียง เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์และความเป็นไทย
ภัตตาคาร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 1,220 ตารางเมตร อยู่บนชั้น 3 ของอาคารร้านค้าปลอดอากรเช่นกัน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้คราวละ 1,000 ที่นั่ง ให้บริการอาหารไทยที่มีคุณภาพ
โรงแรมสไตล์ City Hotel ผสม Resort ขนาด 430 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง บริหารงานโดยแอคคอร์กรุ๊ปภายใต้แบรนด์โนโวเทล
ทั้งนี้ภายในโครงการคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์นี้ จะมีทางเดินที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งโครงการ และยังมีบริการที่จอดรถใต้ดิน สามารถรองรับรถได้ประมาณ 1,000 คัน และลานจอดรถโค้ชสำหรับนักท่องเที่ยวอีกกว่า 40 คันอีกด้วย โดยทั้งโครงการใช้เงินลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท
อนึ่ง ที่ดินผืนดังกล่าว กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ได้ดำเนินการเช่าในระยะเวลา 30 ปีจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยมีการลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2547 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2547 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2548 กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณต้นปี 2550
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ระวิวรรณ ไทยสุริโย / ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์
โทรศัพท์ 0-2658-0062 มือถือ 0-1907-3039 อีเมล์ rawiwan@kingpower.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--