กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--สหมงคลฟิล์ม
Based on a true story… ของทุกคน
เมื่อความรักมากระทบใจ เรามักทำอะไรที่ไม่รู้ตัว
ความรัก... คือพลังอันยิ่งใหญ่
ที่ทำให้เรายอมเปลี่ยนทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่สิ่งเดียวที่ไม่ยอมเปลี่ยนคือ “หัวใจ”
สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก
กำหนดฉาย 12 สิงหาคม พ.ศ.2553
แนวภาพยนตร์ โรแมนติก-คอเมดี้
บริษัทผู้อำนวยการสร้าง บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด และ บริษัท
เวิร์คพอยท์ เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทดำเนินงานสร้าง บริษัท Chez Klurr-5 จำกัด
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, ปัญญา นิรันดร์กุล และ สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์
ควบคุมงานสร้าง/ดำเนินงานสร้าง วศิน ปกป้อง, พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร, เติมพันธ์ มัทวพันธุ์, ไพบูลย์ ศรีเจริญจิตร์, ชลธิศ พรพัฒน์กุล
กำกับภาพยนตร์ วศิน ปกป้อง, พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
เรื่อง/บทภาพยนตร์ วศิน ปกป้อง, พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร, วรลักษณ์ กล้าสุคนธ์
กำกับภาพ เรืองวิทย์ รามสูต
กำกับศิลป์ นภดล อากาศ
ลำดับภาพ พงศ์ธร พานิชชอบ, สิริกัณณ์ ศรีจุฬาภรณ์
ออกแบบเสื้อผ้า เอกศิษฏ์ มีประเสริฐสกุล
ฟิล์มแล็บ บริษัท โอเรียนทัล โพสท์ จำกัด
บันทึกเสียง บริษัท กันตนา แลบบอราทอรี่ส จำกัด
ดนตรีประกอบ Ground Music
นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, สุดารัตน์ บุตรพรหม (ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ), อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล, คชามาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร, พีรวัชร์ เหราบัตน์, พิจิตรา สิริเวชพันธ์
เรื่องย่อ
น้ำ (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก) สาวน้อย ม.1 วัย 14 หน้าตาธรรมดาๆ กระเดียดไปทางไม่สวย หรือเรียกง่ายๆ ว่า ขี้เหร่นั่นแหละ แต่เธอดันไปแอบชอบ พี่โชน (มาริโอ เมาเร่อ) พี่ม.4 ที่หล่อ เท่ ที่สุดในโรงเรียน แล้วแถมยังใจดีอีกตะหาก ทำให้น้ำมีคู่แข่งเป็นสาวๆ ทั้งม.ต้นและม.ปลาย ที่มีแต่คนสวยๆ เต็มไปหมด แต่น้ำไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอพยายามลุยทำทุกอย่าง สู้ทุกรูปแบบเพื่อที่จะ....เก่ง...และ...สวย แล้วเด่นขึ้นในโรงเรียนให้ได้ เพราะแอบหวังในใจเล็กๆว่าถ้าทำสำเร็จพี่โชนอาจจะหันมามองเธอซักครั้ง
น้ำทำตั้งแต่ เอามะขามเปียกมาขัดผิว สมัครเป็นนางรำแม้จะถูกคัดออก หัดเป่าคาริเน็ตแล้วสมัครเข้าวงโยธวาทิตเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ พี่โชน ด้วยความช่วยเหลือของ ครูอร (ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ) ในที่สุดน้ำก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์มือหนึ่งของโรงเรียน จนตอนที่เรียนอยู่ม.3.........เธอได้เป็นดาวของโรงเรียน จริงๆ!!!!! น้ำตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่มๆ ทั้งโรงเรียน มีคนเข้ามาจีบเป็นสิบๆ คน ยกเว้นคนที่เธอรอคอยอยู่คนเดียว.....โชน ........
แล้วเรื่องราวความรักของน้ำจะเป็นอย่างไร โชนจะหันมาสนใจเธอมั้ย สุดท้ายแล้วความรัก ความฝัน มิตรภาพ จะได้พบกันเมื่อไหร่ เวลาคงเป็นคำตอบของทุกอย่างเอง
เกร็ดภาพยนตร์
สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ ที่ที่จะพาคุณกลับไปสัมผัสกับความหมายและความรู้สึกดีๆ เมื่อครั้งที่คุณรู้จักกับ “ความรัก” คำสั้นๆ แต่ส่งผลมากมายมหาศาลต่อหัวใจ และเป็นโปรเจกต์รสหวานเรื่องแรกจากการเกี่ยวก้อยกันของ “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลฯ” และ “เวิร์คพอยท์เอนเทอร์เทนเม้นท์ฯ” หลังจากร่วมกันสร้างภาพยนตร์มาสู่สายตาคอหนังมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง
? หนังเรื่องนี้ ได้ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่แต่ประสบการณ์สุดเก๋า ทั้ง “พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร” หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม “เสนาเพชร” ผู้ชายที่โลดแล่นอยู่ทั้งเบื้องหน้าในฐานะหนึ่งในพิธีกรรายการตลกสุดฮิตในยุคหนึ่ง “ยุทธการขยับเหงือก” และยังคงมีผลงานให้เราได้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ กับอีกหนึ่งมือเขียนบทรุ่นเก๋าอย่าง “วศิน ปกป้อง” โดยทั้งคู่ขอแท็คทีมกันสร้างผลงานภาพยนตร์ โรแมนติก-คอเมดี้ เรื่องแรกในชีวิตของทั้งคู่ ให้ทุกคนได้กลับไป “อิน” กับ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” กับมุมมองที่ต่างจากครั้งไหนๆ อย่างแน่นอน
? ที่มาและไอเดียของเรื่องนี้มาจากการที่สองผู้กำกับได้ฟังเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เหมือนฟ้าส่งมาบอกเล่าเรื่องราวความรักในช่วงชีวิตหนึ่งของเธอ ที่ไปจุดประกายในหัวใจของสองผู้กำกับมาดเข้ม จนกลายเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียว
? หลังจากที่เพียรพยายามหาสาวน้อยที่จะมารับบท “น้ำ” เด็กผู้หญิงแสนธรรมดา ที่หัวใจได้สัมผัสถึงคำว่ารักเต็มหัวใจ เมื่อได้เจอกับ “โชน” หนุ่มในฝันของสาวๆ ทุกคนในโรงเรียน ซึ่งสาวน้อยที่มารับบทสุดสำคัญของเรื่องนี้ หลังจากที่ 2 ผู้กำกับ เฟ้นหามากว่าร้อยคน ก็มาลงตัวที่ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ที่ถือเป็นการได้เป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกในชีวิต หลังจากเคยผ่านผลงานมิวสิคโอและร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องมาบ้างแล้ว
? หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานลำดับที่ 7 ของหนุ่มสุดฮ๊อต “มาริโอ้ เมาเร่อ” หลังจากผ่านบทบาทมาแล้วมากมาย ก็ถึงเวลาที่หนุ่มโอ้จะได้กลับเล่นหนังสไตล์โรแมนติกใสๆ อีกครั้ง และในเรื่องนี้ว่ากันว่าสองผู้กำกับได้เลือกมาริโอ้เอาไว้ก่อนที่จะเขียนบท รวมไปถึงการดึงเอาตัวตนของหนุ่มโอ้ในมุมที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยเห็น
? ครั้งแรกของตลกหญิงซุปเปอร์สตาร์ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “สุดารัตน์ บุตรพรหม” หรือ “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ” กับการโดดมาเล่นหนังโรแมนติกใสกิ๊ก กับบทบาทครูอร ปลวกตัวแม่ที่ผลักดันลูกศิษย์ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อความรัก ในขณะเดียวก็ต้องเปิดศึกหัวใจกับคู่ต่อกรสุดเซ็กซี่อย่าง “เจี๊ยบ-พิจิตรา สิริเวชพันธ์” อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันในหนังเรื่องนี้
? หนังรักก็ต้องคู่กับเพลงเพราะๆ และในหนังเรื่องนี้ก็ได้นักร้องหนุ่มมากฝีมือ “ว่าน-ธนกฤษ พานิชวิทย์” มาช่วยทั้งแต่งทั้งร้องบทเพลงรักใสๆ ที่มีชื่อเดียวกับเรื่องว่า “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” ซึ่งเต็มไปด้วยความหมายดีๆ ที่ติดหูคนฟังอย่างแน่นอน
ทำความรู้จักกับ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า...รัก”
“ความรัก” คำสั้นๆ แต่มีความหมายต่อทุกหัวใจที่ได้ทำความรู้จักกับสิ่งๆ นี้ และไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สัมผัสกับ “ความรัก” ต่างรู้ซึ้งถึงความหมายและความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เพราะว่า “รัก” คำเดียวสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังที่ทำให้เราทำได้ทุกๆ อย่างเพื่อสิ่งนี้ และในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากการจับมือกันอีกครั้งของ 2 ยักษ์ใหญ่ “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” และ “เวิร์กพอยต์เอนเทอร์เทนเมนต์” ที่มีชื่อแบบตรงตัวไม่ซับซ้อนกับ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” โดยได้ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่แต่ประสบการณ์สุดเก๋า ทั้ง “พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร” หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม “เสนาเพชร” ผู้ชายที่โลดแล่นอยู่ทั้งเบื้องหน้าในฐานะหนึ่งในพิธีกรรายการตลกสุดฮิตในยุคหนึ่ง “ยุทธการขยับเหงือก” และยังคงมีผลงานให้เราได้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ กับอีกหนึ่งมือเขียนบทรุ่นเก๋าอย่าง “วศิน ปกป้อง” ที่เคยมีผลงานอย่าง “ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่ ฯ”, “คู่แรด”, “ฮะเก๋า” โดยทั้งคู่ขอแท็คทีมกันสร้างผลงานภาพยนตร์ โรแมนติก-คอเมดี้ เรื่องแรกในชีวิตของทั้งคู่ ให้ทุกคนได้กลับไป “อิน” กับ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” กับมุมมองที่ต่างจากครั้งไหนๆ อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งคู่พูดถึงจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้ว่า
เสนาเพชร : “คือเราเคยคุยด้วยกันว่าอยากทำหนังด้วยกันซักเรื่องหนึ่ง ผมรู้สึกว่าตัวเองบ่มมาหลายทางแล้ว รายการทีวีก็ทำแล้ว ละครเวทีก็ทำแล้ว ละครทีวีก็ทำแล้ว แต่เรื่องหนังเมื่อก่อนผมเล่น แล้วก็รู้สึกว่ามันห่างหายไปนานมากเลย พอดีคุณวสินเขาก็อยู่พวกเบื้องหลังมาเยอะ ทั้งเอ็มวีทั้งทีวี หรือภาพยนตร์ ก็เลยคุยกันว่าอยากทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ก็เลยมีการคุยกัน”
วศิน : “คือเราเป็นเพื่อนหันมาตั้งแต่มัธยมแล้ว ร่วม 20 ปี แล้วไม่เคยทำงานเต็มๆ ร่วมกันซักที พอเจอกันก็เลยเอาว่ะ เอาเลยดีกว่า”
อันนี้ไม่ได้ว่าแต่หน้าตาของพี่ๆ ผู้กำกับทั้งสอง ดูยังไงก็ไม่อยากจะเชื่อว่าผลงานกำกับเรื่องแรกของทั้งคู่จะเป็นหนังรักสุดใสได้อีก ทำไมนะทำไมถึงเลือกทำอะไรกระชากลุกส์ของ 2 ผู้กำกับได้ขนาดนี้
เสนาเพชร : “คือตอนแรกเราก็มองที่จะทำอะไรให้มันตลก เฮฮาให้หัวทิ่มหัวตำไปเลย คือตลกเรื่องเฮฮาคือตัวผม แต่พอไปคุยกับเพื่อนอีกหลายคน คือหนังแนวความรักใสๆ มันหายไป เราก็รับโจทย์มา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะนำเสนอประเด็นความรักแบบไหน ก็มานั่งคุยกันไปเรื่อย ตอนนั้นยังคุยเรื่องตลกกันอยู่เลย”
วศิน : “คือตอนนั้นก็มีหลายพล็อตที่คิดเอาไว้ มีแบบตลกแหลกลานเลย แล้วเราก็ถามไปเรื่อยว่าใครมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับความรักบ้าง เพราะเราตั้งใจจะดึงประสบการณ์ร่วมของคนที่เจ๋งๆ ที่เกี่ยวกับความรัก”
เมื่อทั้ง 2 เพื่อนซี้ต่างลงมติเอกฉันท์ว่า “เราสองคนมาทำหนังรักกันเถอะ” ก็เป็นอันได้เริ่มเปิดตำนานความรักในมุมมองที่ทั้งคู่อยากนำเสนอออกมา ซึ่งหลังจากพยายามนั่งตีโจทย์อยู่นานสองนาน ฟ้าก็ส่งหญิงสาวคนหนึ่งที่มาพร้อมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของเธอ จนกลายมาเป็นพล็อตของหนังเรื่องนี้ในที่สุด
เสนาเพชร : “คือพอได้ฟังแล้วมันมีจุดหักเห จุดตลก จุดกุ๊กกิ๊ก จุดน่ารัก ซึ่งมีหมดเลยซึ่งเป็นเรื่องจริงของผู้หญิงคนหนึ่ง เราก็เลยมองว่าถ้ามันเป็นหนังมันน่าจะบอกความรู้สึกของผู้หญิงได้หลายคนมากที่เคยอยู่ในอารมณ์นี้ เคยมั้ยคือแค่ให้เขาเดินผ่านแล้วได้กลิ่นยาสระผมของเขาก็ชื่นใจแล้ว คือผู้ชายก็เป็นอ่ะ เห็นรองเท้าวางคู่กันหน้าห้องเรียน โหยเราเกิดมาคู่กัน คือทุกคนต้องมีต้องผ่านเรื่องนี้มาหมด เราก็เลยคิดว่าน่าจะทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับภาพยนตร์”
วศิน : “เรื่องราวราวมันเป็นสมัยพี่อยู่ มส.1 อยู่ป.7 กับเรื่องที่ทุกคนเจอ คือมีเรื่องราวที่ไปแอบชอบเขา คือจริงๆ ก็อยากทำหนังแบบนี้เหมือนกัน แต่มันหาเรื่องไม่ได้ คือมันเป็นความรู้สึกที่โรแมนติกมาก คือแบบความรู้สึกนี้หรือที่เรียกว่าความรัก คือตลอดทั้ง 2-3 ปีนั้นมีความสุขมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยนะ เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความรู้สึกร่วมเยอะ แล้วเราอยากทำหนังแบบนี้อยู่แล้ว แล้วมันเหมือนไฟท์บังคับว่าทุกคนต้องผ่านช่วงเวลานี้ แล้วมันมีอยู่แค่ 3 ปีในชีวิตคนเรา แล้วหลังจากนั้นไอ้ความรู้สึกโรแมนติกในตอนนั้นมันหายไปแล้วนะ คือถามคนอื่นได้เลยนะว่าความรู้สึกตอนนั้นกับตอนที่เราอายุเยอะขึ้นมันต่างกันอย่างไร”
หลังจากที่ได้ไอเดียและเรื่องราวที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพลังอันยิ่งใหญ่ของ “ความรัก” ที่จะพาคุณย้อนเวลาไปในช่วงเวลาแรกๆ ที่คุณได้ทำความรู้จักกับความหมายดีๆ ของสิ่งนี้ ซึ่ง 2 ผู้กำกับ พูดถึงเรื่องของ “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” ว่า
วศิน : “มันเป็นเรื่องของน้ำเด็ก ม.1 ที่ไม่สวยเลย หรือจะเรียกว่าหน้าปลวกก็ได้ แต่ไปหลงรักพี่ม.4 ที่หล่อเท่ที่สุดในโรงเรียน สาวในโรงเรียนกรี๊ดเขาหมดอ่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเธอเปลี่ยนแปลงตัวเองจนกลายเป็นดาวของโรงเรียน เพื่อให้พี่เขาสนใจหรือหันมามองซักครั้งนึงครับ”
เสนาเพชร : “สรุปก็คือเขาทำทุกอย่าง ทั้งตามตำรา ตามคำแนะนำของเพื่อน กว่าจะขึ้นมาเป็นดาวของเขา มันด้วยเหตุการณ์หลายๆ อย่างทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองจากเด็กผู้หญิงหน้าปลวกเป็นนางฟ้าในชั่วพริบตา คือมีทั้งเรื่องราวมิตรภาพของคำว่าเพื่อนรวมอยู่ด้วย”
และมุมมองของความรักในครั้งนี้ที่ทั้งสองผู้กำกับเชื่อเหลือเกินว่า จะต้องเข้าสะกิดกล่องความทรงจำที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจของทุกคน ที่เคยได้เรียนรู้ที่จะทำอะไรเพื่อความรัก ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ใครหลายคนต้องเคยพบและประสบมา
เสนาเพชร : “ผมคิดว่ามันคือความประทับใจแรกของคำว่ารัก เราจะเก็บสิ่งนั้นไว้อยู่ในใจตลอดเวลาว่า ผู้หญิงคนนี้เรารักนะ อย่างถามผมว่าผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไร ผมจะจำได้แม้กระทั่ง ชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล หรือชื่อพ่อ หรือลองถามทุกคนเขาก็จำชื่อผู้ชายที่เขาชอบได้หมดทุกคนทั้งชื่อเล่น นามสกุล พ่อชื่ออะไร นามสกุลอะไร มันเป็นความจำที่ซ่อนอยู่ใน พองัดออกมาก็สามารถพูดได้ตรงเป๊ะเลย นี่คือความประทับใจ ในมุมของผมนะ คือเอาความรักเป็นตัวตั้ง และก่อประโยชน์ให้ตัวเองให้ได้มากที่สุด”
วศิน : “ที่จริงมันพูดถึงมุมที่ใช้ความรักในด้านบวกครับ คือแทนที่ตัวละครจะใช้ความรักในแง่ลบ กินเหล้า ยั่วยวนผู้ชาย แต่เรากลับเอาความรักมาพัฒนาตัวเองให้มันดีทุกอย่าง นี่คือนิยามของเรื่องนี้ แล้วเวลาเราใช้มันมีพลังมหาศาลเลย มันสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกเยอะเลย”
ความรัก....เคยทำให้คุณทำอะไรแบบนี้หรือเปล่า
“พิชิตใจคนที่เราแอบรักตามแนวความเชื่อของชาวกรีก ให้ไปยังสถานที่ๆ มองดาวเต็มฟ้าแล้วใช้นิ้วลากเส้นเชื่อมต่อระหว่างดวงดาวให้เป็นชื่อย่อของคนที่เราแอบรักเป็นภาษาลาติน”
“เป็นวิธีของชาวมายันให้ตั้งสมาธิให้มั่น แล้วมองไปยังคนที่เรารัก พยายามควบคุมจิตของเขาบอกให้เขาทำสิ่งที่เราต้องการ...ถ้าเขาทำตามแสดงว่าเป็นเนื้อคู่ของเรา”
“เป็นวิธีเชื่อมโยงกับคนที่เราชอบแบบเกาะชาวตาฮิติ วิธีการก็คือเมื่อเราเดินสวนกับคนที่ชอบให้มองเค้านานที่สุดให้พูดความในใจที่เราอยากจะบอกออกไปเลย เพียงแต่ต้องพูดให้เบาที่สุด”
“เป็นวิธีบอกรักแบบสก็อตแลนด์ วิธีการคือแอบนำสิ่งที่มีความหมายของหัวใจไปให้เขา โดยที่ห้ามให้เขารู้เด็ดขาด เพื่อให้เป้าหมายเริ่มรู้สึกว่ามีใครสนใจเขาอยู่”
“ชาวเมโสโปเตเมียบอกว่าถ้าสบตาคนที่เราชอบแล้วนับนิ้วทั้งหมดในมือให้ครบสามครั้ง คำอธิฐานหลังจากนั้นจะเป็นความจริง”
“วิธีนี้มนุษย์ทุกคนบนโลกลงความเห็นว่าง่ายที่สุด คือทำเพื่อความรักขอให้ทำให้สุดๆ ทั้งหัวใจ แล้วคนที่รักจะมาหาคุณเอง”
รุ่นน้องที่แอบหลง...รัก
พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ รับบทเป็น น้ำ
เด็กสาวอารมณ์ดีหน้าตาพอประมาณ ทำอะไรทำจริง มีความตั้งใจสูง รักเพื่อน ชอบภาษาอังกฤษเพราะที่บ้านเปิดเกสท์เฮ้าส์เล็กๆ ให้ฝรั่งเช่า แอบหลงรักโชนทุกลมหายใจ ถึงขนาดลงทุนซื้อคู่มือมัดใจ และปฏิบัติตามคู่มือนั้นแบบทุกกระเบียดนิ้ว
แน่นอนที่สุดว่าใน “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” ตัวละครสำคัญที่ถือเป็นเหมือนตัวแทนของพลังแห่งความรัก ที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปถึงความหมายของคำๆ นี้ นั่นคือ น้ำ เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่หัวใจเกิดอาการบางอย่างครั้งแรกในชีวิต เมื่อได้พบกับชายในฝันที่ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะรัก และทำทุกอย่างเพื่อสิ่งๆ นี้ ซึ่งถือเป็นตัวละครที่คนดูจะต้องลุ้นเอาใจช่วยและอินไปกับความรักที่อาจเกิดขึ้นกับคุณครั้งหนึ่งในชีวิต งานนี้ 2 ผู้กำกับ “เสนาเพชร-วศิน” ต้องทำการบ้านอย่างหนัก สำหรับการหาคนมารับบทนี้ โดนเฟ้นหาเด็กผู้หญิงกว่าร้อยคน ซึ่ง 2 ผู้กำกับพูดถึงการวางโจทย์ในการหาตัวละครน้ำไว้ว่า
เสนาเพชร : “ก็คุยกับน้องที่เป็นเจ้าของเรื่องมากขึ้น ให้เขาช่วยเขียนความในใจมาซักหนึ่งอัน แล้วก็ขอรูปเขาสมัยเรียนมัธยมมาดู คือหน้าไม่สวยเลย ผมเรียกว่าความรักหน้าเหี่ยง คือน้องเขาเอารูปมาให้ดูหน้าเขาเหี่ยงจริงๆ อะ ดำๆ อ้วนๆ หัวฟูๆ แล้วก็เอารูปเพื่อนเขามา เราก็เอาคาแรกเตอร์ตัวเขาเป็นหลัก กับเพื่อนๆ ตัวจริงที่เขามีอยู่ เราก็เริ่มเปิดแคสติ้ง”
วศิน : “ตอนที่เราเปิดแคสติ้ง คือผมต้องการคนไม่สวยมาก คือไม่อยากสวยสุดๆ เพราะอยากเห็นพัฒนาการ ฉะนั้นเราก็เลยคัดเอาคนสวยมาร้อยกว่าคนที่อยู่ในวัยนี้ 15-17 คือเราเอามาแทบครบทั้งนางแบบนางเอกมิวสิค หรือแฟชั่นแมกกาซีน ดาวทุกโรงเรียนในวัยมัธยม ความสวยเยอะนะ แต่ที่เราเลือกใบเฟิร์นเพราะว่ามีความสวยที่ไม่สวยอ่ะ บางคนเขาสวยที่พร้อมจะเป็นสตาร์ มีแอ๊คติ้งคือพร้อมที่จะเป็นนางเอกละครไปแล้ว ใบเฟิร์นไม่รู้ด้วยว่าตัวเองสวยเขาจะรู้สึกตลอดว่าหนูแย่หรือไอ้นั่นไอ้นี่ ไม่รู้ว่าพี่เขาจะเลือกไหม คือใบเฟิร์นมีอาการของคนไม่สวยอยู่ คือคนสวยจะดูออกว่าจะเชิดหยิ่งว่ากูสวย แต่นี่เขาไม่มีอาการนั้นเลย แล้วพอให้ลองแสดงเขาก็เล่นได้ใช่กับอารมณ์ที่เราต้องการ
เป็นที่แน่นอนว่าในเรื่องนี้ตัวละครน้ำจะต้องเริ่มจากการเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ใครๆ ก็ต่างพากันเรียกว่า “หน้าปลวก” งานนี้สาวน้อย “ใบเฟิร์น-พิพม์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ที่ได้มาประเดิมเป็นนางเอกหนังครั้งแรกในชีวิตทั้งที แต่ก็ต้องถูกปรับโฉมแบบไม่เหลือเค้าเดิม ซึ่งทั้งสองผู้กำกับพูดถึงขั้นตอนการแปลงโฉมจากสาวน้อยหน้าใสปิ๊งให้กลายเป็นสาวหน้าปลวกในชั่วพริบตาว่า
เสนาเพชร : “คือเราก็ต้องมีการทดสอบ อยากดูอาการเขาเวลาบอกว่าไม่สวยเขาจะมีอาการอย่างไร เราอยากจับแอ๊กติ้งเขาก่อน แล้วหน้าอย่างนี้ไหวหรอ เราก็จะดูเขาเวลาที่มีแต่คนพูดกรอกหูว่าไม่สวยเขาจะมีอาการอย่างไร ผมก็เลยแอบเตี๊ยมกันกับวศิน พยายามพูดกรอกหูบ่อยๆ นางเอกคนนี้ไม่เห็นสวยเลย ขี้เหร่ๆ คือเราอยากให้เขาอินกับความรู้สึกกับตัวละครน้ำ ที่เป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มั่นใจในตัวเอง คือต้องสื่อสารให้เราเชื่อ”
วศิน : “ก็ต้องนั่งคิดถึงเด็กผู้หญิงขี้เหร่ในหลายๆ ระดับ ลองแต่งให้น้อง แล้วเราก็เลือกแบบที่ขี้เหร่ที่สุดไปจนถึงพอดูดีมาก สรุปมาลงตัวที่แบบนี้ ก็ทั้งทาตัวดำ ใส่แว่น ผมเต่อ คือรับรองว่าแต่งไปแล้วต้องจำใบเฟิร์นไม่ได้ คือพอแต่งเสร็จเฟิร์นคือน้ำจริงๆ”
มาที่นักแสดงผู้ที่มารับบท “น้ำ” ตัวแทนของ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” ซึ่งก็ได้สาวน้อย “พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” สาวน้อยวัย 18 ปี ที่เคยผ่านผลงานมิวสิควีดีโออย่าง “14 อีกครั้ง” ของ เสก โลโซ หรือจะเป็น “เพลงๆ นี้” ของ “สิงโต เดอะสตาร์” หรือจะเป็นผลงานภาพยนตร์อย่าง “5 หัวใจฮีโร่” และ “อนึ่งคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง” ถือได้ว่าเธอเป็นสาวน้อยที่มีฝีมือและความสามารถอยู่ในตัวมากมาย และด้วยพรสวรรค์ที่พกมาเต็มเปี่ยมเลยไปเตะตาสองผู้กำกับของเรื่องนี้เข้าอย่างจัง จนได้มาเป็นนางเอกเต็มตัวเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งน้อง “ใบเฟิร์น” เผยความรู้สึกว่า
“ก็ทางผู้กำกับติดต่อให้เฟิร์นไปแคสดู เขาก็เล่าให้ฟังว่าเรื่องราวเป็นยังไง ต้องโดนแปลงโฉมนะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอโดนจริงๆ แล้วก็อึ้งเลย พอเห็นตัวเองแล้วตกใจเลย แบบว่าอึ้ง แต่ตอนที่ไปฟิตติ้งทำดำกว่าที่เห็นในเรื่องกันอีก แล้ววิกก็ลองหลายๆ แบบ ตอนที่ลองแต่งดูก็จำตัวเองแทบไม่ได้
อีกอย่างคือก็เฟิร์นรู้สึกดีใจแล้วก็กดดัน คือเรื่องราวทั้งหมดของหนังเป็นเรื่องของน้ำ เฟิร์นก็ต้องเข้าไปอินกับความรู้สึกของน้ำให้ได้ ว่าน้ำรู้สึกอย่างไร คือความรู้สึกของคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง การที่เราได้แอบชอบใครสักคนที่ดูสูงเกินเอื้อม มันจะต้องสื่อสารอย่างไร ทั้งจากการคุยกับผู้กำกับหรือทีมงาน เพราะก็กลัวว่าจะทำให้คนดูผิดหวัง ไหนๆ ก็ได้รับโอกาสแล้ว ก็เลยเตรียมตัวและทำการบ้านหนักมากๆ ค่ะ”
ในฐานะที่สาวใบเฟิร์นต้องแสดงพลังของความรัก สิ่งที่ใครๆ ต่างก็รู้จักและอินไปกับความหมายของคำๆ นี้ได้เป็นอย่างดี และกับมุมมองของเธอคำว่า “รัก” คำนี้ มันเป็นอย่างไรกัน
“เฟิร์นคิดว่าความรักทำได้ทุกอย่าง ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะทำสิ่งที่ดีหรือไม่ดี เฟิร์นว่าหลายๆ คนต้องเลือกถูกว่าจะทำให้ความรักสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ เหมือนกับที่น้ำทำในเรื่อง ใช้ความรักทำให้ตัวเองเรียนเก่ง ทั้งมีความสามารถแล้วก็ทำตัวเองให้สวยขึ้น แม้มันต้องใช้เวลาแล้วก็ลำบากนิดนึง แต่สิ่งที่ได้มาจากความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆ ค่ะ
หนังเรื่องนี้เหมือนพาคนดูกลับไปสมัยที่ตัวเองเกิดอาการอินเลิฟ ความรู้สึกที่อยากจะกรี๊ดเวลาที่เขาเข้ามาใกล้ๆ อยากจะเต้นๆ กระโดดๆ แต่ก็ต้องรอให้เขาเดินผ่านไปก่อน หรือความรู้สึกที่เขินจนตัวบิดมันเป็นยังไงนะ เฟิร์นเชื่อว่าช่วงเวลานั้นคือความรู้สึกดีๆ ที่ทุกคนจะต้องอมยิ้มเมื่อนึกถึงค่ะ”
PROFILE
ชื่อ พิมพ์ชนก นามสกุล ลือวิเศษไพบูลย์
ชื่อเล่น ใบเฟิร์น วัน/เดือน/ปีเกิด 30 กันยายน พ.ศ.2535
น้ำหนัก 45 ส่วนสูง 165
การศึกษา/สถานที่ มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
ความสามารถพิเศษ เปียโน ขี่ม้า
งานอดิเรกยามว่าง เล่นเปียโน วาดภาพ
อาหารจานโปรด คะน้าหมูกรอบ
ดาราที่ชื่นชอบ ใหม่ เจริญปุระ
นักร้องที่ชื่นชอบ บอย ตรัย ภูมิรัตน์
หนังที่ชอบ I AM SAM
เพลงที่ชอบ พรุ่งนี้ nadia
ผลงานที่ผ่านมา
มิวสิควีดีโอ
- น้ำลาย silly fools / เรื่องธรรมดา เจมส์ / เรารักแม่ รวมศิลปินอาร์เอส / 14 อีกครั้ง เสกโลโซ / เจ็บหัวใจ เสกโลโซ / เพลงๆ นี้ สิงโต เดอะสตาร์
ภาพยนตร์
- 5 หัวใจฮีโร่ / อนึ่งคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง / เชือดก่อนชิม
อธิบายความเป็นตัวเอง ร่าเริง ไม่คิดมาก ชิลล์ๆ ชัดเจนตรงไปตรงมา
คติประจำใจ วันนี้ก็ล้มได้ พรุ่งนี้ก็ล้มได้ แต่ต้องไม่เจ็บเท่าเมื่อวาน
รุ่นพี่ที่ถูกแอบ...รัก
มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น โชน
รุ่นพี่ม.4 หล่อเหลา เอาการ เท่ห์ ดูดี เรียกว่ามีทุกอย่างที่สาวๆ ใฝ่ฝัน ใจดี พูดน้อย เล่นฟุตบอลเก่งเหมือนพ่อ แต่ไม่ยอมเป็นตัวโรงเรียนเพราะกลัวเหมือนพ่อที่เตะลูกโทษไม่เข้าทำให้จังหวัดตนต้องแพ้ และไม่เคยเข้ารอบ ลึกๆ อีกเลย
“ตัวละครโชนต้องเป็นมาริโอ้เท่านั้น” นี่คือคำยืนยันของทั้งสองผู้กำกับของเรื่องนี้ โดยหลังจากที่มีการวางพล็อตเรื่องและตัวละครเสร็จสมบูรณ์ บทของ “โชน” ผู้ชายที่มีทุกองค์ประกอบของการเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ ผู้ที่เข้ามาสร้างความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ในหัวใจของ “น้ำ” ก็ถูกจิ้มไปที่นักแสดงหนุ่มสุดฮีอต “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในทันที ซี่งสองผู้กำกับพูดถึงการได้หนุ่มสุดฮ็อตอย่าง “มาริโอ้” มาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ว่า
วศิน : “คือตัวมาริโอ้เป็นภาพที่อยากได้มาตั้งแต่แรกเลย มาตั้งแต่ยังไม่มีบท มาตั้งแต่ฟังเรื่องของน้องคนที่ว่าอยู่เลยก็คิดถึงมาริโอ้แล้ว แล้วเขามีความอบอุ่นอยู่ในสายตาเขาอ่ะ คือแทบจะไม่ต้องบอกเวลาที่เขามองมันแบบอบอุ่นเป็นมิตร เราถึงเลือก คือเขาเป็นคนด้านบวกอยู่แล้วอ่ะ ในคาแรกเตอร์นะ เพียงแต่ในเรื่องเขาจะคิดอะไรที่มันนอกกรอบหน่อย”
เสนาเพชร : “เราก็มองถึงตัวละครที่ว่าถ้าโผล่ขึ้นมาแล้วผู้หญิงมองก่อนเลย ความป๊อปปูล่าให้คนเขาชื่นชอบได้ ถ้าเป็นผมไปเดินก็คงไม่มีใครมอง คือมาริโอ้มองแวบแรกก็จะรู้สึกว่าหล่อ หน้าตาดี แล้วในวัยเท่าๆ กันมันก็มีไม่กี่คนที่ดูแล้วหล่อเทพอ่ะ คือเราไปเจอเขาตั้งแต่แรกแล้ว เราก็เล่าบทบาทให้เขาฟัง เขาก็บอกว่าบทบาทแบบนี้เป็นบทที่เขาไม่เคยรับมาก่อน เซอร์นิดๆ ทะลึ่งหน่อยๆ เขาก็บอกเลยว่าอาจะให้โอ้เล่นอย่างไรบอกเลยนะครับ จะให้เล่นใหม่ก็บอกได้เลย โอ้เล่นได้ทุกอย่าง เพราะเขาอยากเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเองอยู่แล้ว”
ซึ่งกับผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของหนุ่มคนนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าอาจไม่ใช่ครั้งแรกที่หนุ่มโอ้จะต้องอยู่ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับความเป็นโรแมนติก แต่สำหรับ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า...รัก” ในครั้งนี้ ทำให้ผู้ชายคนนี้รู้สึกได้ถึงความรักที่สวยงามและมีอยู่จริง
“ถ้าเทียบกับทุกคนบนโลกนี้ที่มีความรัก อยากจะให้คนที่เรารัก เขาหันมาสนใจเราบ้าง โอ้ว่ามันต้องมีสักแวบนึงที่มีคนคิดเหมือนน้ำครับ ว่า เออ...อยากดูแลตัวเอง ปกติไม่ค่อยทากันแดด ก็หันมาทากันแดดบ้าง มาร์คหน้าบ้าง อะไรอย่างงี้ พยายามทำตัวเองให้ดูเท่ห์ขึ้นมา หรือว่าดูดีขึ้นมา เพื่อทำให้เขาหันมาสนใจเรา อย่างนิดนึงก็มีความสุขแล้ว ไม่จำเป็นต้องถึงกับว่าเป็นแฟนหรืออะไร แค่ให้เขารู้สึกดีกับเรา หรือว่าจำภาพดีๆ กับเรา แล้วเรารู้สึกตื่นเต้น มันก็มีความสุขอะครับ”
ตอนย้อนกลับไปอ่านบทเรื่องนี้นะครับก็รู้สึกว่า เป็นหนังที่กุ๊กกิ๊กน่ารักครับ คิดว่าผู้หญิงคงชอบ เป็นหนังแบบผู้หญิงๆ ซึ่งคนดูแล้วคงจะยิ้มไปกับเรื่องราวในหนัง เหมือนได้กลับไปหาความทรงจำที่เราเคยผ่านมา และยังประทับใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตในช่วงนั้น โอ้เองก็เคยเจอเคสแบบนี้ คือแบบว่าเหมือนตอนมัธยมเราแอบชอบใครคนนึง แล้วเราก็เหมือนทำทุกอย่างเพื่อให้เขามาชอบเรา หรือว่าให้เขาหันมาสนใจเราบ้าง”
และอีกสิ่งหนึ่งที่หนุ่มมาริโอ้ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือสาวน้อยที่ประกบตัวเขาในเรื่องนี้ นั่นก็คือสาว “ใบเฟิร์น” นั่นเอง โดยโอ้ยอมรับว่าการแสดงของนางเอกของเขาคือพลังของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง และคงไม่แปลกอะไรที่คนดูจะรู้สึกอินไปกับการเดินทางของตัวละครนี้ และกลับไปค้นหาความหมายดีของคำว่า “รัก” กันอีกครั้ง
“กับการร่วมงานกับน้องใบเฟิร์นนะครับ ตอนแรกๆ เราก็เคยได้ดูผลงานของน้องเขามาแล้ว เพราะน้องเขาเคยเล่นหนังมาก่อน แต่โอ้ก็ไม่เคยร่วมงานกับน้องเขามาก่อนเลย แต่พอได้มาทำงานกับน้องเฟิร์นก็คิด น้องเขาเป็นเด็กที่มีสมาธิ แล้วก็เป็นเด็กที่มีเสน่ห์คนนึง แล้วยิ่งพอได้ดูน้องเขาเล่น ก็รู้สึกว่าน้องเขายิ่งมีเสน่หมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าน้องเขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ รู้สึกว่าน้องเขาเล่นดี เล่นเก่ง ทำให้เรารู้สึกรักตัวละครตัวนี้ด้วย รู้สึกว่าตัวละครนี้น่ารัก ยิ่งดูดีขึ้นมาเพราะน้องเขาเล่นแล้วน่ารัก”
ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา
พ.ศ.2550 รักแห่งสยาม /พ.ศ. 2551 เฟรนด์ชิพเธอกับฉัน /ฝัน-หวาน-อาย-จูบ/พ.ศ.2552 บุปผาราตรี 3.1 และ 3.2
พ.ศ 2553 สาระแนสิบล้อ
เธอ...คือปลวกตัวแม่
ตุ๊กกี้-สุดารัตน์ บุตรพรม รับบทเป็น ครูอิน
ครูสอนภาษาอังกฤษ และกิจกรรมเข้าจังหวะ หน้าตาโบราณ ชาวบ้านเรียกเห่ย แต่อารมณ์ดี แอบผลักดันน้ำอยู่ห่างๆ เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองที่แอบชอบครูพล
อีกหนึ่งตัวละครที่เข้ามาสร้างรอยยิ้มในหัวใจให้กับหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้นักแสดงตลกหญิงสุดฮ็อตที่ชั่วโมงนี้ไม่มีใครไม่รู้จักนั่นคือ “ตุ๊กกี้-สุดารัตน์ บุตรพรหม” มาสวมบทครูอินจอมเฮียบ ที่คอยช่วยเหลือเด็กผู้หญิงหน้าปลวกอย่างน้ำ ให้กลายเป็นนางฟ้าในชั่วพริบตา เพราะการเป็น “ปลวกตัวแม่” ทำให้ครูอินลุกขึ้นมาช่วยแปลงโฉมลูกศิษย์สุดรัก ซึ่งสองผู้กำกับ พูดถึงการได้ตุ๊กกี้มาสร้างรอยยิ้มในหัวใจในหนังเรื่องนี้ว่า
เสนาเพชร : “คือตัวละครตัวนี้ คือเรามีเด็กแล้ว เราก็ควรจะมีครูซักคู่นึงเพื่อเป็นการเปรียบเทียบ มันมีครูสวย ครูไม่สวย เด็กสวย เด็กไม่สวย เรื่องราวมันก็ขนานกันไปเป็นเส้นนึง แล้วตุ๊กกี้ออกมาได้ฮากันตลอดเขาช่วยเราคิดเยอะเลย เราบอกไปเขาเติมมาเอง”
วศิน : “คือครูอินก็คอยผลักดันเด็กให้ก้าวหน้าต่อไปได้เล่นละครได้ทำนั้นทำนี้ เพราะว่า ครูตุ๊กกี้เขาก็มีปัญหาของเขาเหมือนกัน คือเขาไปชอบครูพละคนนึงซึ่งคู่แข่งของเขาคือครูเจี๊ยบ พิจิตรา แต่ว่ามุกของเขาคือตุ๊กกี้จะบอกว่าเรื่องความสวยนั้นสูสี มาแข่งกันที่ผลงานดีกว่า ฉะนั้นทั้ง 2 คนเลยมาแข่งกันที่ผลงาน เพื่อให้ครูพละสนใจ แต่ว่าการที่จะทำผลงานดังกล่าวมันก็เป็นการผลักดันนางเอกให้ก้าวหน้าต่อไป เรื่องฮาไม่ต้องห่วง บางทีก็นึกไม่ถึงนะ เห็นตรงนั้นเลยอ่ะ คือแบบเฮ้ยไปอย่างนั้นเลยเหรอ คือขำกันทั้งกองอ่ะ”
เมื่อได้มีโอกาสมาร่วมสร้างสีสันและรอยยิ้มในหนังโรแมนติกกุ๊กกิ๊กเป็นครั้งแรกกับการแสดงของศิลปินตลกสาวอันดับหนึ่งของเมืองไทยในยุคนี้ “ตุ๊กกี้” ก็พูดถึงครั้งหนึ่งที่เราทำอะไรเพื่อความรักว่า “จริงๆ แล้วทุกคนบนโลกนี้เคยผ่านรักโลภโกรธหลงมาหมด ก่อนที่จะมีคนรัก ก็ต้องเคยผ่านคำว่าชอบมาก่อน คือเราเคยแอบชอบเพื่อนคนนึง ชื่อจิมมี่ ก็เป็นเพื่อนกันมาตลอด ทีนี้เราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขามาชอบเรา ก็ซื้อทั้งช๊อคโกแลตราคาแพง คือสำหรับเรา 5 บาท 10 บาทก็แพงแล้ว แต่นี้เราซื้อในราคา 50 บาทให้เขากิน สำหรับเด็กประถมในตอนนั้นก็ถือว่าเยอะ แต่เราก็อยากให้เขารู้สึกพิเศษกับเรา การที่เราได้ทำอะไรเพื่อความรัก เพื่อหัวใจของเรา”
โดยนอกจากนี้ยังพูดถึงพาร์ทความสนุกของตัวละครครูอิน รับรองว่ามีเรื่องราวความรักที่ไม่แพ้ลูกศิษย์เลยทีเดียว ก็เพราะในเมื่อดาวโรงเรียนอย่างเธอ (คิดไปเอง) ดันไปตกหลุมรักครูพละหล่อล่ำบึ้กอย่าง ครูพล ซึ่งรับบทโดย เอเอ-พีรวัชร์ เหราบัตย์ แต่สวรรค์ก็ดันส่งคู่แข่งที่ไม่สวยเท่าไหร่เล้ย..อย่างครูอร ซึ่งหน้าตาคล้ายๆ เจี๊ยบ-พิจิตรา สิริเวชพันธ์ ซะนี้ก็เลยกลายเป็นศึกชิงครูพละที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง
“นิดหน่อยค่ะ ตามประสาครูสวยๆ ก็เลยมีครูที่หล่อที่สุดในโรงเรียนมาติดพัน แต่ดันมีครูอินหน้าคล้ายๆ เจี๊ยบ พิจิตราอะไรประมาณนี้ มาเป็นกอขอคอ ก็เลยต้องมีเชือดเฉือนกันบ้าง อย่าง เจี๊ยบ พิจิตยังไม่เคยร่วมงานกัน แล้วทั้งเจี๊ยบทั้งบอยเป็นแฟนคลับเรา ก็มาวันแรกก็เป็นพี่ที่ทำให้ทุกคนไม่เขินไม่อาย พี่ก็บอกเจี๊ยบกับเอเอว่าเต็มที่ไม่ต้องกั๊ก เพราะพี่เป็นคนเต็มที่ร้อยเปอเซนต์ ก็ร่วมงานกับเจี๊ยบ พอเข้าฉากกันแล้วก็เข้าขากันได้ดี รับรองไม่แพ้ความรักของลูกศิษย์แน่นอน”
ผลงานภาพยนตร์
พ.ศ.2548 — แหยมยโสธร /พ.ศ.2549 — โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง /พ.ศ.2550 — เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย/พ.ศ.2551 — บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม /พ.ศ.2552 — แต๋วเตะตีนระเบิด/พ.ศ.2552 — วงษ์คำเหลา/พ.ศ.2553 — แหยมยโสธร 2/พ.ศ.2553 — ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ
มิตรภาพ...นำไปสู่ความรัก
หากย้อนกลับไปช่วงเวลาที่เราอินกับการรักใครสักคนในช่วงเวลาแรกๆ ของชีวิต ปัจจัยรอบด้านก็มีส่วนสำคัญที่เข้ามามีบทบาทกับจังหวะชีวิตของเราอย่างด้วย ไหนจะเพื่อน ไหนจะคู่แข่ง โอ้ย มันยุบยับวุ่นวายซะเหลือเกินพอความรักมันกระทบใจเนี่ย ซึ่งในหนังเรื่องนี้นอกจากพาร์ทของตัวละครโชนกับน้ำแล้วก็ยังมีอีกหลายสีสันที่จะทำให้คุณกลับไปรู้สึกกับความหมายดีๆ ของคำว่ามิตรภาพอีกด้วย
เสนาเพชร : “อย่างกลุ่มเพื่อนของน้ำเรามองเด็ก 3 คนนี้คือเป็นตัวแทนของเพื่อนที่แทบจะทั่วๆ ไป เพื่อนอ้วนมั้ยทุกคนต้องมี เพื่ออารมณืดีชอบปลอบปะโลมทุกคนก็มี เรามีเพื่อนหน้าปลวกที่สุดไหมทุกคนก็มี 3 คนนี้มันเปรียบเหมือนเพื่อนอีกสิบๆ คนที่คนทั่วๆ ไปมี แล้วเพื่อนส่วนใหญ่ในวัยนี้มันจะรักกันมาก จะช่วยเหลือกันตลอด ในความคิดตอนนั้นคือมันใสมาก ไม่มีคิดจะคดโกงเพื่อนเลยความคิดไม่ดีกับเพื่อนแทบไม่มีเลย แล้วเด็กกลุ่มนี้มันก็จะช่วยกันผลักดันนางเอก แล้วเรื่องโขมยซีนมันก็จะเป็นส่วนของมุกหยอดมากกว่า”
วศิน : “น็อตที่เล่นเป็นท็อบเป็นตัวละครที่สนิทกับพระเอกมากที่สุด ถามว่าทำไมต้องมีน็อต คือดูแล้วมันต้องหล่อประมาณมาริโอ้ แต่มันก็มีความแตกต่างอยู่นิดนึงมาริโอ้มันจะหล่อแบบหวานๆ เซอร์ๆ แต่น็อตมันจะหล่อแบบเพอร์เฟ็ก อารมณ์ดี พ่อกูรวย คิดว่าตัวเองหล่อตลอดเวลา ก็เป็นตัวละครสำคัญตัวหนึ่งที่เพิ่มสีสันในความรักในหนังเรื่องนี้”
เสนาเพชร : “คือในเรื่องมันมีพี่คนนึงซึ่งดีกับนางเอกตลอดเวลา เขาคอยช่วยแต่งหน้าให้เพื่อสอนให้นางเอกเรียนรู้การแต่งหน้าที่ถูกต้อง ดูเป็นพี่ที่ดูห้าวๆ เราก็เปิดแคสติ้งดูว่าจะเอาใครดี วสินก็บอกเอาลูกมึงดิ เราก็บอกว่าไม่ใช่เส้นนะถ้าได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่เอาเส้นเพราะเห็นว่าเป็นลูกเพื่อน เราก็เปิดแคสติ้งและเอาลูกมาลองดูว่าเขาจะตรงใจกับคนอื่นไหม คือถ้ามันตรงกับสิ่งที่เราต้องการและคนอื่นเห็นว่ามันดี สามารถสอนนางเอกได้ คือนีน่าดูตรงกับตัวละครนี้มาก”
คาแรกเตอร์อื่นๆ
อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล รับบทเป็น ท็อป
เป็นเพื่อนเก่าของโชนเพิ่งเข้าตอน ม.ปลาย ขี้เก๊ก ชอบคุยโอ่ โอ้อวดโชคดีที่มีความหล่อเป็นทุน บวกความเจ้าชู้เป็นหลักทำให้สาวๆ หลายคนชอบเหมือนกันมาปิ๊งน้ำตอนที่สวยสุดเป็นดรัมเมเยอร์แล้ว
ผลงานที่ผ่านมา
ละคร — วัยป่วนก๊วนล่าฝัน
พิธีกร — รายการ TRUE MUSIC / BANGKOK SOUL 5 / Wake Club / BANG Channel
กชามาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร รับบทเป็น ปิ่น
ปิ่นรุ่นพี่ม.4สวยห้าวเท่ห์ เป็นคนพูดตรง ชอบคนเซอร์ๆ สวยแบบนางแบบเลยล่ะ ดีกับน้ำมากเลย ช่วยทุกอย่างจนน้ำสวยขึ้นทันตา
ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ ลูกตลกตกไม่ไกลต้น (พ.ศ.2549)
พิจิตรา สิริเวชพันธ์ รับบทเป็น ครูอร ครูสอนภาษาไทย, รำไทย, สวยสุดโต่ง มักจะปะทะคารมเล็กๆ กับครูอินเสมอ เพราะชอบครูพลเหมือนกัน และแข่งกันทางด้านวิชาการกับครูอินเสมอ
พีรวัชร์ เหราบัตย์ รับบทเป็น ครูพล
ครูพละอารมณ์ดี ชอบช่วยเหลือคนอ่อนแอกว่า มีน้ำใจไปไหนมา มักจะมีของฝากให้บรรดาครูๆ เสมอ เป็นที่หมายปองของครูอินกับครูอร
ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา FIGHTING BEAT พ.ศ.2550 /เดอะกิ๊ก พ.ศ.2552
DIRECTOR NOTE
“มันเริ่มมาจากคุยกับเพื่อนๆ ว่า “มาทำหนังกันเถอะ” ตอนแรกก็คิดถึงหนังแอ๊คชั่น แมนๆ มันต้องแอ๊คชั่นโว้ย แต่ทั้งทีมงาน คนรอบๆ ข้างผม บอกว่าพี่อ่ะต้องทำหนังรัก!!! อ้าว!!!”
แล้วคุณสุวัฒน์ เจ้าของ SF ที่เรียนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แนะนำว่าทำแนวกระโปรงบานขาสั้นซิวะ มันหายไปนานแล้ว ผมก็คิดถึงช่วงเวลาตอนม.ต้นที่มีหลายเรื่องประทับใจอยู่ และถ้าจะต้องทำหนังรัก ก็คิดอยากทำหนังเกี่ยวกับความรักในช่วงเวลานั้นมานานแล้ว แต่จะเอาเรื่องอะไรดีวะ แล้วเพชรก็มาบอกว่ามึงไปฟังเรื่องน้องคนนี้ดูหน่อยซิวะ เพราะเราก็คุยหาเรื่องที่น่าสนใจไปเรื่อย พอฟังแล้ว โอ้โฮ...เรื่องมันโครตดีเลย เด็กผู้หญิงหน้าปลวกคนหนึ่ง ที่พยายามเปลี่ยนตัวเองอยู่ 3 ปี จนได้เป็น.....ดรัมเมเยอร์โรงเรียน เพราะความรักที่มีให้ผู้ชายคนนึงที่หล่อขั้นเทพ แล้วเรื่องจริงน้องเค้าทำได้จริงๆ ซะด้วยนะ เรื่องมันเมโลดราม่ามาก...แต่เป็นเรื่องจริง! น้องเค้าเล่าไปแล้วก็น้ำตาซึมไป เค้าจำรายละเอียดของเรื่องได้ทุกอย่าง
หลังจากนั้นผมก็คุยกับอีกหลายๆ คนถึงเรื่องหวานๆ ของพวกเค้าในช่วงเวลานั้น ทุกคนอาการเดียวกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ผม ก็คิดในใจว่า เฮ้ย..มันน่าสนใจจริงๆ นะเนี่ย เพราะคนดูเชื่อมโยงกับหนังได้แน่ๆ พอได้เรื่องมาก็นั่งวางโครงเรื่อง แล้วเขียนบทอยู่หลายเดือน พยายามจะทำให้มันดี พยายามเกินไปจนคิดไม่ออก พยายามจะทำให้มันได้ความรู้สึกจริงๆ เวลาที่เรานึกถึงช่วงเวลาตอนที่เราอายุเท่านั้น ช่วงนี้คุณสุวัฒน์ของเราก็ไปชวน สหมงคลฯ ไปคุยกับพี่จิกประภาส พี่ตาปัญญา แห่ง Workpoint ว่ามาทำหนังกันมั๊ยครับ เพื่อนผมทำเอง ผมเคยเป็นลูกน้องเก่าพี่จิกอยู่แล้ว ก็ไปเล่าเรื่องให้พี่จิกฟัง พี่จิกแกชอบ บ๊ะ! ที่นี้ก็มัน!ล่ะ พี่จิก พี่ตาให้ไอเดียดีๆ หลายอย่าง ซึ่งผมเอาไปใส่ในบทหนังหลายอันเลย แล้วผมยังแอบเอาแคแร็คเตอร์ของพี่จิก (ในมุมมองของผมเอง) แอบใส่ไปในแคแร็คเตอร์ของพระเอก ที่แสดงโดยมาริโอ้ ด้วยนะ นี่ยังไม่เคยบอกแกเลย ไม่รู้แกจะว่ายังไง
ขอบคุณมากครับ มีแต่คนช่วย ทำให้ตั้งใจว่าจะทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นผู้กำกับฯ มา 20 ปี มีงานนี้แหละตั้งใจโอเว่อร์ จนรำคาญตัวเอง แล้วพี่จิกแกยังบอกมาอีกว่า การทำหนังน่ะ มันคือการทุ่มเททุกอย่างในชีวิต ในช่วงเวลานึง...เพื่อทำมัน ผมก็พยายามทำตามนั้นล่ะครับ ผลก็คือ เหนื่อยเป็นหมาเลยครับ เหนื่อยทั้งกายทั้งใจแทบร้องไห้ ปลุกปล้ำคะมำหงายไม่ได้เท่เหมือนที่ใครๆ คิดว่าผู้กำกับฯควรจะเป็นเล้ย อยากให้คนดูไปดูกันเยอะๆ ครับ ไปสนุกด้วยกันครับ
ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณครับ.....คุณคนดู
เพราะผมเองก็เป็นคนดู มากกว่าเป็นผู้กำกับฯซะอีก
วศิน ปกป้อง
DIRECTOR PROFILE
วศิน ปกป้อง โลดแล่นอยู่ในวงการเพลงและภาพยนตร์มากว่า 20 ปี ในฐานะผู้กำกับเอ็มวีและมือเขียนบทมากประสบการณ์ โดยเขาจบการศึกษาปริญาตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก่อนจะเบนเข็มไปเป็นผู้กำกับตามความฝัน โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้กำกับมิวสิควีดีโอให้กับศิลปินวงเฉลียง หรือจะเป็นของศิลปินชื่อดังของเมืองไทยอย่าง คาราบาว, ใหม่ เจริญปุระ, ทีโบน, พงษ์พัฒน์, คริสติน่า, พลพล หรือจะเป็นงานกำกับโฆษณาอีกหลายตัว ก่อนจะมาจับงานเขียนบทให้กับภาพยนตร์อย่าง มอ.8, คู่แรด, ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่ และหลังจากผ่านการเดินทางมายาวนานก็มาถึงจุดหมายที่วาดฝันนั่นคือการได้ทำภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต ที่เจ้าตัวใส่ทั้งแรงกายแรงใจให้กับพลังความรักอันยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์เรื่องนี้
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ วศิน ปกป้อง
เกิด 12 มกราคม พ.ศ.2506
ประวัติการศึกษา ปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง
ผลงานที่ผ่านมา
ผลงานกำกับมิวสิควีดีโอ — อาทิ ทะเลใจ.คาราบาว/ผู้หญิงใจร้าย..ใหม่..เจริญปุระ/เธอเห็นท้องฟ้าบางไหม.ทีโบน/ถึงลูกถึงคน.พงษ์พัฒน์./เวลาไม่ช่วยอะไร.คริสติน่า./คนเดินถนน..พลพล.ฯลฯ. ผลงานกำกับโฆษณา — ปูนตราเสือ / เอสเอฟมิวสิคซิตี้ / เอสเอฟคาราโอเกะ / ครีมหมักผมโลแลน / เอสเอฟเมเจอร์โบล/ 7 Days 7Ways.Save The Earth.โดยโรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง ผลงานเขียนบท มอ8 / คู่แรด / ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่
DIRECTOR NOTE
“หนังเด็กๆ น่ารักๆ นะโว้ย มึงสองคนไหวป่าววะ นางเอกอยู่มอต้นพระเอกมอปลาย แต่มึงสองคนเนี่ย มอ.ยะงา ก็ แก่แล้ว”
นี่เป็นประโยคที่เพื่อนๆ รักที่เรียนมาด้วยกันพูดใส่หูตอนที่เราตัดสินใจจำภาพยนตร์ เรื่อง สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก
(A LITTLE THING CALLED LOVE) หนังเด็กๆ น่ารักแนว ROMANTIC COMEDY ขึ้นมา...เอ้า มันท้าทายดีนี่หว่า.....
เราก็ต้องหาเรื่องของเด็ก ต้องหาเรื่องเด็ก ...ท่องกันทั้งวัน แล้วจะเอาเรื่องมาจากไหนวะ...หนังรัก แบบ เด็กๆ หรือว่า ราต้องหาเด็กกัน!! (อันนี้เป็นข้ออ้างเมียๆ คงไม่ยอม)
และแล้วอยู่มาวันหนึ่งก็ได้นั่งคุยกับเด็กสาวคนนึงที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ผมก็ถามเค้าไปว่า...เนี่ย...เราเคยมีความรักยัง รัก.. แบบไหน แฟนมีมั้ย (คำถามแบบที่ผู้ชายชอบหยอดถามเด็กๆ นั่นแหละ) เด็กสาวคนนั้นก็ยิ้ม...โหพี่มีสิ “หนูเคยแอบปิ๊งผู้ชายคนนึงนานแล้วนะพี่ นานขนาดไหนพี่คิดดู หนูอยู่มอหนึ่ง เค้าอยู่มอสาม หนูปลื้มมาก แอบชอบเค้า แอบมอง แอบตาม ไปดูหลังคาบ้าน ... (อ้อลืมบอกครับน้องคนนี้เรียนปี3 หอการค้า) ทำทุกอย่างจนพี่เค้าเรียนจบไป เราก็แยกย้ายกัน จนตอนนี้หนูยังไม่เจอเค้าอีกเลย และยังแอบปลื้มเค้าอยู่เสมอๆ.” ..แล้วทำไมล่ะ ผู้ชายคนนั้นเค้าไม่รู้เหรอ ได้คุยกันหรือเปล่า หมายถึงคบกันเป็นแฟนน่ะ...
“โหพี่ตอนนั้นหนูขี้เหร่มาก” พร้อมกับเปิดรูปเก่าๆ ให้ดู อืมมม...ขี้ 2 เหร่เลยล่ะ (ผมคิดเบาๆ) แล้วไงเนี่ย ทำไมตอนนี้สวยมาก แสดงว่าตอนนั้นไปบอกเค้าแล้วเค้าปฎิเสธ ไม่อยากคบคนดำ....”เปล่าเลยพี่ หนูไม่เคยบอกเค้าเลย แต่หนูก็ทำนะพี่ ทำทุกอย่าง หนูเริ่มตั้งแต่.......แล้ว ก็.......และ......
แต่ว่า........(น้ำตาเริ่มมา)...สุดท้ายก็.......น้ำตานอง”
หนัง...หนังชัดๆ เรื่องราวสนุกมากผมรีบเรียกไอ้ศินมาบอกว่ามึงลองฟังเรื่องนี้ดู หนังชัดๆ และน้องเค้าเริ่มเล่าเรื่องเดิมอีกครั้ง ด้วยแววตาที่อมยิ้มเสมอ และตลอดเวลามันมีความสุขมาก เมื่อได้เล่าเรื่องเล็กๆ เรื่องนึงที่เค้าเรียกว่าความรักสมัยมอต้น เหรอเนี่ย
และเรื่องนี้ได้ถูกนำมาปรึกษากับจิ๋วอีกครั้ง และจิ๋วยิ้มนิดนึงแล้วก็บอกว่า “มึงเตรียมตัวทำบทมาดู ...เดี๋ยวจะลองถามหานายทุนให้...ไม่รับปากนะโว้ย....”
แต่...นั่นคือจุดเริ่มต้น ที่มีวันนี้ วันที่เราสองคนได้ทำเรื่องเล็กเล็กที่เรียกว่ารักของเด็กผู้หญิงคนนึงให้เป็น...ภาพยนตร์....ออกสู่สายตาประชาชน หนังที่สะอาด ไม่มีคำหยาบ น่ารัก ฮาเล็กๆ อมยิ้มเรื่อยๆ ในแบบของเราที่ตั้งใจทำจริงๆ ....
..... ที่สำคัญมันมาจากเรื่องจริงครับ.....
พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
DIRECTOR PROFILE
พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร หรือที่รู้จักกันดีกันในนาม “เสนาเพชร” จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะคุรุศาสตร์ มหาวิทยาลัยจันทรเกษม เริ่มเข้าสู่เริ่มต้นเส้นทางนักแสดงจากการเล่นละครเวทีมณเฑียรทองเธียเตอร์ ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการอย่างเต็มตัวจากการเป็นพระเอกละครเรื่อง “จุดหมายปลายทาง” และเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในฐานะหนึ่งในพิธีกรกับรายการตลกสุดฮาของยุคนั้น “ยุทธการขยับเหงือก” ก่อนจะพลิกบทบาทไปสร้างสรรค์งานเบื้องหลังของรายการยอดนิยมมากมาย อาทิ ขบวนการจี้เส้น, สืบสะเด็ด, บุปผาสวรรค์, คู่ชื่นชุลมุน และหลังจากเพาะบ่มประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ก็ถึงเวลาที่ “เสนาเพชร” จะได้ใช้สมองและหัวใจกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต กับการถ่ายทอดพลังอันยิ่งใหญ่ของสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า “รัก” ในครั้งนี้
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
เกิด 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2506
ประวัติการศึกษา ปริญญาตรีคุรุศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยจันทรเกษม
ผลงานที่ผ่านมา
ผลงานแสดงและกำกับละครโทรทัศน์ — จุดหมายปลายทาง, คุณปู่ซู่ซ่า, ดอกฟ้ากับโดมผู้จองหอง, ชื่นชีวานาวี
ผลงานแสดงและกำกับละครเวที — ขอรับฉัน, ใต้แสงเทียน, บ้าก็บ้าวะ, ราโชมอน, นายบ่าวเจ้าปัญหา
ผลงานแสดงภาพยนตร์ — ปอบหยิบ, บ้านนี้มีห้องว่าง, ครูไหวใจร้าย
ผลงานงานพิธีกร — พลิกล็อคเพชร, ยุทธการขยับเหงือก, วิก07
ผลงานกำกับรายการโทรทัศน์ — ยุทธการขยับเหงือก, ขบวนการจี้เส้น, สืบสะเด็ด, เด็ดสะระตี่, บุปผาสวรรค์, ศรีธนญชัย, ฮา 7 ดาว, ผ่างผ่างโชว์, คู่ชื่นชุลมุน