กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--พีเพิลมีเดีย
“เอดีที ออนไลน์” ผู้นำด้านการผลิต และจำหน่ายเครื่องเติมเงินมือถือแบบหยอดเหรียญ 4 ปี โตแบบก้าวด้วยยอดขายอันดับหนึ่ง ทุ่มงบขยายโรงงานในไทยพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร เร่งพัฒนาสินค้า และเทคโนโลยี พร้อมขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม ลาว กัมพูชา
นายสามารถ สร้างบัณฑิตสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอดีทีออนไลน์ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจเครื่องเติมเงินมือถือ ออนไลน์ แบบหยอดเหรียญ เป็นหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลา 3-4ปีที่ผ่านมา เพราะนับจากปี 2549 จำนวนผู้ใช้มือถือทั่วประเทศมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพบว่าในระบบเติมเงิน (Pre Paid) มีจำนวนสูงกว่า 40 ล้านเลขหมาย คิดเป็นอัตราส่วนร้อย 80% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด (จากข้อมูลในปี 2550) และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างมองเห็นโอกาสและให้ความสนใจเข้ามาดำเนินธุรกิจเครื่องเติมเงินมือถือ ทำให้ธุรกิจนี้เป็นที่ได้รับความนิยมสูงตามมาด้วย แต่เทรนด์ของการทำธุรกิจตู้เติมเงินมือถือในปัจจุบัน จะต่างจากเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อ 3-4ปีที่ผ่านมาธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ใหม่การแข่งขันน้อยแต่ตลาดค่อนข้างเล็ก จึงต้องสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้งานและความน่าสนใจของการลงทุน แต่ในปัจจุบันการแข่งขันสูง แต่ตลาดกว้างขึ้น จึงต้องสร้างการรับรู้ในเรื่องของข้อดี และจุดเด่นในตัวสินค้า ให้กับผู้บริโภคและนักลงทุนได้ตัดสินใจเลือก ทั้งในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เรื่องของคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย รวมทั้งเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา
ในส่วนของ ADT online ได้รับการออกแบบและพัฒนาอย่างพิถีพิถันจากวิศวกรผู้ชำนาญ จนกลายเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการธุรกิจหยอดเหรียญ เนื่องจากตัวสินค้าได้รับการพัฒนาให้ก้าวขึ้นสู่ขั้นสูงสุดของเทคโนโลยีไร้สายแบบออนไลน์ เนื่องจากเป็นเครื่องเติมเงินมือ ถือเครื่องแรกของประเทศไทย และของโลกที่สามารถ ‘คืนเงินได้’ โดยได้รับอนุสิทธิบัตร เลขที4816 จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยเครื่องจะทำการคืนเหรียญเมื่อเกิดกรณีไฟฟ้าดับขณะหยอดเหรียญ, เมื่อลูกค้ากดเลือกเครือข่ายผิด,เมื่อเครือข่ายของผู้ให้บริการล่ม และเมื่อผู้ใช้บริการหยอดเหรียญแล้วไม่ได้รับ SMS เติมเงิน โดยที่เครื่องจะคืนเงินให้ลูกค้า ผ่านโปรแกรมอัจฉริยะที่ได้รับการออกแบบภายใต้ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ADT online เท่านั้น) ซึ่งเครื่องจะวิเคราะห์ แล้วพิจารณาการคืนเงินให้ผู้ใช้บริการภายใน 2 นาที ด้วยความแม่นยำ 100% เป็นธรรมทั้งลูกค้าและเจ้าของตู้ และด้วยจุดเด่นดังกล่าวทำให้ ADT online มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังเป็น OEM (รับจ้างผลิต) ให้กับแบรนด์ดังๆ อีกหลายแบรนด์ในตลาดด้วย
สำหรับในปีนี้ ADT online ยังพัฒนาอย่างไม่หยุดโดยทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานผลิต และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และการขยายธุรกิจเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีช่องว่างในการเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก ทั้งนี้บริษัทฯ จะเริ่มเข้าไปศึกษาความต้องการ และออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับความต้องการในตลาดก่อน และจะเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในปี 2554 โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีคล้ายกับเมื่อเริ่มทำตลาดในประเทศเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา
นายสามารถ กล่าวต่อว่า บริษัท เชื่อว่าตลาดยังเติบโตได้มากกว่านี้มาก และพบว่ายังมีรูปแบบการบริการใหม่ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้อีก ADT online จึงลงทุนในการพัฒนาเครื่องฯ ให้มีประสิทธิภาพ และออฟชั่นในการใช้งานมากขึ้น อาทิ การเพิ่มจอสี เพิ่มเครื่องชั่งน้ำหนักในตัว หรือเพิ่มเซ็นเซอร์สำหรับวัดส่วนสูง เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้บริโภค และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับนักลงทุนอีกด้วย ปัจจุบันตู้เติมเงินมือถือแบรนด์ ADT online ได้รับการพัฒนามาด้วยกัน 3 รุ่น คือ รุ่น ADT-01 รุ่นเล็กรับเฉพาะเหรียญ 1,2,5,10 รุ่น ADT-02 เป็นรุ่นที่สามารถเสริมในส่วนที่จะรองรับธนบัตรได้ และรุ่นADT-03 เป็นรุ่นที่รองรับทั้งเหรียญและธนบัตร และทุกรุ่นติดตั้งพร้อมขาตั้ง สัญญาณกันขโมยและไฟส่องสว่างเวลากลางคืน มีระบบเสียงอธิบายการทำงาน พร้อมระบบคืนเงินที่แม่นยำ
ส่วนพื้นที่ที่เหมาะแก่การลงทุนทำธุรกิจนี้ ควรเป็นพื้นที่แหล่งชุมชน ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ตลาด ฯลฯ สำหรับรายได้ของธุรกิจตัวนี้จะมาจาก ค่าธรรมเนียมการเติมเงินของผู้ใช้บริการ 1 ครั้ง ซึ่งผู้ลงทุนจะได้ค่าธรรมเนียม 1,2 หรือ 3 บาท ต่อการเติม 1 ครั้ง (แล้วแต่ผู้ประกอบการจะกำหนด) และส่วนต่างเปอร์เซ็นต์ จาก Dtac ให้ 3.5% , AIS ให้ 3.5% และ Truemove ให้ 5.5% ยกตัวอย่าง เติมเงิน Dtac 1000 บาท จะได้เงินมาจำหน่ายในระบบ 1,035 บาท ส่วนต้นทุนที่จะเกิดขึ้นจะมาจากต้นทุนการเติมเงินเข้าระบบของแต่ละเครือข่าย การเช่าพื้นที่และต้นทุนค่าไฟฟ้าซึ่งอยู่ที่ประมาณ 90 บาท/เดือน ประมาณการระยะเวลาคืนทุนนั้น บริษัทประเมินเบื้องต้นว่า หากมีผู้ใช้บริการ 60 ราย/วัน เติมเงินรายละ 50 บาท เจ้าของตู้จะมีรายได้ประมาณ 7,000-8,000 บาท/เดือน ดังนั้นระยะเวลาการคืนทุนจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 เดือน และในทำเลที่ดีผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน ส่วนการเติมเงินเข้าซิมการ์ดสำหรับเจ้าของตู้ สามารถทำได้หลายทางด้วยกัน คือ เติมเงินทาง ATM ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา, สำหรับ True Move สามารถเติมด้วยบัตรเติมเงินได้เลย, เติมผ่านเคาน์เตอร์เซอวิสของซ็อปโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ระบบ
สำหรับสื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด
นายอาทิตย์ ประภาสะวัต (ปอนด์) 02 704 7958