กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
เอ็มเอฟซีเปิดแผนงานปี 50 พร้อมบุกเอเชียอาคเนย์ โชว์ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการเงิน เน้นรุกกองทุน Private Equity และกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวชูโรง
บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดวิสัยทัศน์ปี 2550 สู่ผู้นำนวัตกรรมจัดการกองทุนระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปี 2550 เน้นกลยุทธ์การบริหารกองทุนที่แตกต่างด้วยทีมงานมืออาชีพ เล็งออกกองทุนที่ลงทุนใน Private Equity เปิดตัวกองทุนแรกคือ กองทุน Energy Fund ตามด้วยกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มั่นใจเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน
ดร. พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ปี 2550 ว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายหลักในการเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำ เน้นการบริหารความมั่งคั่ง และการให้บริการที่เป็นเลิศ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวสู่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2553 เน้นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการ และขยายฐานการลงทุนในต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ พร้อมเปิดกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชนให้เพิ่มมากขึ้น เพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วยกลยุทธ์การบริหารกองทุนที่แตกต่างจากบลจ. อื่น ผ่านทางระบบและเครื่องมือทางการเงินที่ทันสมัย หวังเร่งระดมเงินลงทุนผ่านการเปิดขายกองทุนรวมใหม่ ประมาณ 19 กองทุน โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2553 บริษัทจะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการถึง 4 แสนล้านบาท
ดร. พิชิตกล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของเอ็มเอฟซีในปี 2549 บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ ณ 31 ธันวาคม 2549 เท่ากับ 203,320.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.16 หรือเท่ากับ 20,410.13 ล้านบาท จากปี 2548 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 182,910.70 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองทุนรวมจำนวน 79 กองทุน รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเท่ากับ 134,279.87 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจำนวน 41 กองทุน ด้วยจำนวนบริษัทสมาชิก 469 แห่ง มูลค่า 51,499.46 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล จำนวน 13 กองทุน มูลค่า 17,541.50 ล้านบาท
สำหรับกองทุนรวม แบ่งเป็นกองทุนรวมจากต่างประเทศ (Country Fund) 4 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 6,961.43 ล้านบาท และกองทุนรวมในประเทศ 75 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 127,318.44 ล้านบาท โดยกองทุนรวมในประเทศประกอบด้วย กองทุนรวม 55 กองทุน มูลค่า 96,564.45 ล้านบาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 14 กองทุน มูลค่า 23,916.96 ล้านบาท และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศหรือ FIF 6 กองทุน มูลค่า 6,837.03 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการเอ็มเอฟซีกล่าวว่า ในปี 2550 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการเท่ากับ 232,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท จากปี 2549 สำหรับกลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เอ็มเอฟซีได้เตรียมการศึกษารูปแบบทางเลือกการลงทุนที่เพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุน โดยจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ หรือที่เรียกว่า Private Equity โดยจะออกกองทุน Energy Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหรือพลังงานทดแทน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น
ดร. พิชิตกล่าวเสริมว่า เพื่อให้การบริหารกองทุนมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นแก่ลูกค้า เอ็มเอฟซีได้นำเทคโนโลยีและการพัฒนาระบบการบริหารกองทุนรูปแบบใหม่ ๆ โดยการพัฒนาทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้ความชำนาญระดับสูงเฉพาะด้าน ได้แก่ Global Team เป็นทีมที่เน้นการวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั่วโลก และทำหน้าที่บริหารกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเองได้แก่ กองทุน MGA, MGS, และ I-SPOT Quantitative Team เป็นทีมงานที่สร้างเครื่องมือต่างๆ เพื่อยกระดับผลการดำเนินงานของกองทุน (Performance) ให้มีผลตอบแทนที่ดีขึ้น และควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ และแบบจำลองเชิงปริมาณทางการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทยังมีฝ่ายบริหารความเสี่ยง (Risk Management Team) ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ และประเมินความเสี่ยงในระดับองค์กร ระดับกองทุน และป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการผิดพลาดในการปฏิบัติงาน
ดร. พิชิตเปิดเผยว่า ในปีนี้ เอ็มเอฟซีมีแผนออกกองทุนใหม่ประมาณ 19 กองทุน แบ่งเป็น กองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนอิงดัชนีอื่นประมาณ 5 กองทุน กองทุนรวมตราสารทุนประมาณ 4 กองทุน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศประมาณ 6 กองทุน กองทุน Private Equity 2 กองทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) ประมาณ 2 กองทุน
ดร. พิชิตกล่าวว่า ในส่วนของการขยายเครือข่ายของช่องทางการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน เอ็มเอฟซีได้เพิ่มจำนวนทีมขายหน่วยลงทุนทั้งในบริษัท และ IP อิสระ ตัวแทนขาย (Selling Agents) Telemarketingเพิ่มบริการด้านการซื้อขายหน่วยลงทุนทาง Internet การพัฒนาระบบ Contact Center ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าการพัฒนาทีมงานมืออาชีพ ระบบงานและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครือข่ายการจัดจำหน่ายกองทุน และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจและการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้าของบริษัท
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สำนักกรรมการผู้จัดการ:
คุณสุทรรศิกา คูรัตน์, คุณสุวรรณา ชีวนันทชัย โทร.0-2649-2112, 0-2649-2113
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์:
คุณศริญญา แสนมีมา, คุณพรทิภา อยู่แสง โทร.0-2204-8218, 0-2204-8215