กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาทร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ฝึกซ้อมแผนเผชิญสถานการณ์อุทกภัยที่มีความรุนแรงอย่างยิ่ง เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านอุทกภัยของจังหวัดให้ทุกภาคส่วนสามารถประสานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการแจ้งเตือนภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย
นายปรีชา ทองคำ รักษาการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จังหวัดชัยนาทเป็นที่ตั้งของเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งรองรับน้ำที่ไหลมาจากภาคเหนือ ประกอบกับช่วงฤดูฝนของทุกปีจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันหลายวัน ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงสู่เขื่อนฯจำนวนมากจนเขื่อนไม่สามารถรองรับน้ำได้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมืออุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาทจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ด้านการฝึกซ้อมแผนเผชิญสถานการณ์อุทกภัยที่มีความรุนแรงอย่างยิ่ง โดยแบ่งการฝึกซ้อมเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ การฝึกซ้อมแผนรูปแบบในที่บังคับการ(Command Post Exercise : CPX) ในวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2553 โดยประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติตามแผนเผชิญสถานการณ์อุทกภัย และรูปแบบปฏิบัติการจริง(Field Training Exercise:FTX)ในวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม 2553 ณ บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โดยจำลองสถานการณ์อุทกภัยที่มีความรุนแรงเป็นอย่างยิ่งทำให้เขื่อนเจ้าพระยาแตกร้าวและน้ำในเขื่อนไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร จึงต้องระดมกำลังจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่เข้าช่วยเหลือและอพยพประชาชนออกจากบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ การฝึกซ้อมแผนฯดังกล่าวเป็นการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านอุทกภัยของจังหวัด โดยทุกภาคส่วนสามารถประสานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการแจ้งเตือนภัยให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในระบบมาตรฐานความปลอดภัยของภาครัฐให้กับประชาชนในพื้นที่ ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปภ.