วิจัยระบุไขมันส่งผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์ เสี่ยงต่อการเป็นหมันถึง 2 เท่า

ข่าวทั่วไป Thursday May 10, 2007 09:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
ศูนย์วิจัยเนสท์เล่ สวิตเซอร์แลนด์ แสดงรายงานผลการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่ของ ดร. จอร์จ อี เชาวาโร และคณะ จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เมืองบอสตัน ในวารสารโภชนคลีนิคของ อเมริกัน พบว่า หญิงที่ต้องการจะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันชนิดทรานส์ โดยเมื่อหญิงเหล่านี้กินอาหารที่มีไขมันชนิดทรานส์ (Trans fats) มากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสเป็นหมันมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักตัวอีกด้วย
ไขมันชนิดทรานส์ เป็นไขมันที่ทำจากไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ผ่านขบวนการเติมไฮโดรเจน เพื่อให้เป็นไขมันที่คงตัวในอาหารสำเร็จรูป สามารถเก็บไว้ได้นานๆ หรือมักเห็นบ่อยๆ บนฉลากอาหาร ก็คือ Hydrogenated oil หรือ Partially hydrogenated oil ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่อันตรายกับร่างกายเป็นที่สุดเพราะเป็นไขมันที่เกิดจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่จากธรรมชาติ โดยมักพบในเนยแท่งมาร์การีน เนยถั่วพีนัท บัตเตอร์ อาหารทอด ขนมขบเคี้ยวที่บรรจุถุง ขนมอบและในอาหารอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ไขมันชนิดนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคเบาหวาน แม้ในผู้ที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ก็ควรหลีกเลี่ยง
ไขมันชนิดทรานส์ จะส่งผลรบกวนการทำงานของตัวรับที่เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เมตาบอลิซึมของกลูโคส และความไวต่ออินซูลิน ดร. เชาวาโร ได้ให้ข้อมูลว่ายาต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตัวรับนี้ก็ส่งผลต่อการเป็นหมันด้วย ซึ่งรู้จักกันว่าภาวะการทำงานของ รังไข่ผิดปกติ (polycystic ovary syndrome)
ดร. เชาวาโร และคณะ ได้ทำการศึกษาผลกระทบของไขมันชนิดทรานส์ต่อการเป็นหมัน โดยวิเคราะห์ข้อมูลหญิงที่แต่งงานแล้วและมีสุขภาพดี จำนวน 18,555 คน ที่เข้าร่วมโครงการสุขภาพของพยาบาล และพยายามที่จะตั้งครรภ์ในช่วงปี ค.ศ.1991-1999 พบว่าพลังงานที่ได้รับเพิ่มขึ้นทุกๆ 2% จากไขมันชนิด ทรานส์แทนที่ควรจะได้จากคาร์โบไฮเดรตนั้น จะทำให้หญิงเหล่านี้เสี่ยงต่อการเป็นหมันเพิ่มขึ้นถึง 73% และความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 79% ถ้าพลังงานที่ได้รับเพิ่มขึ้นทุกๆ 2% จากไขมันชนิดทรานส์ เป็นการแทนที่กรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 6 นอกจากนี้ ถ้าพลังงานที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 2% มาจากกรดไขมันชนิดทรานส์แทนที่จะได้จากกรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะเดี่ยวจะทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นหมันเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า
ดร. เชาวารา ยกตัวอย่างให้เห็นว่า ในหญิงที่ได้รับพลังงานจากอาหารวันละ 1,800 กิโลแคลอรี่ ถ้าคิด 2% ของพลังงานที่ได้รับ จะเท่ากับ 36 กิโลแคลอรี่ เทียบเท่ากับไขมันชนิดทรานส์ 4 กรัม ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่ร่างกายจะได้รับกรดไขมันชนิดทรานส์ ปริมาณ 4 กรัมต่อวัน แม้จะเป็นปริมาณที่น้อยมากก็มีผลต่อการเป็นหมันอย่างชัดเจน
สำหรับประเทศไทยยังไม่มีการประกาศให้ระบุปริมาณไขมันชนิดทรานส์บนฉลากโภชนาการ ฉะนั้นเราจึงต้องดูแลสุขภาพตนเองด้วยการหลีกเลี่ยงอาหาร หรือขนมสำเร็จรูปที่มีส่วนประกอบของไขมันชนิดทรานส์ อาทิ เบเกอรี่ เค้ก คุกกี้ โดนัท แคร็กเกอร์ ขนมทอดขบเคี้ยว รวมถึงอาหารที่ฉลากระบุว่ามีส่วนผสมของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการไฮโดรจิเนชั่น หรือน้ำมันที่ผ่านกระบวนการไฮโดรจิเนชั่นบางส่วน และควรเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ อาทิ ธัญพืช เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
รวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ :
ศูนย์วิจัยเนสท์เล่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
และศูนย์ผู้บริโภคเนสท์เล่ ประเทศไทย
โทร. 0-2657 8657 e-mail: goodfood.nestle@th.nestle.com
สุมาลี ติณวัฒน์
พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
โทร. 0-2651 8989 ต่อ 336

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ