กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของหุ้นกู้มีหลักประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นของบริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG ครั้งที่ 1/2545 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2548 และ ครั้งที่ 1/2546 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2551 ที่ระดับ ‘BBB+(tha)’ อันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของ VNG รวมถึงมูลค่าหลักประกันของตัวหุ้นกู้ โดย ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และเครื่องจักรของ VNG และของบริษัทย่อยคือ บริษัท ปาร์ติเกิ้ล แพลนเนอร์ จำกัด ได้ถูกจดจำนองไว้เป็นหลักประกันของหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2545 และ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักรของบริษัทย่อยคือบริษัท วนชัย พาเนล อินดัสทรี่ส์ จำกัดได้ถูกจดจำนองไว้เป็นหลักประกันของหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2546
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำทางด้านส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศของ VNG ข้อได้เปรียบในการผลิตจากการที่บริษัทมีโรงงานผลิตกาวซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลัก และมีการขยายการผลิตไปสู่ผลิตภัณฑ์ขั้นต่อเนื่องของแผ่นเอ็มดีเอฟและแผ่นปาร์ติเกิ้ล รวมถึงการที่บริษัทมีสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างคงที่หลังจากปี 2542 นอกจากนี้ อันดับเครดิตได้สะท้อนถึง ความเสี่ยงจากการที่อัตรากำไรของบริษัทได้มีแนวโน้มลดลงในช่วงสองปีที่ผ่านมาเนื่องจากราคาวัตถุดิบและต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและนโยบายของภาครัฐที่จะยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอาจเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัทในอนาคตได้ นอกจากนี้ ภาวะราคาน้ำมันสูงที่ต่อเนื่องกำลังส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งอาจมีผลต่อเนื่องไปถึงอุปสงค์ของแผ่นเอ็มดีเอฟและแผ่นปาร์ติเกิ้ลทั้งในประเทศและในภูมิภาค ในขณะที่การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของอุปทานของแผ่นปาร์ติเกิ้ลคาดว่าจะทำให้ราคาขายลดต่ำลง
ปัจจัยหลักที่จะเป็นตัวเพิ่มรายได้ให้ VNG ในปี 2548 จะมาจากการที่กำลังการผลิตของแผ่นปาร์ติเกิ้ลในส่วนขยายมีการเดินเครื่องตลอดทั้งปี รวมถึงรายได้ส่วนที่มาจากผลิตภัณฑ์ขั้นต่อเนื่อง จากการที่คาดว่าจะสามารถจำหน่ายแผ่นปาร์ติเกิ้ลได้จำนวนเพิ่มขึ้น การเติบโตของรายได้ในปี 2548 คาดว่าจะค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามระดับกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มีแนวโน้มค่อนข้างคงที่เนื่องจากอัตรากำไรอาจปรับตัวลดลงจากการที่ราคาขายของแผ่นปาร์ติเกิ้ลที่คาดว่าจะลดต่ำลงและต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากส่วนขยายของแผ่นเอ็มดีเอฟที่คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องได้ ณ ปลายปี 2549 จะช่วยให้ EBITDA ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2550
เนื่องจาก VNG มีแผนการลงทุนเพิ่ม ระดับหนี้สินของบริษัทคาดว่าจะสูงขึ้นในปี 2548 และ 2549 อย่างไรก็ตาม รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากส่วนขยายของแผ่นปาร์ติเกิ้ล จะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ในระดับ 2.5-2.8 เท่า และระดับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินทุนจากการดำเนินงานในระดับ 3.0-3.5เท่าในปี 2548 และ 2549 โดยหากบริษัทไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติม อัตราส่วนทั้งสองนี้คาดว่าจะลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่า และ 2.5 เท่า ตามลำดับ ในปี 2550
VNG และบริษัทย่อยในกลุ่ม เป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายแผ่นเอ็มดีเอฟและแผ่นปาร์ติเกิ้ลในประเทศ โดยมีกำลังการผลิตแผ่นเอ็มดีเอฟอยู่ที่ 270,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และแผ่นปาร์ติเกิ้ลอยู่ที่ 900,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ในปี 2547 VNG มีรายได้จากการจำหน่ายในประเทศประมาณ 48% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 52% เป็นรายได้จากการจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จำหน่ายไปยังประเทศจีน และเกาหลีใต้ VNG มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ กลุ่มตระกูลสหวัฒน์ และตระกูลเจริญนวรัตน์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 58% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ท่านสามารถหาได้จาก www.fitchratings.com รวมทั้ง อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต และนโยบายที่เกี่ยวข้องซึ่งได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวไว้ตลอดเวลา เอกสารนี้จะปรากฎอยู่บนเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน
ติดต่อ
อรวรรณ การุณกรสกุล กรรมการ ภาคอุตสาหกรรม +662 655 4766
วสันต์ ผลเจริญ ผู้ช่วยกรรมการ ภาคอุตสาหกรรม +662 655 4763
Vincent Milton กรรมการผู้จัดการ +662 655 4759--จบ--