กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
ปริมาณการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ในช่วงครึ่งแรกของปีเฉลี่ยกว่า 60,000 ล้านบาทต่อวัน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากปัจจัยอัตราผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้ที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ในตลาดแรกปริมาณการออกพันธบัตรรัฐบาลเท่ากับ 300,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากช่วงเดียวกันชองปีก่อน สำหรับหุ้นกู้ภาคเอกชนแม้มูลค่าการออกจะลดลง แต่จำนวนผู้ออกสูงถึง 43 บริษัท ชี้ให้เห็นถึงความสนใจในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ของผู้ออกขนาดกลางและขนาดเล็ก
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเปิดเผยถึงสรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ว่าปริมาณการออกตราสารหนี้ใหม่ที่ขึ้นทะเบียนกับ ThaiBMA ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 มีมูลค่ารวม 5.07 ล้านล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 6 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม พันธบัตรรัฐบาลยังคงมีปริมาณการออกใหม่ (รวมพันธบัตรออมทรัพย์) เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 ประมาณร้อยละ 25 เนื่องจากภาครัฐยังคงต้องการระดมทุนเพื่อใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าการออกรวมเท่ากับ 300,230 ล้านบาท
ส่วนภาคเอกชนมีการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้รวม 156,848 ล้านบาท ลดลงประมาณร้อยละ 27 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นปีที่มีการออกหุ้นกู้สูงเป็นประวัติการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนบริษัทผู้ออกมีมากถึง 43 บริษัทโดยเป็นบริษัทขนาดกลางจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าการออกหุ้นกู้สูงสุดได้แก่กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ ร้อยละ 36 รองลงมาได้แก่ กลุ่มสถาบันการเงิน ร้อยละ 14 และ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 13 โดยหุ้นกู้ที่ออกใหม่กว่าร้อยละ 83 เป็นการเสนอขายแบบจำกัดเฉพาะกลุ่มสถาบัน (Private Placement : PP)
สำหรับตลาดรองการซื้อขายตราสารหนี้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 มีมูลค่าเท่ากับ 7.43 ล้านล้านบาทหรือเฉลี่ย 63,000 ล้านบาทต่อวัน โดยยังคงเน้นไปที่ตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ อายุต่ำกว่า 1 ปี คิดเป็นร้อยละ 85 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด และหากพิจารณาเฉพาะการซื้อขายตราสารหนี้ที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป พบว่า มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 10,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จาก 9,703 ล้านบาทต่อวันในครึ่งแรกของปี 2552
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงอย่างต่อเนื่องจาก ณ สิ้นปี 2552 โดยเฉพาะในพันธบัตรรุ่น 5 ปีขึ้นไป โดย อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้อายุ 1 เดือน ถึง 1 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 5 ถึง 9 bp อายุ 2 ถึง 4 ปี ปรับตัวลดลง -3 ถึง -45 bp อายุ 5 ถึง 10 ปี ปรับตัวลดลง -62 ถึง -105 bp อายุ 10 ปีขึ้นไป ปรับตัวลดลงในช่วง -82 ถึง -107 bp