กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--จีทีเอช
โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับหนังผี คนกลาง และคนกอง สู่การกำกับหนังรักเป็นครั้งแรก “กวน มึน โฮ” ภาพยนตร์แนว โฮแมนติก กวนมิดี้ ค่าย จีทีเอช ที่จะนำพาเรื่องราวของคน 2 คนมาเจอกัน และยังเป็นสัญญาณเริ่มต้นของความผูกพันที่ไม่อาจจำกัดความ ของหนุ่มสุดกวน (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) และสาวหน้ามึน (หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ) ชาย-หญิงแปลกหน้า คนสองคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่รู้จักกัน ไม่รู้ชื่อ แต่รู้ใจกันที่สุด เขาและเธอคนสองคนที่ไม่รู้จักกันแต่รักกัน
**ที่มาของหนังเรื่องนี้ แรงบันดาลใจกับการทำหนังรักเรื่องแรกของโต้ง
“จริงๆอยากเปลี่ยนแนวมาสักพักแล้วครับ เราทำหนังผีมาตั้งแต่ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด จนกระทั่งได้มาทำตอนสั้นๆ ใน คนกลาง สี่แพร่ง และ ตอนคนกอง ใน 5แพร่ง ผมรู้สึกเริ่มเบื่อหนังผี แต่มาติดใจหนังที่สอดแทรกอารมณ์ขัน พอดีช่วงนั้นได้ไปอ่านหนังสือ “สองเงาในเกาหลี” ของทรงกลด บางยี่ขัน เลยได้แรงบันดาลใจ มาพัฒนาบท และคิดตัวละครขึ้นใหม่ มาทำหนัง กวน มึน โฮ ซึ่งไม่ได้มีแค่ความโรแมนติกเท่านั้น แต่ผมได้ใส่สไตล์ของตัวเองลงไป คือความกวนลงไปด้วย”
** หนังเรื่องนี้ ได้เต๋อ มาช่วยเขียนบทด้วยเป็นอย่างไรบ้าง
“เต๋อเป็นคนที่มีความสามารถอยู่ในตัวเยอะมาก ด้านการแสดงเต๋อเล่นมาแล้วหลายเรื่องก็จริง ทั้ง ปิดเทอมใหญ่..หัวใจว้าวุ่น, โปรแกรมหน้า..วิญญาณอาฆาต แต่ยังไม่มีเรื่องไหน ที่เฮ้ย!! นี่ล่ะตัวมันจริงๆ แต่ผมเห็นแววบางอย่างในตัวเต๋อที่ทำให้รู้สึกว่าเต๋อทำได้ และพอได้มาร่วมเขียนบทด้วยกันจริงๆ เต๋อมุ่งมั่นมาก ไปหาข้อมูลเรื่องราวความรัก ทุ่มเท อดหลับ อดนอน หามรุ่ง หามค่ำ เต๋อกดดันมาก เพราะต้องเขียนบทให้ตัวเองเล่น แต่เต๋อทำได้ดีครับ”
** คาแร็กเตอร์ พระเอก เต๋อในเรื่องเป็นอย่างไร
“พระเอกในเรื่องจะมีคาแร็กเตอร์ จอมกวน ใจกล้า หน้าด้าน ปัญญาอ่อน ผมว่าไม่ซ้ำทางพระเอกคนไหนแน่ๆ เต๋อมีคาแร็กเตอร์ประจำตัวที่ไม่ซ้ำทาง เต๋อจะกวนในแบบฉบับของมัน ที่ทำแล้วมีเสน่ห์ บางทีก็ดูเท่เหมาะกับสไตล์หนังของผม ที่ไม่ใช่แค่หนังรักโรแมนติก แต่มันจะมีอารมณ์ขัน และความกวนผสมผสานอยู่ในนั้น เป็นแนวที่เราให้คำจำกัดความมันว่าแนว “โฮแมนติก กวนมิดี้”
** นางเอกทำไมถึงเลือกหนูนา — หนึ่งธิดา โสภณ
“สำหรับนางเอกนี้ยอมรับว่าหายากสุดๆครับ เราได้ทำการคัดเลือกร่วมกับโครงการ ลักส์ปั้นดาว คัดเลือกจากสาวสวยกว่า 1,500 คน สุดท้ายมาลงตัวที่หนูนา-หนึ่งธิดา เพราะโจทย์เราไม่ได้ต้องการนางเอกที่สวยมาก เพราะสวยมากอาจมีเสน่ห์ไม่พอสำหรับบทนี้ และหนูนามีความกล้า ความบ้า และเล่นดราม่าได้เข้ากับบทมากๆ คะแนนดราม่าเอาไปเต็มๆ เลยครับ หนูนาเล่นดีมาก และเป็นเคมีที่ลงตัว ระหว่าง เต๋อ พระเอกจอมกวน กับ หนูนา นางเอกสาวหน้ามึน”
**โต้งคิดว่าหนังเรื่องนี้มีเสน่ห์ น่าสนใจ ตรงไหน
“ด้วยเรื่องราวมากกว่า ที่ให้คนสองคน ที่บังเอิญต้องเดินทางไปด้วยกัน สุดท้ายเค้าคิดว่า เราตกลงแบบฮาๆ สนุกๆ ว่าเราไม่รู้จักชื่อกันดีกว่า เพราะเขาารู้สึกว่า เวลาที่เราไปอยู่เมืองนอก เวลาเราไปอยู่ในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักเราเลย ไม่มีใครฟังเราออก เราทำอะไรก็ได้ จะกล้าทำอะไรทุเรศ ทุรังแค่ไหน ก็ไม่ต้องแคร์สายตา นอกจากคนเกาหลีไม่รู้จักเราแล้ว เราก็ไม่ต้องรู้จักกันด้วยจะได้กล้าพูด กล้าเล่าทุกอย่าง ผมว่ามันเป็นความพิเศษที่ผมรู้สึกว่าไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำมาก่อน”
**โต้ง-เต๋อ —แอ้ม ช่วยกันเขียนบท นานมั้ยกว่าจะลงตัว
“จริงๆ ผมเริ่มเขียน ตั้งแต่ตอนทำ 5 แพร่ง พอปิดกล้อง 5 แพร่ง ปุ๊บ ผมบินไปเกาหลีก่อนเลย ไปกับน้องผู้ช่วย เพื่อไปหาแรงบันดาลใจ หลังจากนั้นไปอีก 3 รอบก่อนถ่าย เอาทีมเขียนบทไป แอ้มกับเต๋อ ไปอีกรอบ เรียกว่าเราเต็มที่มากครับ”
**คาแร็กเตอร์ พระเอก กับ นางเอก เป็นอย่างไร
“คาแร็คเตอร์ของพระเอกจะกวนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงคลั่งไคล้กระแสเกาหลี จนเกิดการแอนตี้ความเป็นเกาหลี ขณะที่นางเอก เป็นสาวหน้ามึน คลั่งไคล้ทุกอย่างที่เป็นเกาหลี ซีรี่ส์เกาหลี อาหารเกาหลี นางเอกจะเข้าใจว่าเสน่ห์ของเกาหลีคืออะไร คนสองคนจะเดินทางและถกเถียงด้วยเรื่องเหล่านี้กัน จนสุดท้ายมันจะประทับใจอะไรบางอย่างในเกาหลี และในกันและกัน”
** คัดเลือกทุกอย่างลงตัว บินไปถ่ายทำ ต้องมีการเตรียมการอย่างไรบ้าง
“ตั้งแต่ทำหนังมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หนักที่สุด และกังวลที่สุด 1.บทแก้แล้วแก้อีก เป็น 20 ร่าง เพราะอยากให้มันดีที่สุด มันยากตรงที่หนังสยองขวัญภาพในหัวจะชัดมาก ภาษาหนังเป๊ะๆทางจะไปได้ไม่เยอะ แต่หนังเรื่องนี้จะมีการคุยกันเยอะมาก ในฉากเดียว สามารถกำกับได้เป็นร้อยแบบ จะพูดด้วยอารมณ์ไหน ความกวนแค่ไหน มันค่อนข้างยาก การแสดงของ 2 คนนี้ ตีความได้หลายทางมาก ผมเลยค่อนข้างหนักใจ พอไปเวิร์คช้อป ปล่อยให้น้องอิมโพร์ไวส์บ้าง บางอย่างตามไดแร็กชั่น ผมว่าเสน่ห์ของการถ่ายทำในสถานที่จริง มักจะเกิดจริงๆ“
** การทำงานหนักมั้ย
“โหดมาก ข้อแรกหนักสุด คืออากาศ มันเป็นอากาศที่ 0 องศา เราถ่ายข้างนอก โลเคชั่นไม่ใช้ในร่มหรือบ้าน เพราะเป็นเรื่องที่ทำอะไรสุดทาง มีฉากนอนกลางถนน ตอนถ่ายรู้สึกว่า ทำไมเราต้องเขียนบทมาอย่างนี้ด้วย โหดมาก นักแสดงเล่นจะตายเอา เล่นๆอยู่ น้ำมูกไหล น้ำตาไหล เป็นหวัด จมูกแดง ผมใส่เสื้อไม่รู้กี่ชั้น แต่นักแสดงใส่แบบไม่หนา เอาฮอตแพ็คไปแปะ และถ่ายคิว 24 ชั่วโมงเยอะมาก เพราะเวลามีจำกัด และเต๋อยังต้องบินไปๆกลับๆเพื่อมาถ่ายโฆษณาซึ่งถือว่าโหดมากสำหรับเต๋อ”
**มีฉากไหนที่ประทับใจบ้าง
“ที่ชอบสุดคือ ฉากที่เข้าไปอยู่ในบ้านคนเกาหลีจริงๆ หนังไทยไปเมืองนอก ถ่ายวิว สถานที่ แต่นี่ไปอยู่บ้านคนเกาหลีเลย ฉากนั้นผมประทับใจมาก เพราะตัวบ้านสวยมาก ตัวแสดงสมทบคนเกาหลีเล่นดีมากทุกคน ผมอยากให้ตัวละครสมทบมีสีสัน มีมุก มีเสน่ห์ ให้พระเอกเรียนรู้ว่าความเป็นเกาหลีจริงๆ คืออะไร ไม่ใช่แค่ตามรอยสถานที่ละคร เคป๊อบ มันมีอะไรมากกว่านั้น”
**สองคนนี้เข้าฉากด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง
“ดีมาก เป็นเคมีที่น่าสนใจ ตอนแรกมีปรับกันบ้าง แต่โชคดีการที่เราได้ถายฉากโรแมนติกที่สุดไปแล้ว มันเหมือนการเปิดกำแพงอะไรบางอย่าง ทั้งคู่เลยเล่นทุกฉากจากนั้นก็เข้าขากันเป็นอย่างดี”
**ประทับใจอะไรบ้าง
“ผมประทับใจมาก 1.เวลาการเตรียมงานน้อย เพราะเราเลื่อนไปเลื่อนมาเยอะ แต่สุดท้ายโลเคชั่นที่ได้มา เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ สวยมาก ตอนแรกคิดว่าไม่มีทางหาทันหรอก แต่ปรากฏว่าทุกอย่างเป๊ะหมด อย่างที่บทต้องการ อะเมซิ่งมาก“
**ประทับใจอะไรในตัวเต๋อ และหนูนา
“ผมว่าเค้าเป็นคนกล้าปล่อยของ กล้าพูดอะไรที่นอกบทแล้วเวิร์ค ดูกวนๆ ส่วนหนูนา สิ่งที่ผมประทับใจคือ ความสามารถทางด้านดราม่า ผมว่าเด็กคนนี้ไกลมาก เก่งมากจริงๆ เอาดีทางดราม่าจะเกิด แต่เต๋อบทนี้เป็นเขาที่สุดแล้ว ไม่มีใครเล่นได้ นอกจากเขา”
**ให้คำจำกัดความหนังเรื่องนี้
“กวน มึน โฮ เป็นหนังแนว โฮแมนติก กวนมิดี้ จะซึ้งแบบโรแมนติก แต่ก็มีความกวนบางอย่าง จีทีเอช ขึ้นชื่อด้านหนังรัก ผมมาทำก็ค่อนข้างกดดันอยู่แล้ว เพราะพี่ๆ 365 ทำไว้ดีมาก แต่ขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าลายเซ็นต์ของผมไม่เหมือนคนอื่น เลยคิดว่าเราต้องทำให้ต่าง ทำให้สุดทาง คือมันจะเป็นหนังที่มีความกวนและแอบโรแมนติก ในวินาทีที่ตลกที่สุด ผมอยากให้โรแมนติกด้วย หรือในวินาทีที่โรแมนติก ดราม่าสุดๆ ผมอยากให้ขำมาด้วย มันท้าทายมากครับ”
**สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้คืออะไร
“ผมว่าด้วยไดเรคชั่นของเรื่องนี้แหละยากที่สุด มันไม่ใช่โรแมนติกคอมเมดี้ธรรมดา มันต้องกล้าที่จะไปสุดทาง กล้าที่จะปัญญาอ่อนด้วยในบางที ขณะเดียวกันสุดท้ายมันต้องลงเอยด้วยโรแมนติก ไม่ใช่หนังมุกตลกเยอะ อย่างคนกอง มันโดนทรีตว่าเป็นตลกล้อเลียน พอไปสุดทาง ความยากตอนนั้นคือผสมกับความสยองขวัญ ให้มันได้รสชาติกลมกล่อม ซึ่งอันนั้นผมคิดว่าผมอยู่มือ ทดลองมาแล้วจากคนกลาง พอคนกองมันมากขึ้น ก็เลยช่วยได้ แต่อันนี้เป็นของใหม่ มันมีความจริงจัง มีความโรแมนติกอยู่ ซึ่งดีกรีไหนมันจะพอดี ไม่ออกทะเล้นซะจนฮาอย่างเดียว ผมรู้สึกว่าตอนท้าย ต้องกวนมึนโฮ ต้องมีโฮตอนท้ายให้ได้ และเป็นความโฮที่มันต้องพอดี มันยากที่สุดตรงนี้ ตอนแรกมันเหมือนกับว่าเป็นหนังแอนตี้โรแมนติก แต่สุดท้ายไม่ใช่แค่แอนตี้ แต่ทำอย่างไรให้ได้รสชาติเหล่านั้นด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป เราเป็นหนัง โรแมนติกในวิธีที่เราด่ามันตลอดเวลา แต่สุดท้ายเราโรแมนติกอยู่ เราทำได้มั้ย อันนี้ล่ะเป็นสิ่งที่ท้าท้ายผมมาก”
**สิ่งที่ลำบากที่สุด
“ผมว่าช่วงการหานางเอกยากมาก เรื่องนี้โหด คือเขียนบทยากมาก กว่าจะลงตัว ทำกันหามรุ่งหามค่ำ ทำถึงตีสาม ตีสี่ เก้าโมงตื่นมาเขียนต่อ เหมือนค่ายนรกเลย ทำเป็นอาทิตย์เต็มๆ ก่อนหน้านั้นเขียนมาหลายเดือนมากๆ แล้วด้วย มีไปเขียนที่เกาหลี ที่เชียงใหม่ ทุ่มเทจริงๆ“
**ฝากถึงหนังเรื่องนี้
“เป็นหนังที่ผมและทีมงานทุ่มเทมากๆ เป็นหนังที่ท้าทายที่สุดในชีวิตตั้งแต่ทำหนังมา ได้ทำอะไรใหม่ๆ เยอะมาก ทีมงานทุ่มกับมันมากๆ เพราะอยากให้เป็นรสชาติที่ต่างจากหนังรักจีทีเอชทั่วไป ซึ่งจะแตกต่างมากน้อยแค่ไหน ก็อยากให้ไปดูกันนะครับ 19 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์“
“กวน มึน โฮ” หนังโฮแมนติก กวนมิดี้ 19 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์