กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--สสวท.
สสวท. และบริษัท เอดู พาร์ค จำกัด ได้จัดการประชุมชี้แจงโครงการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านคณิตศาสตร์ของเด็กไทยให้ตรงจุด สืบเนื่องมาจากผลการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) ด้านการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และผลการวิจัยโครงการศึกษาแนวโน้มการจัดการศึกษาด้านคณิตศาสตร์นานาชาติ (TIMSS) เด็กไทยทำได้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมวินเซอร์ สวีทส์ สุขุมวิท 20 กรุงเทพฯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (สสวท.) และบริษัทเอดู พาร์ค จำกัด ได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงโครงการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา TME (Thailand Mathematics Evaluation) กับศึกษานิเทศก์ 76 จังหวัดทั่วประเทศกว่า 170 ท่าน
โดย ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการ สสวท. ได้กล่าวว่า เด็กในวัยประถมศึกษาเป็นวัยที่เหมาะกับการพัฒนาความรู้ให้เด็กสามารถใช้ข้อมูลคิดวิเคราะห์ หาเหตุผล ทั้งวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ในการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) ในปี 2007 (ผลล่าสุด) และผลการวิจัยโครงการศึกษาแนวโน้มการจัดการศึกษาคณิตศาสตร์นานาชาติ (TIMSS) นักเรียนไทยทำได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในขณะที่ประเทศเกาหลีอยู่ในอันดับที่ 2 ส่วนการประเมินผลความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ประเทศเกาหลีได้อันดับ 1 ซึ่งที่ประเทศเกาหลีนั้นมีองค์กร KEREI (Korean Education Reports and Evaluation Institute) ซึ่งเป็นองค์กรกลางที่ไม่แสวงหาผลกำไร ทำการประเมินผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาที่มีมาตรฐานและดำเนินการประเมินมานานกว่า 10 ปี โดยข้อสอบนั้นจะครอบคลุมการวัดทักษะในหลายด้าน ซึ่งจากผลการสอบจะสามารถวิเคราะห์ได้ชัดเจนว่าเด็กแต่ละคนนั้นมีจุดอ่อนด้านไหนบ้าง และด้วยโลกในยุคปัจจุบันที่ต้องมีการพัฒนาอยู่อย่างสม่ำเสมอ สสวท.จึงได้ร่วมมือกับ KEREI (Korean Education Reports and Evaluation Institute) ดำเนินการจัดสอบในครั้งนี้
อาจารย์ชมัยพร ตั้งตน รักษาการหัวหน้าคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. กล่าวว่า การประเมินในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ทราบถึงจุดอ่อน จุดแข็งในตัวของนักเรียนแต่ละคน เนื่องจากผลการประเมินต่างๆ ในระดับนานาชาติที่ผ่านมาเป็นตัวบ่งชี้ว่านักเรียนไทยนั้นยังต้องการการส่งเสริมจุดแข็ง และปรับปรุงพัฒนาจุดอ่อน และโลกในยุคปัจจุบันนี้การจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้ จะต้องเริ่มจากการพัฒนาการศึกษาของเยาวชนในประเทศนั้นๆ ให้มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับแรก
ด้าน อาจารย์ภูดิท พรรักษมณี ประธานบริษัทเอดู พาร์ค จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการสอนนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์กว่า 10 ปี พบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ยังมีความรู้ในเชิงลึกที่ไม่มากพอจะทำการวิเคราะห์โจทย์คณิตศาสตร์ ซึ่งนับเป็นปัญหาที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง แต่ในขณะที่ประเทศเกาหลีสามารถพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วจนสามารถก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจอันดับที่ 13 ของโลก สาเหตุก็เนื่องมาจากประเทศเกาหลีมีการผลักดันและพัฒนาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทเอดู พาร์ค จำกัด ซึ่งได้เซ็นความร่วมมือกับ KEREI อันเป็นองค์กรที่เรียกได้ว่าเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของประเทศเกาหลี ประสานให้เกิดความร่วมมือกันระหว่าง สสวท และ KEREI โดยจะสนับสนุนข้อสอบ และระบบการประเมินผล วิเคราะห์ และรายงานผล ที่สามารถวิเคราะห์ภาพรวมได้ตั้งแต่ในระดับโรงเรียน ระดับเขตการศึกษา ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ เพื่อสามารถพัฒนาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ทั้งตัวผู้สอนและผู้เรียน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และมาตรฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป