กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
“บันยันทรี สมุย” เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา ท่ามกลางการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งแขกที่เข้าพักจะได้สัมผัสกับการบริการที่ตอบสนองทุกความต้องการเฉพาะบุคคล กับห้องพักสไตล์พูลวิลล่าสุดทันสมัยและกว้างขวาง พร้อมสรรพด้วยสปามาตรฐานระดับรางวัล ภายใต้แบรนด์ระดับคุณภาพอย่าง บันยันทรี โดยโรงแรมฯ จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมตั้งเป้ายอดพักในปีนี้จะพุ่งสูงถึง 60% ของจำนวนห้องพักทั้งหมดได้
มร. เฟรดดริค อะรูล ผู้จัดการทั่วไป บันยันทรี สมุย กล่าวว่า บันยันทรี สมุย คือ ส่วนผสมที่ลงตัวของสถานที่พักผ่อนในเขตร้อน ที่เพียบพร้อมด้วยสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ในวิลล่าแต่ละหลัง และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของรีสอร์ทแห่งนี้ก็คือ เดอะ เรนฟอเรสท์ ศูนย์วารีบำบัดครบวงจรเพียงแห่งเดียวบนเกาะสมุย ซึ่งมีการนำศาสตร์การบำบัดและผ่อนคลายผิวด้วยน้ำ หรือ ไฮดรอเธอราพี (Hydrotherapy) มาใช้
บันยันทรี สมุย ตั้งอยู่บนเชิงเขาริมหาดละไม ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของผืนน้ำทะเลสีฟ้าใสของอ่าวไทยและยังอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติสมุยเพียง 30 นาทีเท่านั้น
“จากฝีมือการออกแบบของอาคิเทรฟ (Architrave) ซึ่งเป็นทีมสถาปนิกในเครือของบันยันทรีโดยเฉพาะ ทำให้ห้องพักสไตล์พูลวิลล่า ขนาด 130-316 ตารางเมตร ทั้ง 78 ห้อง มอบความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวสำหรับแขกผู้มีระดับ โดยภายในวิลล่าแต่ละหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ท่านสามารถเข้าถึงได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน เพื่อวันหยุดพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ สระว่ายน้ำส่วนตัวสำหรับวิลล่าแต่ละหลังขนาด 35-39 ตารางเมตร ยังถือได้ว่าเป็นสระว่ายน้ำในพูลวิลล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะสมุยอีกด้วย ทั้งนี้ จุดเด่นของการออกแบบอีกอย่างหนึ่งก็คือการนำเสารูปทรงสี่เหลี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของวัดในสมัยก่อนมาใช้ และการนำต้นมะพร้าวและกะลามะพร้าวมาใช้ในการตกแต่ง เพื่อให้แขกที่มาพักรู้สึกถึงกลิ่นอายแบบดั้งเดิมของเกาะสมุย ซึ่งมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวพันกับมะพร้าว นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว การตกแต่งโดยใช้สีเอิร์ธโทน และการนำเอางานศิลปะของท้องถิ่นมาใช้ ยิ่งทำให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองบนสวรรค์เขตร้อนอย่างเกาะสมุย” มร. อะรูล กล่าวต่อ
แขกผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ ไม่ว่าจะเลือกพักผ่อนกับห้องพักสไตล์ บีชฟร้อนท์ พูลวิลล่า (Beachfront Pool Villa) ที่มีสระว่ายน้ำสำหรับครอบครัว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหาดทรายขาว ห้องพักแบบ สปา พูลวิลล่า (Spa Pool Villa) ที่มีห้องทำสปาส่วนตัว หรือห้องพักแบบ รอยัล บันยัน พูลวิลล่า (Royal Banyan Pool Villa) ซึ่งตั้งอยู่ บริเวณสันเขาที่สูงที่สุดของรีสอร์ท อันเป็นสถานที่ที่แขกผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำกับทัศนีภาพอันงดงามทั้งในยาม พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ ขณะที่ห้องแบบ แซงทูแอรี่ พูลวิลล่า (Sanctuary Pool Villa) เพียงหลังเดียวของรีสอร์ท คือ ห้องพักที่ประกอบด้วยพูล วิลล่า จำนวนสองหลัง ด้วยพื้นที่ใช้สอยรวม 316 ตารางเมตร ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแขกที่มาด้วยกันสองครอบครัว
นายคมสัน เศวตาสัย ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บันยันทรี สมุย เผยว่า “บันยันทรี สมุย” ได้จัดโปรโมชั่น “อันบีทเอเบิล ไทยแลนด์ (Unbeatable Thailand)” เพื่อนำเสนอราคาพิเศษช่วงเปิดตัว เริ่มต้นตั้งแต่ 21,610 บาท (รวมภาษีและค่าบริการแล้ว) ต่อคืน รวมอาหารเช้าสำหรับสองท่าน สำหรับห้องพักสไตล์การ์เด้น พูลวิลล่า โดยมีเงื่อนไขต้องพักตั้งแต่สองคืนขึ้นไปเพื่อรับสิทธิพิเศษนี้ นอกจากนั้น แขกที่เข้าพักยังจะได้รับคะแนนสะสมพิเศษเป็นจำนวนเท่ากับราคาของค่าห้องคืนที่สอง (ไม่ต่ำกว่า 18,200 บาท ไม่รวมภาษีและค่าบริการ) เพื่อใช้จ่ายภายในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อหรู การทำสปา ทรีทเมนต์ หรือการจับจ่ายสินค้าภายในโรงแรม ซึ่งสามารถจองโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 กันยายน 2553 และเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2553 ทั้งนี้ ทางบันยันทรี สมุย เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยโปรโมชั่นที่พิเศษสุดและจุดเด่นมากมายของรีสอร์ทจะผลักดันให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมสามารถแตะ 60% ของจำนวนห้องพักทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ได้
นายคมสัน กล่าวต่อว่า นอกจากพูลวิลล่าที่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการพักผ่อนอันเหนือระดับแล้ว การรับประทานอาหารบนเกาะสมุยจะกลายเป็นประสบการณ์อันแสนพิเศษกับห้องอาหารอันโดดเด่นทั้งสามห้องของโรงแรมบันยันทรีด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารริมหาด แซนด์ส (Sands) หรือห้องอาหารอีกสองห้องบนเนินผาอย่าง ดิ เอ็ดจ์ (The Edge) และ แซฟฟรอน (Saffron) โดยเฉพาะ “แซฟฟรอน” ห้องอาหารหลักในเครือของโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของรีสอร์ท ประกอบไปด้วยห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัวขนาด 10 ที่ ถึงสามห้อง และยังมีห้องเก็บไวน์ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการจัดงานอันมีสไตล์ ซึ่งอาหารของที่นี่เป็นเมนูเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นไปที่รสชาติที่เข้มข้นของอาหารไทยแบบดั้งเดิม ส่วนห้องอาหาร “ดิ เอ็ดจ์” เสิร์ฟอาหารทั้งเมนูเอเชีย และเมนูนานาชาติ เคล้ากับทิวทัศน์อันงดงามของผืนอ่าว ที่จะมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับอาหารมื้อนี้ ขณะที่ ห้องอาหารริมหาด “แซนด์ส” คือ ที่ที่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับแสงแดดและเกลียวคลื่น ซึ่งที่นี่แขกผู้มาพักจะได้ลิ้มรสอาหารทะเลบนเตาถ่าน และเมนูหลากหลายของสเต็ค และพิซซ่าในเตาไม้ นอกจากนี้ “บันยันทรี สมุย” ยังพร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สุดแสนโรแมนติกกับ ดินเนอร์ ออฟ เดอะ เลอเจนด์: สมุย เอพิโซด (Dinner of the Legend: Samui Episode) ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับคู่รักเพียงหนึ่งคู่ต่อคืน บนผืนทรายนุ่มละเอียด ที่คู่รักจะได้ดื่มด่ำกับอาหารทะเลเลิศรสใต้แสงเทียนและแสงดาว เคล้าเสียงดนตรี
นายคมสัน เปิดเผยถึงสปาของบันยันทรี สมุยว่า “บันยันทรี สปา (Banyan Tree Spa) แห่งแรกบนเกาะสมุย และ เดอะ เรนฟอเรสท์ (The Rainforest) ศูนย์วารีบำบัดครบวงจรที่นำศาสตร์ไฮดรอเธอราพีมาใช้ โดย “เดอะ เรนฟอเรสท์” ได้รับการออกแบบให้เป็นเสมือนไฮโดรเทอร์มอล เซอร์กิต ซึ่งประกอบไปด้วยห้องเคบินที่ใช้แรงดันของกระแสน้ำร้อน และห้องเคบินที่ใช้กระแสน้ำเย็น เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การทำสปาร่วมกัน เมื่อเดินไปตามทางเดินของเดอะ เรนฟอร์เรสท์ (The Rainforest Trail) ผู้มาใช้บริการจะได้พบกับประสบการณ์การทำสปาด้วยกระแสน้ำที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางเดินผ่านม่านน้ำฝน (Rain Walk), ห้องสตีม (Steam), สปาโคลนแบบชาวตุรกี หรือ ราซุล (Rasul), เซาว์น่า (Sauna), ห้องอาบน้ำแบบฝักบัวจากถังไม้ (Bucket Drench Shower), การประคบผิวหลังซาวน่าด้วยน้ำแข็ง (Ice Fountain), ห้องอาบฝักบัวแบบสวิส (Swiss Shower) และสระน้ำอุ่นไวทัลลิตี้ พูล (Vitality Pool) ที่คงอุณหภูมิไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ผู้มาใช้บริการของสปายังจะได้สัมผัสกับคอร์สการทำสปาอันเป็นเอกลักษณ์ของบันยันทรี โดยสปาเทอราพีส ระดับมืออาชีพ ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจากสถาบันสปาของบันยันทรี ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้มาใช้บริการสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำสปาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสูตรต้นตำรับการทำสปาแบบเอเชียนี้ได้ ภายในห้องทำสปาที่โอ่อ่ากว้างขวางซึ่งมองเห็นวิวของหาดทรายขาวได้ทั้ง 10 ห้อง”
ต้องขอบคุณหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ผืนน้ำทะเลสีครามดั่งอัญมณี ผืนแผ่นดินที่ลดหลั่นไปตามภูเขา และ ร่มเงาของต้นมะพร้าวที่อยู่คู่กับเกาะสมุย จนทำให้ที่นี่กลายเป็นสวรรค์เขตร้อนที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเกาะสมุยตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฏ์ธานีและเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศ ตั้งตระหง่านอยู่ในผืนน้ำใสของทะเลอ่าวไทย โดยเกาะสมุยซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าเกาะมะพร้าวนี้ ที่แม้สามารถเดินทางไปได้สะดวกโดยทางเครื่องบินจากเมืองใหญ่ๆ ทั่วเอเชีย แต่ก็ยังคงเสน่ห์และวิถีชีวิตของหมู่บ้านเล็กๆ ไว้เช่นกัน
แม้ “บันยันทรี สมุย” จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากหาดละไมที่ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะ ทว่ารีสอร์ทแห่งนี้ก็มีหาดเล็กๆ เป็นของตัวเอง นอกจากนั้น “บันยันทรี สมุย” ยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงอย่าง หินตาหินยาย วัดละไม ที่มีศูนย์วัฒนธรรมละไม ที่จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวเกาะสมุยในอดีต และงานศิลปะพื้นเมืองต่างๆ เช่นงานทองเหลือง และเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ รวมไปถึงย่านธุรกิจที่มีสีสันของหาดละไม
สำรองห้องพัก กรุณาติดต่อ บันยันทรี สมุย โทร: 077 915 333
อีเมล์ reservations-samui@banyantree.com หรือ เว็บไซต์ www.banyantree.com
เกี่ยวกับบันยันทรี โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท
บันยันทรี คือบริษัทผู้บริหารกลุ่มธุรกิจประเภทบูติค รีสอร์ท โรงแรม ที่พักอาศัย และสปา ระดับนานาชาติ บันยันทรี นำเสนอส่วนผสมที่ลงตัวของความโรแมนติก และการท่องเที่ยวอย่างมีสำนึกรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งปรัชญาในการบริหารงานโรงแรม รีสอร์ท ที่พักอาศัย สปา ร้านค้ากึ่งแกลเลอรี่ และคลับต่างๆ ในเครือของบริษัท นั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการฟื้นฟูความมีชีวิตชีวาของร่างกาย จิจใจ และจิตวิญญาณของลูกค้า (Sanctuary for the Senses) อังสนา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (Angsana Hotels and Resorts) เป็นอีกหนึ่งกลุ่มโรงแรมหรูมีระดับในเครือบันยันทรี ซึ่งประกอบไปด้วยสถานที่พักผ่อนสไตล์ร่วมสมัย ที่มีทั้งความเก๋ไก๋ และการใส่ใจในสิ่งแวดล้อม โรงแรม รีสอร์ท ที่พักอาศัย สปา และร้านค้ากึ่งแกลเลอรี่ ในเครืออังสนา มีทั้งที่ตั้งอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และทำเลทองอันเต็มไปด้วยสีสันของเมืองใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและวิถีของชุมชนในท้องถิ่นนั้นๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ต้องหทัย สุดดี/ รุ่งนภา ชาญวิเศษ
เวเบอร์ แชนด์วิค (ประเทศไทย)
โทร: 02-343-6000 ต่อ 174, 061
อีเมล์: tonghathai@webershandwick.com; rungnapa@webershandwick.com