กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แสะสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ ยกระดับการแข่งขันแผนธุรกิจสู่ระดับสากล จัดแข่งขัน mai Bangkok Business Challenge? @ Sasin 2007 ค้นหามุมมองใหม่ทางธุรกิจโดยคนรุ่นใหม่ได้ 16 ทีมผ่านเข้ารอบอย่างเข้มข้น จากทั้งหมด 52 ทีม ซึ่งเป็นทีมจากต่างประเทศถึง 31 ทีม มากเป็นประวัติการณ์ของการจัดแข่งขัน
ศาสตราจารย์เติมศักดิ์ กฤษณามระ ผู้อำนวยการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศศินทร์ฯ ได้ร่วมกับองค์กรต่างๆ จัดการแข่งขัน ฺBangkok Business Challenge? ซึ่งเป็นการประกวดแผนธุรกิจที่ใช้ภาษาอังกฤษในการแข่งขัน มาตั้งแต่ปี 2545 โดยผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับพระราชทาน “รางวัลเกียรติคุณพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ด้วยพระบารมี การแข่งขันได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ โดยการแข่งขันในปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 มีจำนวนทีมและสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมแข่งขันมากเป็นประวัติการณ์ จากจำนวน 52 ทีมที่สมัครทั้งหมด มีทีมจากต่างประเทศ 31 ทีมจาก 8 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ จึงนับเป็นความภาคภูมิใจที่การแข่งขันแผนธุรกิจนี้มี มาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้นในปีนี้ที่ศศินทร์ฯ สถาปนาครบรอบ 25 ปีพอดี
นายวิเชฐ ตันติวานิช ประธานที่ปรึกษา ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai เข้ามาเป็นผู้ร่วม จัดการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจ mai Bangkok Business Challenge? @ Sasin 2007 ปีนี้เป็นปีแรก เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกันเจตนารมณ์ของ mai ที่ต้องการเพิ่มจำนวนธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะส่งเสริมธุรกิจที่มี ศักยภาพให้สามารถดำเนินธุรกิจได้จริง โดยมีแผนธุรกิจที่ดีเป็นใบเบิกทาง mai จะสนับสนุนด้านการให้ คำปรึกษา และการจัดหาแหล่งเงินทุน เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตเป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีความพร้อมในการ แข่งขันต่อไป
สำหรับแนวคิดหลักของการประกวดในปีนี้ คือ Break Out หรือ การค้นหามุมมองใหม่ทางธุรกิจที่แตกต่างจากแนวทางแบบเดิม ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของธุรกิจและผู้ประกอบการที่ mai มองหา ซึ่งแผนธุรกิจที่นักศึกษาส่งเข้าประกวดในครั้งนี้อยู่ในอุตสาหกรรมเซลล์ชีวภาพ ยา อาหาร ซอฟท์แวร์ และเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ mai หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ มีความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต
ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือก mai Bangkok Business Challenge? @ Sasin 2007 มีจำนวน 16 ทีม แบ่งเป็นทีมไทย 8 ทีม และทีมจากต่างประเทศ 8 ทีม ได้รับการคัดเลือกจากเกณฑ์ 5 ด้าน คือ ความกระชับในการนำเสนอบทสรุปแผนธุรกิจ โอกาสทางการตลาด สินค้าหรือบริการมีความโดดเด่นหรือมีลักษณะเฉพาะที่เลียนแบบได้ยาก ความรู้ความสามารถของทีมบริหาร และศักยภาพด้านการลงทุน
ตัวอย่างธุรกิจที่เติบโตมาจากการโครงการประกวดแผนธุรกิจ ได้แก่ Herb Club จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Alife จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ N-Slash Solution จาก Asian Institute of Technology นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทีมที่กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการเปิดตัวธุรกิจของตน ได้แก่ Ntech จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ, PharmaSilk จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, AquaSiam จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
การแข่งขันแผนธุรกิจ mai Bangkok Business Challenge? @ Sasin 2007 เป็นการแข่งขันแผนธุรกิจที่ใช้ภาษาอังกฤษในการแข่งขัน ร่วมจัดโดยตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) และ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันการจัดแข่งขันแผนธุรกิจ ฺBangkok Business Challenge? นี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 สำหรับนิสิต นักศึกษาระดับมหาบัณฑิต สาขาการบริหารธุรกิจ จากสถาบันการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้มีการพัฒนารูปแบบการแข่งขันอยู่เสมอเพื่อให้เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ โดยในการแข่งขันในปีนี้ คณะกรรมการจัดงานได้ให้อิสระทางความคิดในการเลือกแผนธุรกิจ ไม่จำกัดว่าเป็นแผนธุรกิจสำหรับธุรกิจใหม่ ธุรกิจที่เกิดจากการขยายกิจการ หรือธุรกิจที่เกิดจากการซื้อกิจการอื่นที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว
สำหรับรางวัล mai Bangkok Business Challenge? @ Sasin 2007 รวมมูลค่ารางวัลกว่า 8 แสนบาทโดยทีมที่ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเกียรติคุณพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใบประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัลมูลค่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนมหาวิทยาลัยต้นสังกัดได้รับเงินรางวัล 2,500 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง รางวัลชมเชย รางวัลชนะเลิศ 99-Second Pitch รางวัล Best Business Plan รางวัล Best Presentation และ รางวัล Best Venture Exhibit รวมมูลค่าเงินรางวัลกว่า 800,000 บาท
การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันที่ 1 — 3 มีนาคม 2550 ณ อาคารศศปาฐศาลา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทั้ง 16 ทีมจะนำเสนอแผนธุรกิจฉบับสมบูรณ์ต่อคณะกรรมการเพื่อค้นหาทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป