กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ซีพีเอฟ
นายสุปรีเบ้าสิงห์สวย ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนที่มูลนิธิฯ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมกันดำเนินการแล้วในกว่า 320 โรงเรียนนั้นสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารแก่ประชาชนในช่วงที่ไข่ไก่มีระดับราคาสูงได้ จากการนำผลผลิตไข่ไก่ของเด็กนักเรียนส่วนที่เหลือจากการนำไปใช้ปรุงอาหารกลางวันในโรงเรียน ออกจำหน่ายให้แก่ผู้ปกครองและชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงโรงเรียนในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งถือว่าโครงการนี้ได้ช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากที่สามารถช่วยให้เด็กนักเรียนกว่า 80,000 คนได้รับโปรตีนจากไข่ไก่
“เด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนจะได้รับประทานไข่ไก่จากโครงการฯ ในทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ในขณะที่แม่ไก่ไข่จะออกไข่ทุกวัน ดังนั้น ไข่ที่ออกมาในวันอื่นๆทางโรงเรียนจะนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้ปกครองและชาวบ้านในหมู่บ้านในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้ราคาขายให้ชาวบ้านจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณฟองละ2.50 บาท ถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของชาวบ้านในละแวกนั้นได้อย่างดี” นายสุปรีกล่าว และว่าทางโรงเรียนจะนำรายได้จากการขายไข่ไก่ภายในชุมชนไปจัดสรรเป็นค่าอาหารกลางวันแก่นักเรียน และก่อให้เกิดรายได้สะสมจากการเลี้ยงในแต่ละรุ่นกลายเป็นกองทุนสำหรับดำเนินการโครงการต่อไปอย่างยั่งยืน
“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน”คือ หนึ่งในโครงการที่สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยและใส่ใจของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟที่มีต่อเยาวชนไทย เป็นเวลากว่า 20 ปีที่ได้น้อมนำแนวพระดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ว่า “เยาวชนเหล่านี้ควรจะได้บริโภคอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ โดยโรงเรียนจัดให้มีการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ขึ้นภายในโรงเรียน หรือสถานที่ใกล้เคียง เพื่อให้โรงเรียนมีรายได้จากการประกอบกิจกรรมดังกล่าวและนำมาเป็นค่าอาหารกลางวันนักเรียนตลอดไป”มาดำเนินโครงการตามโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
ด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์CPF
โทร. 02-625-7343-5, 02-631-0641, 02-638-2713 E-mail : pr@cpf.co.th