ไทย-อินเดียสัมพันธ์ชื่นมื่น ตั้งเป้าเจรจา FTA เสร็จกลางปีนี้

ข่าวทั่วไป Monday April 23, 2007 11:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--ปชส.จร.
กระทรวงพาณิชย์นำคณะภาครัฐและเอกชนไทยเยือนอินเดีย คาดเจรจา FTA เสร็จเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมกระตุ้นขยายการค้าการลงทุนสองฝ่าย สินค้าอาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส ผลไม้สดไทย ยานยนต์และส่วนประกอบ ฯลฯ มีโอกาส ผลการเจรจาธุรกิจของเอกชนไทยกับอินเดียคาดว่ายอดสั่งซื้อ 1 ปีไม่ต่ำกว่า 10-15 ล้านเหรียญสหรัฐ
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่11-12เมษายน ที่ผ่านมา นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางไปเยือนอินเดีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนไทย-อินเดีย เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต และได้เข้าร่วมประชุมสองฝ่ายกับ Mr. Kamal Nath รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงจัดทำความตกลงเปิดเสรีการค้าสินค้าให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคม 2550 นี้ รวมทั้งกระตุ้นให้ภาคเอกชนของไทยและอินเดียติดต่อกันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญให้ปริมาณการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่ายขยายตัวมากขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวอย่างเนื่องไม่ต่ำกว่า 30% และจะสามารถบรรลุเป้าหมาย 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯได้ในปีนี้ และในโอกาสนี้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและ Bureau of Indian Standards ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมไทย-อินเดีย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า และจากการหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของอินเดียต่างมีความมั่นใจที่จะลงทุนในไทยต่อไป
นางสาวชุติมา กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนไทยที่ร่วมเดินทางกว่า 30 บริษัท ได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจอินเดียกว่า 100 บริษัท ที่มาจากเมืองธุรกิจใหญ่ของอินเดีย ได้แก่ เดลี กัลกัตตา ไชยปุระ รัฐราชสถาน อะมาริสสา รัฐปันจาป ซึ่งสินค้าไทยที่ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและผู้นำเข้าอินเดีย ได้แก่ อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส ผลไม้สดไทย ยานยนต์และส่วนประกอบ ยางแผ่นรมควัน สินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง อุตสาหกรรมหนักใช้ในโรงงาน รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ในบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม กลุ่มธุรกิจบริการ เช่น แฟรนไชส์ร้านอาหาร การบำบัดน้ำเสีย ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่ายอดการสั่งซื้อภายใน 1 ปีจะมีมูลค่าทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 10-15 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ไทยและอินเดียมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างมาก โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมและความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย หากมีการสร้างเส้นทางจะสามารถเชื่อมโยงพม่าและไทยกับรัฐอื่นๆ ของอินเดียได้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของภูมิภาคนี้ให้ทัดเทียมกับภาคอื่นๆ โดยมีสาขาที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย เช่น การก่อสร้างถนนและโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว และบริการต่อเนื่อง เกษตรแปรรูปและพลังงาน เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ