หุ้นออฟฟิศเมทสุดฮอต ยอดจองล้น 4-5 เท่า พร้อมเข้าเทรด 28 ก.ค.นี้

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday July 20, 2010 08:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--PRdd นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจจำหน่ายเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานผ่านระบบแค็ตตาล็อกและระบบ E-Commerce เปิดเผยว่า หลังจากปิดจองหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก จำนวน 20 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 4.90 บาท ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตของบริษัท ประกอบกับราคาหุ้นไอพีโอยังมีส่วนลด (Discount) ให้นักลงทุนถึง 25-35% เมื่อเปรียบเทียบ P/E ของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ “ผลตอบรับจากนักลงทุนที่มีเข้ามาจำนวนมากสะท้อนถึงความมั่นใจในประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจของเราที่มีมากว่า 15 ปี ซึ่งเราไม่เคยหยุดนิ่งและมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างหลากหลาย จนทำให้เราเป็นผู้ประกอบธุรกิจ Distance Trade รายแรกและรายเดียวที่ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยเฉพาะนโยบาย “499 บาท ส่งฟรีทั่วประเทศ” ที่ส่งผลให้ยอดขายและฐานลูกค้าเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถทำกำไรและให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 3% ด้วยนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ” ด้านนางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า จะนำหุ้นของออฟฟิศเมทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ โดยมีความมั่นใจมากว่าหุ้น OFM จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยในช่วงการจองซื้อที่ผ่านมาได้จัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไปประมาณ 50% ส่วนที่เหลือจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบันและหรือนักลงทุนรายใหญ่ การเสนอขายดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนทุกประเภทโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและหรือนักลงทุนรายใหญ่ที่แสดงความต้องการเข้ามามากกว่าจำนวนที่จัดสรรให้ถึงประมาณ 4-5 เท่า ทั้งนี้ ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2553 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 60 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และภายหลังจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนแล้ว บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 80 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 282.5 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิเท่ากับ 13.9 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ร้อยละ 86 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ PRdd ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ ลัคคณา บุษบา , และสุจิรา วิโรจนะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ