กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
สมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย (Thailand Equestrian Federation) ประกาศความพร้อม! ที่จะนำเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2010 มาให้คนไทยได้ชื่นชม เตรียมจัดแข่งขัน “Thailand Championship” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคมศกนี้ บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ณ สนามไทยโปโล แอนด์ อีเควสเทรียนคลับ พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อคัดตัวนักกีฬาขี่ม้าประเภทอีเวนติ้ง สำหรับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 16 ที่มณทลกวางตุ้ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนศกนี้
มร.ฮาราลด์ ลิงค์ นายกสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย เผยว่า “สำหรับเอเชียนเกมส์ในเดือนพฤศจิกายนศกนี้ ไทยได้โควต้าไปแข่งขันประเภทอีเวนติ้ง (Eventing) และตั้งเป้าว่าจะต้องคว้าเหรียญทองมาให้ได้ โดยทางสมาคมฯ ได้จัดให้มีการแข่งขัน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ เพื่อคัดเลือกตัวนักกีฬาขี่ม้าอย่างโปร่งใส โดยการแข่งขันฯ จะแบ่งออกเป็น 3 วัน คือ วันแรก Dressage หรือศิลปะการบังคับม้า วันที่สอง Cross Country หรือกระโดดข้าม ภูมิประเทศ และวันสุดท้ายคือ Show Jumping หรือขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ผู้ที่มีคะแนนเสียน้อยที่สุดจากการรวมคะแนนทั้งสามวัน จะเป็นผู้ชนะ หากแต่ว่า ข้อกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าแข่งขันเอเชียนเกมส์ ได้นั้น ตามกฎของเอเชียนเกมส์ คะแนนเสียของ Dressage จะต้องไม่เกิน 75 คะแนน ไม่มีคะแนนเสียในการแข่งขัน Cross Country และมีคะแนนเสียของ Show Jumping ได้ไม่เกิน 16 คะแนนเท่านั้น ถึงจะเป็นนักกีฬาที่เข้าแข่งขันได้ แม้จะเป็นการเพิ่มความกดดันให้กับนักกีฬาขี่ม้า แต่ก็คาดว่าผู้เข้าแข่งขันจะสามารถผ่านข้อทดสอบ และไปร่วมชิงชัยในเอเชียนเกมส์ได้ การแข่งขันในครั้งนี้มีคณะกรรมการ International Judge ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ ขี่ม้านานาชาติ จากประเทศนิวซีแลนด์ร่วมเป็นกรรมการตัดสินกับกรรมการชาวไทยอีก 2 คน”
ในฐานะของนายกสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยคนใหม่ มร.ลิงค์เผยว่า ขณะนี้มีนักขี่ม้าในประเทศไทยหลักพันคน และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็นหลักแสนคน ภายใน 10 ปีข้างหน้า พร้อมกับเพิ่มจำนวนนักกีฬาขี่ม้าที่มีฝีมือเป็น ที่ยอมรับ โดยได้รับชัยชนะจากหลากหลายเวทีการแข่งขันนานาชาติ เพื่อให้ประเทศไทยได้เป็นหนึ่งประเทศที่มีอำนาจในวงการขี่ม้าของเอเชีย
ส่วนนโยบายและการทำงานนั้น ทางสมาคมฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการทำงานชุดใหม่ โดยแต่ละคนจะได้รับหน้าที่และความรับผิดชอบต่างกัน พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการซึ่งเป็นคนกลาง คือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการขี่ม้า อาทิ พงษ์เทพ เจียรวนนท์, พล.อ.ม.ร.ว.กฤษต กฤดากร ฯลฯ มาร่วมในคณะทำงาน เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการ
อีกด้วย ทางสมาคมตระหนักดีว่า ภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ ขั้นแรกก็คือ การสร้างเสริมความรู้สึกเป็นส่วนร่วมกับสมาคมฯ หรือ sense of belongings เป็นการทำงานในลักษณะของการเป็นพันธมิตรระหว่างสมาคมกับสโมสร เพื่อให้เกิดความคิดใหม่และสด ที่จะสะท้อนไปยังความสามารถในการทำงานของสมาคม ให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการทำงาน จัดสัมมนาระหว่างสมาคมและสโมสร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หาความรู้ความเข้าใจกันมากขึ้น ให้นักกีฬาและสโมสรรู้สึกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งได้เริ่มทำการจัดสัมมนาไปแล้วบ้าง
เมื่อสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนร่วมกันแล้ว สมาคมฯ จะต้องให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้กีฬาขี่ม้าน่าสนใจต่อประชาชนทั่วไป เพื่อดึงดูดให้มีนักกีฬาขี่ม้าเพิ่มมาก โดยจัดให้มีเวทีแสดงความสามารถของนักกีฬาขี่ม้าใน แต่ละสโมสรต่างๆ มากเพิ่มขึ้น จัดการแข่งขันครั้งใหญ่ที่น่าสนใจประจำปีและเพิ่มจำนวนการแข่งขันให้มากขึ้น จัดคอร์สอบรมคนสอนขี่ม้า เผยแพร่และประชาสัมพันธ์การขี่ม้า และความเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม คอร์สอบรม การแข่งขัน ฯลฯ ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุหรือทีวี เพื่อเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่ความคิด หรือแม้กระทั่งการสร้างความน่าเชื่อถือและประกาศเกียรติคุณยกย่องนักกีฬาขี่ม้า ด้วยการจัดอีเควสเทรียนไนท์ ให้ประชาชนทั่วไปและคอมมิวนิตี้นักขี่ม้าทั้งหลาย ได้รับรู้ถึงความพิเศษของการเป็นนักกีฬาขี่ม้า และรู้จักทำเนียบนักกีฬาขี่ม้าผู้นำของประเทศ โดยกำหนดจะจัดครั้งแรกในเดือนตุลาคมศกนี้
นอกจากการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของกีฬาขี่ม้า สู่สาธารณชนในระดับวงกว้างแล้วนั้น ทางสมาคมฯ ยังมีแผนที่จะจัดโปรแกรมขี่ม้าสำหรับเยาวชน โดยจะให้ผู้ปกครองและสถาบันศึกษามีส่วนร่วมในการจัดตั้งโครงการนี้ คิดว่าถ้าผู้ปกครองหรือโรงเรียน มีความประสงค์หรือมีความสะดวกอย่างไร ก็จะเอื้ออำนวยให้มีเด็กๆ เข้าร่วมในโครงการ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนงานที่จะเป็นพันธมิตรกับสมาคมขี่ม้าระดับนานาชาติทั่วโลก เพื่อนำกลยุทธ์และองค์ความรู้ Know-how ของประเทศต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรมาใช้ในแบบประยุกต์ เพื่อการก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพ รวมถึงการนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาแนะนำเกี่ยวกับการแข่งขันและการฝึกซ้อม จนประเทศไทยได้รับการยอมรับในเอเซีย และด้วยคำถามที่ว่า ทำอย่างไรจะทำให้คนไทยรู้จักกีฬา ขี่ม้ากันเพิ่มมากขึ้นและมีจำนวนนักขี่ม้าเพิ่มเป็นแสนคน มร.ลิงค์ เสริมว่า “ขอเพียงเอาใจใส่อย่างจริงจัง พร้อมทุนทรัพย์เพียงพอ” โดยทางสมาคมฯ มีแผนงานที่จะเร่งระดุมทุนจำนวนมากเพื่อสนับสนุนกิจกรรมขี่ม้าในไทย
เชิญร่วมเชียร์นักกีฬาขี่ม้าไทย...ตะลุยไปเอเชียนเกมส์ พร้อมกันวันที่ 23-26 กรกฎาคมศกนี้ ณ สนามไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา จ.ชลบุรี
***************************************
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0 -2434-8547 สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา