กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--อาร์ค เวิล์ดไวด์
ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำชีวิต Convergence & Lifestyle Enabler ซึ่งคิดค้น และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ ด้วยบริการอันหลากหลายครบด้านของบริษัทในกลุ่มทรูไม่ว่าจะเป็น TrueMove, TrueVisions, TrueOnline, TrueMoney และ TrueLife รวมทั้งธุรกิจบันเทิงเช่นค่ายเพลง ทรู แฟนเทเชีย ซึ่งผลิตและดูแลศิลปิน AF เป็นหลัก ล่าสุด ทรูฯ ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ผลิตภาพยนตร์คอนเสิร์ตระบบดิจิตัล 3 มิติ (3D) นี้ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
ทรู แฟนเทเชีย ค่ายเพลงในเครือของ ทรูฯ ระดมทีมงานฝีมือระดับอินเตอร์ นำเทคโนโลยีระบบ 3 มิติ มาสร้างปรากฏการณ์ตระการตาบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปี “KRUNGSRI The First 3D Concert : Victory Of The Winners (กรุงศรี เดอะ เฟิร์ส ทรีดี คอนเสิร์ต : วิคตอรี่ ออฟ เดอะ วินเนอร์ส)” การแสดงโชว์เต็มรูปแบบของ 6 ผู้ชนะจากเวที AF ทั้ง 6 ซีซั่นส์ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นการผลิตภาพยนตร์คอนเสิร์ต 3 มิติที่สมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับภาพยนต์ซึ่งใช้เทคโนโลยีล่าสุดนี้จากฮอลลีวู้ด โดยสุดยอดความบันเทิงรูปแบบใหม่ดังกล่าว จะฉายให้ชมกันเฉพาะในโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตัล 3 มิติทั่วประเทศ ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ปลายเดือนตุลาคมศกนี้
ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ที่ผ่านมา ทรูฯ ได้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เองก็เป็น จุดเด่นที่สำคัญในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการ รวมถึงผลงานด้านศิลปะและความบันเทิงต่างๆ ให้มีความแปลก ใหม่ และแตกต่าง”
“และเนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยี Digital 3 D หรือหนัง ดิจิตัล 3 มิติ กําลังเป็นกระแสหลักของนักดูภาพยนตร์ และผู้สร้างภาพยนต์ทั่วโลก ทรู แฟนเทเชีย ซึ่งดำเนินธุรกิจทางด้านบันเทิงอยู่แล้ว จึงตั้งใจสร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งสำคัญขึ้น โดยนํา คอนเสิร์ตที่มีการรวมตัวของแชมป์ทั้ง 6 ซีซั่นส์จากเวที AF เดอะ เฟิร์ส ทรีดี คอนเสิร์ต : วิคตอรี่ ออฟ เดอะ วินเนอร์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคมนี้ ณ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก มาถ่ายทําเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ต 3 มิติ ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมวงการคอนเสิร์ตเมืองไทยอีกด้วย โดยทีมงานผู้ผลิตฝีมือระดับอินเตอร์ ยิ่งไปกว่านั้นคือ เป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่มีการใช้เทคนิค และเทคโนโลยีการถ่ายทำล่าสุด ที่ทันสมัย ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด”
“การจัดทำภาพยนตร์คอนเสิร์ต 3 มิติ ในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 พันธมิตรใหญ่ ได้แก่ ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ศุภชัย กล่าว
ด้าน อาจกิจ สุนทรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูแฟนเทเชีย จำกัด กล่าวถึงความพิเศษหลายอย่างของคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ว่า เป็นครั้งแรกของคอนเสิร์ตไทยที่บันทึกด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติ โดยใช้เทคนิคและเทคโนโลยีการถ่ายทำที่ทันสมัยยิ่งใหญ่เทียบเท่าฮอลลีวู้ด เพื่อสร้างปรากฏการณ์ความตื่นเต้นและแปลกใหม่ให้กับผู้ชมชาวไทย
“เราจะมีการบันทึกภาพคอนเสิร์ตกรุงศรี เดอะ วินเนอร์ส โปรเจคท์ วิคตอรี่ ออฟ เดอะ วินเนอร์ส ด้วยกล้องถ่ายทำชนิดพิเศษ โดยเป็นการถ่ายทำแบบใช้กล้องระบบ 3 มิติจริง (real 3D) จากนั้นจะนำไปตัดต่อ และบันทึกด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิตัล 3 มิติ เหมือนการทำภาพยนตร์ 3 มิติหนึ่งเรื่อง และจะนำเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ระบบ ดิจิตัล 3 มิติทั่วประเทศ ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ทรู แฟนเทเชีย จึงอยากเชิญชวนให้ติดตามภาพยนตร์คอนเสิร์ต 3 มิติที่จะเกิดขึ้นนี้ ซึ่งต้องถือว่าเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ต 3 มิติสมบูรณ์แบบเรื่องแรกที่ผลิตและถ่ายทำขึ้นในประเทศไทย”
“การผลิตงาน 3 มิติในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือระหว่างทีมงานมากประสบการณ์จากเกาหลี และทีมงานคุณภาพของไทย ซึ่งทีมงานของเกาหลีชุดนี้ มีฝีมือและผลงานเด่นๆ มากมาย เช่น เคยทำคอนเสิร์ต 3 มิติให้กับวงบิ๊กแบง ซึ่งเป็นบอยแบนด์ขวัญใจวัยรุ่นเกาหลี ทีมงานนี้ได้รับการยอมรับว่ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยี 3 มิติเป็นอย่างมาก รับรองว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะสนุกสนานตระการตาแน่นอน เพราะทีมงานได้ติดตั้งอุปกรณ์จอพิเศษ ซิลเวอร์ สกรีน และเครื่องฉาย ซึ่งฉายในโรงหนัง 3 มิติ มาไว้ในคอนเสิร์ตด้วย แล้วจึงนำไปผลิตเป็นภาพยนตร์ 3 มิติต่อไป” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูแฟนเทเชีย กล่าว
สนุกกับโชว์เต็มรูปแบบของ 6 ผู้ชนะจากทั้ง 6 ซีซั่นส์ “วิทย์ AF1-พชร จั่นเที่ยง” “อ๊อฟAF2-ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ” “ตุ้ย AF3-เกียรติกมล ล่าทา” “นัท AF4-ณัฐ ศักดาทร” “นัททิว AF5-ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” และ “ซานิ AF6-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” และแขกรับเชิญอีกมากมาย ใน “KRUNGSRI เดอะ เฟิร์ส ทรีดี คอนเสิร์ต : วิคตอรี่ ออฟ เดอะ วินเนอร์” ในวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคมนี้ ณ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังจะทำให้แฟนๆ ทุกคนได้ร่วมเป็นหนึ่งในการบันทึกภาพประวัติศาสตร์คอนเสิร์ต 3 มิติ (3D) ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมวงการคอนเสิร์ตเมืองไทยอีกด้วย