กฟผ.เตรียมพร้อมกำลังผลิตไฟฟ้า 27,700 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในปีนี้

ข่าวทั่วไป Monday April 9, 2007 10:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--กฟผ.
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เตรียมความพร้อมกำลังผลิตไฟฟ้าถึง 27,700 เมกะวัตต์เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่เพื่อความไม่ประมาทขอให้ประชาชนทุกคนร่วมแรงร่วมใจช่วยกันประหยัดไฟฟ้า อย่างเช่น หันมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากเบอร์ 5 เพื่อลูกหลานในอนาคตได้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ
นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า (อคฟ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. ได้เตรียมความพร้อมกำลังผลิตไฟฟ้าโดยรวมของประเทศจำนวน 27,700 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองจำนวนประมาณ 5,000 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยในปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างร้อนมากจึงทำให้เกิดพีคหรือปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2550 ซึ่งทำลายสถิติจากปีที่ผ่านมาถึง 22,161 เมกะวัตต์ และเร็วกว่าปีที่ผ่านมาที่ได้เกิดพีคในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ปริมาณความต้องการใช้ไฟก็ยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของคณะอนุกรรมการพยากรณ์การใช้ไฟของประเทศ สำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงพลังงาน จำนวนประมาณ 22,600 เมกะวัตต์ แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้กำลังผลิตไฟฟ้าสำรองก็ยังเพียงพอต่อการใช้ไฟและเป็นการรองรับเมื่อเกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้าขัดข้องและขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับอย่างแน่นอน
จากสภาพอากาศร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กฟผ. จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมแผนการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าและการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในทุกๆ ปี โดย กฟผ. จะดำเนินการให้มีการซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าในช่วงฤดูหนาวและในวันหยุดต่อเนื่องที่มีการใช้ไฟน้อย และมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอ โดยผลิตจากก๊าซธรรมชาติปริมาณวันละ 2,200 ล้านลูกบาศก์ฟุต คิดเป็น 67 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ผลิตทั้งปี และน้ำในเขื่อน 6.4 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ผลิตทั้งปี ส่วนช่วงฤดูแล้งจะมีการระบายน้ำไปใช้ทางด้านเกษตรกรรมเพื่อการเพาะปลูกเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งยังได้สรรหาพลังงานทางเลือก โดยใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าจำนวน 3,800 เมกะวัตต์คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ผลิตทั้งปี ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นเชื้อเพลิงสะอาด เพราะว่า กฟผ. ได้มีเทคโนโลยีที่จะทำให้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดขึ้นและอยู่ในมาตรฐานการรับรองทางด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสากล นอกจากนี้ก็ยังใช้น้ำมันเตาประมาณ 1,300 ล้านลิตรทั้งปี และก็ยังใช้พลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าด้วย
จากปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จึงขอเชิญชวนประชาชนให้ความร่วมมือในการช่วยกันประหยัดไฟฟ้าอย่างจริงจัง เช่น หันมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟฉลากเบอร์ 5 ใช้หลอดประหยัดไฟแทนการใช้หลอดไส้ หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับ อากาศอย่างสม่ำเสมอและเปิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25-26 องศาเซลเซียส "นายพิบูลย์ บัวแช่ม กล่าวในที่สุด"
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
กองประชาสัมพันธ์สายงานระบบส่งและควบคุมระบบ
โทรศัพท์ 0-2436-2342, 0-2436-8363 โทรสาร 0-2436-2394

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ