กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ไทยพาณิชย์
กรุงเทพฯ: ท่ามกลางเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติในไตรมาส 2 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สามารถ
ขยายสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ยอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 971 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.1% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 และเพิ่มขึ้น 3.5% จากไตรมาสที่แล้ว ธนาคารแสดงผลกำไรสุทธิของไตรมาส 2/2553 ที่ 5.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% เทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2552 ส่งผลให้กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2553 อยู่ที่ 11.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4%
เทียบกับครึ่งแรกของปี 2552 ทั้งนี้ ปัจจัยหลักขับเคลื่อนผลประกอบการที่แข็งแกร่งนอกเหนือจากการขยายตัวของสินเชื่อแล้ว
มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้นถึง 10.7% รวมถึงการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงจากการมีสินเชื่อที่มีคุณภาพ
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวถึงผลประกอบการของไตรมาส 2/2553 ว่า “การขยายตัวด้านสินเชื่อในระดับสูงแม้ว่าสถาณการณ์การเมืองในประเทศไม่ปกติ สะท้อนถึงความสำเร็จในยุทธศาสตร์ในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าหลัก โดยเฉพาะลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้า SME สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์” ประธานกรรมการบริหารกล่าวเสริมอีกว่า “ผลการดำเนินงานที่ดี เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์ในการมุ่งสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการของธนาคารและบริษัทในกลุ่มฯ ถือเป็นรากฐานสำคัญต่อการเจริญเติบโตในไตรมาสต่อๆ ไป”
สินเชื่อ ขยายตัวถึง 7.1% เทียบกับไตรมาส 2/2552 และเพิ่มขึ้น 3.5% จากไตรมาส 1/2553 โดยเป็นการเติบโต ในทุกกลุ่มลูกค้า กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัว 7.9% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.0% จากไตรมาส 1/2553 โดยเป็นการนำไปขยายธุรกิจ
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินเชื่อธุรกิจ SME ขยายตัว 3.5% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.7% จากไตรมาส 1/2553
อันเป็นผลจากกลยุทธ์ใหม่ของธนาคารในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจ SME สินเชื่อลูกค้าบุคคลขยายตัว 11.4% เทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาส 1/2553 โดยมาจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังมีความต้องการอยู่ในระดับสูง
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเติบโตดี แม้ว่าการให้บริการของสาขาธนาคารจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศอยู่บ้าง รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการยังขยายตัวที่ 10.7% เทียบกับไตรมาส 2/2552 โดยมาจาก Bancassurance ธุรกิจบัตร และรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากการให้สินเชื่อเป็นหลัก
คุณภาพสินทรัพย์ ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงมาอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาทในไตรมาสนี้ (เทียบกับ 1.4 พันล้านบาทในไตรมาส 2/2552) ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 98.9
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้ความเห็นว่า “ผลประกอบการที่ดีในไตรมาสนี้ แม้ว่าต้องดำเนินธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมที่อ่อนไหวเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธนาคาร และการมีใจทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ของพนักงานธนาคาร อันแสดงถึงพลังของทีมงานซึ่งเป็นจุดเด่นของธุรกิจการให้บริการทางการเงิน ตอกย้ำความเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศ”
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตในปี พ.ศ. 2449 โดยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 ธนาคารมีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) สูงเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มสถาบันการเงิน (276 พันล้านบาท) มีเครือข่ายสาขาและจุดให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย (สาขารวมทั้งสิ้น 999 สาขา ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 112 แห่ง เครื่องเอทีเอ็ม 7,467 เครื่อง) เพื่อให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง/ขนาดย่อม และลูกค้าบุคคล ด้วยขนาดสินทรัพย์ 1,266 พันล้านบาท สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scb.co.th
สื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) โทร : 02-544-4502, 02-544-4517 Email : corp.communications@scb.co.th