กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.4
สินเชื่อขยายตัวร้อยละ 2.6
สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 1,254 ล้านบาท
กำไรจากเงินลงทุน 2,449 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการขายหุ้นธนาคารสินเอเซีย
ธนาคารกรุงเทพรายงานผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาส 2 ปี 2553 มีกำไรสุทธิ 6,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,976 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 793 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.1 จากไตรมาสก่อนหน้า
ไตรมาสนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 จากไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงมากกว่ารายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 ในไตรมาสก่อนหน้าเป็นร้อยละ 3.0
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ผลประกอบการของธนาคารอยู่ในระดับที่น่าพอใจโดยมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มในอนาคต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยภาคการส่งออกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
“ธนาคารมีความพร้อมในการสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และยังคงยึดแนวทางการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะเข้าใจธุรกิจและความต้องการของลูกค้า ซึ่งธนาคารจะนำไปพัฒนาบริการในด้านต่างๆให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”
“ในไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารยังคงดำเนินงานตามเป้าหมายหลักสำคัญ 4 ด้านและได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ประกอบด้วย การมุ่งเน้นขยายสินเชื่อ การเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม และการรักษาความแข็งแกร่งทั้งในด้านสภาพคล่องและเงินกองทุน”
เงินให้สินเชื่อขยายตัวร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553 และขยายตัวร้อยละ 2.6 จาก ณ สิ้นปี 2552 ในขณะที่เงินฝากขยายตัวร้อยละ 1.1 จากไตรมาสก่อนหน้า และทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับ ณ สิ้นปีที่แล้ว โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 85.5 ณ สิ้นไตรมาสแรกเป็นร้อยละ 86.5
ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับบริการธุรกรรมสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ ค่าธรรมเนียมบริการอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น
ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมบริการเกี่ยวกับส่งออกและนำเข้า บริการประกันชีวิตผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัว-รันส์) และบริการบัตรเครดิต
ไตรมาส 2 ธนาคารมีกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 2,449 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการขายหุ้นธนาคารสินเอเซีย จำนวน 306.3 ล้านหุ้น ให้แก่ Industrial and Commercial Bank of China (ICBC)
ธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 จากไตรมาส 2 ปี 2552 รายการสำคัญได้แก่ ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 สินเชื่อด้อยคุณภาพมีจำนวน 55,127 ล้านบาทลดลง 1,254 ล้านบาทจากสิ้นเดือนมีนาคม และในไตรมาส 2 ธนาคารมีการตั้งค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 1,882 ล้านบาท
ธนาคารมีสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 70,531 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ร้อยละ 127.9
ธนาคารดำรงสถานะเงินกองทุนในระดับสูง โดยเมื่อนับรวมกำไรสุทธิของครึ่งปีแรกธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ในระดับประมาณร้อยละ 17.0 และร้อยละ 14.0 ตามลำดับ ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 มีจำนวน 217,731 ล้านบาท