ตลาดอนุพันธ์ไทยและไต้หวันลงนามแลกเปลี่ยนข้อมูลและพัฒนางานร่วมกัน

ข่าวทั่วไป Monday April 9, 2007 11:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--ตลท.
วันนี้ (9 เมษายน) นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ ดร. รง ไอ วู (Rong-I Wu) ประธานกรรมการตลาดอนุพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Futures Exchange- TAIFEX) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลและศึกษาความเป็นไปได้ถึงแนวทางที่จะพัฒนาธุรกิจร่วมกันในอนาคต ทั้งนี้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นของทั้งสองตลาด
การลงนามในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) และ ดร.วิลเลียม ลิน (William Lin) ที่ปรึกษาตลาดอนุพันธ์ไต้หวัน ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีนาย ตัง เชีย วู (Tang-Chieh Wu) เลขาธิการ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และฟิวเจอร์ของไต้หวัน (Securities and Futures Bureau of Taiwan- SFB) และนาย กอร์ดอน เชง (Gordon S. Chen) ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (Taiwan Stock Exchange Corp.- TSEC) ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีลงนามในครั้งนี้
นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การลงนามในเอ็มโอยูครั้งนี้ เป็น ก้าวสำคัญสำหรับ TFEX ในการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้วกับ TAIFEX ให้ดียิ่งขึ้น และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองตลาดจะทำงานร่วมกัน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีความร่วมมือในด้านอี่น ๆ อีกในอนาคต เพื่อยังประโยชน์สูงสุดแก่ ผู้ลงทุนในตลาดอนุพันธ์ของไทยและไต้หวัน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ตลาดอนุพันธ์ไต้หวัน (TAIFEX) เป็นตลาดอนุพันธ์ชั้นนำที่โดดเด่นมากในช่วง 2 — 3 ปีที่ผ่านมา TFEX จึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานร่วมกันกับ TAIFEX โดยโครงการแรกที่จะร่วมมือกันคือโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับอินเด็กซ์ ออปชัน ที่ TFEX จะเปิดให้บริการแก่ผู้ลงทุนในช่วงปลายปี 2550 เนื่องจาก TAIFEX มีความเชี่ยวชาญในอินเด็กซ์ออปชันและมีชื่อเสียงในระดับโลก ดังนั้นการที่ TAIFEX จะมาให้ความรู้และเล่าประสบการณ์จึงน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำมาปรับใช้กับตลาดอนุพันธ์ของไทย”
ด้านนาย รง ไอ วู ประธานกรรมการ TAIFEX กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในด้านการเชื่อมโยงระหว่างตลาดและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร ความร่วมมือระหว่างกันและการสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ จึงเป็นประเด็นที่ตลาดต่าง ๆ ต้องเร่งพิจารณาเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว การลงนามครั้งนี้ จะเป็นรากฐานที่ดีต่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และศึกษาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่จะก่อให้เกิดการประสานประโยชน์ และเสริมให้ทั้งสองตลาดสามารถเผชิญความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ