แซส ชูโซลูชั่นใหม่ ‘SAS? Enterprise Governance, Risk and Compliance (GRC)’ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การทำงานร่วมกัน และเสริมสร้างความโปร่งใสในองค์กร

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 22, 2010 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--SAS แวดวงอุตสาหกรรมต่างๆ และบรรดาผู้ถือหุ้นล้วนต้องการรับรู้ถึงวิธีการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงเฉพาะจำนวนของรายได้ที่จะได้รับเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ โปรแกรมด้านการกำกับดูแล การบริหารจัดการความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ (Governance, Risk and Compliance: GRC) ที่ผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวนี้ จึงสามารถช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ตลอดจนเข้าใจและบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่ และแบ่งปันข้อมูลกับนักลงทุน คณะกรรมการบริหาร ลูกค้า และผู้เข้าประชุมรายสำคัญอื่นๆ ได้ SAS Enterprise GRC จากบริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ได้นำเสนอแพลตฟอร์มแบบรวม สำหรับการติดตามตรวจสอบความเสี่ยงและระดับการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง โดยองค์กรสามารถติดตามความเสี่ยงได้จากแนวโน้มในระบบการดำเนินงานที่หลากหลาย สามารถระบุและจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนปรับปรุงนโยบายให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้วยการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโปรไฟล์ความเสี่ยงรวมไว้ในที่เดียวและสามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ไม่เกี่ยวข้องทางการเงิน “กฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นและการเคลื่อนไหวของนักลงทุน ผลักดันให้สถาบันทางการเงินต้องแสดงแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในด้านการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ โดยบริษัทต่างๆ ต้องการแนวทางแบบรวมที่ครอบคลุมสำหรับองค์กร และต้องการแนวทางด้านการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงาน เพื่อลดระดับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ขณะนี้บริษัทที่มองไปข้างหน้าต้องการปรับความสามารถด้านการประเมินความเสี่ยงที่สวนกระแสด้วยกิจกรรมการดำเนินงานในแต่ละวันแบบตามกระแส เพื่อติดตามตรวจสอบและลดความเสี่ยงให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด” นาย คูบิลลัส ดิง ผู้อำนวยการด้านการวิจัยของการลงทุนและหลักทรัพย์ บริษัท ซีเลนท์ กล่าว การผสานรวมกลยุทธ์ทางธุรกิจเข้ากับการบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ เพื่อความมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ SAS Enterprise GRC สามารถสนับสนุนการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นผ่านกรอบการทำงานทั่วไปและทำให้การจัดการควบคุมและการตรวจสอบเกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งนำไป สู่ความโปร่งใส ความสอดคล้อง และความมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น โปรแกรม GRC แบบรวม เป็นซอฟต์แวร์ที่นำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจมาใช้ สามารถลดความไม่แน่นอน และคาดการณ์ผลลัพธ์การดำเนินงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ตลอดจนคุณประโยชน์ต่างๆ ซึ่งครอบคลุมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการทำระบบให้เป็นอัตโนมัติ การวางแผนรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและการตรวจสอบที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างสูตรกลยุทธ์ที่ดีขึ้น เช่น การวางแผนด้านทุน การขยายตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) และแนวทางพื้นฐานเพื่อความยั่งยืนสามประการ หรือ Triple Bottom Line (คน โลก และผลกำไร) “ลูกค้าทั่วโลก ได้ขอให้บริษัท แซส ผลักดันโปรแกรม GRC ให้สามารถช่วยได้มากกว่าแค่แนวทางในการปฏิบัติตามกฎ ข้อบังคับและการบริหารจัดการด้านการประเมินความเสี่ยงเท่านั้น” นายมาโนช คัลวาล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ SAS Enterprise GRC กล่าว และว่า “ลูกค้าต้องการใช้ GRC เป็นตัวเร่งข้อกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ และกระบวนการดำเนินงานต่างๆ นี้เอง ที่ได้ผลักดันให้เกิดการออกแบบและพัฒนา SAS Enterprise GRC ให้สอดคล้องกับความต้องการมากยิ่งขึ้น” และเพื่อแสดงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อตลาด GRC ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท แซส ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสภาเทคโนโลยี Open Compliance & Ethics Group’s (OCEG) โดยสภาเทคโนโลยี OCEG ถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อช่วยจัดการปัญหาด้านกลยุทธ์ ด้านการดำเนินงาน และด้านเทคนิค ที่มืออาชีพประสบเมื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ไปใช้ในการจัดการด้านการควบคุม การบริหารความเสี่ยง การปฎิบัติตามกฎระเบียบ (GRC) และจริยธรรม โดย OCEG มีบทบาทสำคัญในด้านการพัฒนาโครงสร้างและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด สำหรับพื้นที่ในส่วนต่างๆ ที่หลากหลายของ GRC การทำงานร่วมกับ OCEG ใน ครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัท แซส สามารถนำมุมมองของลูกค้าทั่วโลกเข้าสู่กระบวนการ OCE และสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวในการนำเทคโนโลยีไปใช้ เพื่อสนับสนุนและปรับปรุงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ GRC ให้ดียิ่งขึ้นได้ “โอกาสทางการตลาดของ GRC ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งอย่างบริษัท แซส จะก้าวเข้าสู่ตลาดแห่งนี้” นาย ไมเคิล ราสมัสเซน J.D. ประธานบริษัท คอร์ปอเรท อินทิกริตี แอลแอลซี และ เป็นสมาชิกของ OCEG กล่าว และว่า “บริษัท แซส กำลังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ โดยไม่เพียงแต่ในด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนชุมชน GRC ผ่านคำมั่นที่มีต่อ OCEG ของบริษัทด้วย” นอกจากการช่วยเหลือด้วยแผนกลยุทธ์ตามกฎ ข้อบังคับแล้ว SAS Enterprise GRC ยังช่วยองค์กรธุรกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพทางการเงิน ความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม การรวมการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ การบริหารข้อมูล และการจัดทำรายงานเข้าด้วยกัน ทำให้ SAS Enterprise GRC สามารถให้การวิเคราะห์ข้อมูลที่ทันสมัยและครอบคลุมจากแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกัน มุมมองแบบรวมนี้ ซึ่งสนับสนุนการแปลความหมายทั่วไปเกี่ยวกับประสิทธิภาพด้านการควบคุม ช่วยให้องค์กรสามารถวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ง่ายขึ้น แสดงระดับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการลดความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้น ยังช่วยบริษัทวางกลยุทธ์บนฐานความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เป็นไปตามความคาดหวังของผู้ถือหุ้น และข้อผูกพันจากภายนอก “ความท้าทายในทุกวันนี้ คือ การก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง” คลาร์ค อับราฮัมส์ หัวหน้าสถาปนิกทางการเงิน บริษัท แซส กล่าว และว่า “ประสิทธิภาพสูงสุดและความยั่งยืนต้องการแนวทางที่ครอบคลุมและอยู่ภายในกรอบ ภายใต้การผสานรวมกลยุทธ์ทางธุรกิจ เข้ากับโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบด้านการบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามนโยบายที่ดี ภายในหน่วยงานการดำเนินงานแต่ละส่วนได้ โดย SAS Enterprise GRC จะช่วยให้บริษัทสามารถนำแนวทางที่ยั่งยืนและปรับได้มาใช้งานได้จริง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายและควบคุมผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้” นอกจาก SAS Enterprise GRC แล้ว บริษัท แซส ยังได้นำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการควบคุม การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับอีกด้วย การกำกับดูแล (Governance) ด้วยการทำให้องค์กรสามารถรวมการวิเคราะห์ลงในงบประมาณและแผนงานได้ ข้อเสนอการบริหารจัดการทางการเงินและประสิทธิภาพ จึงสนับสนุนให้เกิดการทำนายที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ตลอดจนรายงานที่ครอบคลุมตามความต้องการ และการกำหนดกรอบการดำเนินงาน ด้วยเป้าหมายระยะยาว ความโปร่งใสของผลลัพธ์ที่ได้ทำให้แน่ใจได้ว่าผู้ถือหุ้นและเจ้าหน้าที่รักษากฎระเบียบจะสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ ตัวอย่างเช่น บริษัท เฟิร์ส ไนการา (First Niagara) ใช้ SAS Activity-Based Management และ SAS Profitability Management ในการคำนวณความสามารถด้านการทำกำไรตามผลิตภัณฑ์ องค์กร และบัญชีลูกค้า “เนื่องจากเราสามารถทราบผลกำไรของลูกค้าแต่ละราย เราจึงสามารถกำหนดราคาที่จะทำกำไรได้ และเรายังทราบถึงศักยภาพของการใช้ประโยชน์สาขาและศูนย์การดำเนินงานทั้งหมดของเราได้อย่างครอบคลุม ดังนั้นเราจึงมีข้อมูลที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จากสิ่งนี้เองที่ทำให้เราสามารถให้ความสำคัญกับมูลค่าของผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่เพียงเพิ่มผลประโยชน์ให้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดภาพรวมที่สามารถทำกำไรได้อีกด้วย” นายเบรนท์ บาห์นับ รองประธานอาวุโส และผู้อำนวยการส่วนข่าวกรองธุรกิจของบริษัท เฟิร์สในการกล่าว ความเสี่ยง (Risk) องค์กรต่างๆ ที่ใช้ SAS for Enterprise Risk Management จะสามารถระบุ วัด ติดตามตรวจสอบ ควบคุม และจัดทำรายงาน เกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงิน ได้ตัวอย่างเช่น ธนาคารยูเนียน (Union Bank) ซึ่งกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ของแซส เพื่อการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและการดำเนินงาน “เราเห็นว่าซอฟต์แวร์ของแซสได้รับการจัดอันดับในระดับสูงจากบรรดานักวิจัย บริษัทวิจัย และลูกค้าในด้านความเสี่ยงของการดำเนินงาน ดังนั้นจึงเห็นพ้องต้องกันว่าบริษัท แซส มีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่นและเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาปรับใช้ภายในองค์กรของเรา” เกรก โจนส์ รองประธานฝ่ายความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน ธนาคารยูเนียน กล่าว และว่า “แซสได้นำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมซึ่งสามารถจัดการความเสี่ยงด้านการดำเนินงานได้เป็นอย่างดีด้วยความสามารถด้านการสร้างโมเดลที่องค์กรสามารถกำหนดเองได้” การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Compliance) ข้อเสนอการปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัท แซส จะช่วยองค์กรให้สามารถรวมข้อมูลจากหลายระบบเข้าด้วยกันภายใต้กฎระเบียบที่ซับซ้อน จากนั้นองค์กรสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวมาทำการวิเคราะห์ สร้างรายงาน และแจกจ่ายข้อมูลตามที่ต้องการ ให้แก่ผู้ควบคุมกฎระเบียบได้อย่างรวดเร็ว โดยในช่วงต้นปี 2551 Mutuelle G?n?rale de l'Education Nationale (MGEN) เป็นบริษัทประกันภัยแบบสหการ (Mutual Insurance) ซึ่งเป็นการประกันภัยรูปแบบหนึ่ง จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มบุคคล เพื่อประโยชน์สำหรับบุคคลภายในกลุ่ม รายใหญ่สุดในฝรั่งเศส เริ่มปรับใช้โปรแกรมบริหารความเสี่ยง ด้านการดำเนินงาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการติดตามตรวจสอบภายใน และจัดการกฎระเบียบใหม่จากสหภาพยุโรป เช่น Solvency II และจากรัฐบาลฝรั่งเศส เช่น กฎจาก Caisse Nationale d'Assurance Maladie des Travailleurs Salari (CNAMTS ซึ่งเป็นหน่วยงานประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับพนักงานที่มีรายได้ประจำ) “เป้าหมายในการปรับใช้โปรแกรม แซส ของเรา คือ การดำเนินงานที่มากกว่าแค่การเก็บรวบรวมข้อมูลง่ายๆ และการจัดทำรายงานเกี่ยวกับข้อมูลด้านความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ” นายอเล็กซานเดอร์ เคิร์ซ หัวหน้ากลุ่มควบคุมภายในของ MGEN กล่าว และว่า “การที่แซส สามารถเพิ่มการวิเคราะห์ด้านปริมาณและคุณภาพที่มีประสิทธิภาพลงในรายงานของเราได้ ทำให้เราสามารถสร้างระบบควบคุมภายในและระบบที่เป็นไปตามกฎระเบียบต่างๆ ตลอดจนความพยายาม ด้านการบริหารความเสี่ยงของเราลงในสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์สำหรับ MGEN และลูกค้าที่เราให้บริการอยู่ได้” โซลูชั่นใหม่ SAS Enterprise GRC ได้รับการเปิดเผยในการประชุม The Premier Business Leadership Series ณ กรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นงานประชุมนานาชาติที่จัดขึ้นปีละสามครั้ง โดยบริษัท แซส ได้นำเสนอโซลูชั่นดังกล่าว ภายในงานที่มีผู้เข้าร่วมทั้งในภาครัฐและเอกชนนับร้อยราย ที่จะร่วมกันแบ่งปันความคิดและความรู้เกี่ยวกับปัญหาด้านการบริหารธุรกิจที่สำคัญ โดยการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 10-11 สิงหาคม ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง
แท็ก อุตสาหกรรม   SAS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ