กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--บีโอไอ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เร่ง ดึงความเชื่อมั่นภาคตะวันออก จัดเวทีใหญ่รับฟังนโยบายส่งเสริมการลงทุน พร้อมระดมความคิดเห็นภาครัฐ-เอกชน ในพื้นที่กว่า 600 คน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุน ด้านบีโอไอ เผยกระแสอุตฯ โตต่อเนื่อง ผู้ผลิตรถยนต์แห่ขยายลงทุน
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายในงานสัมมนา “ผลักดันการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจภาคตะวันออก ” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งมีนักลงทุนไทย นักลงทุนต่างประเทศ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าในภาคตะวันออก เข้าร่วมงานกว่า 600 คน ว่า การลงทุนในภาคตะวันออกมีความสำคัญและเป็นภูมิภาคที่มีการลงทุนมากที่สุดของประเทศ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2548 -เดือนมิถุนายน 2553) มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออกถึง 2,268 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 52% ของมูลค่าการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนของทั้งประเทศ
โดยการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง อาทิ กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานอื่นๆ กิจการนิคมอุตสาหกรรม กิจการโรงแรม กิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนและนโย บายใหม่ ๆ ของรัฐบาล
ในขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐ จะได้เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของนักลงทุนในท้องถิ่นโดยตรง เพื่อนำไปพิจารณาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา และกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ตรงกับความต้องการต่อไป
“ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้นักลงทุนหลายรายกังวลถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของตนเอง การพบปะและสัมมนาในครั้งนี้จึงจะช่วยให้ข้อมูล และชี้แจงถึงทิศทางการส่งเสริมสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาล รวมถึงเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของประเทศ และพื้นฐานอันเข้มแข็งของไทยในการรองรับการลงทุน และเ ชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีคุณภาพได้โดยตรง อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ร่วมคิด ร่วมหารือเพื่อหาทางออกและร่วมกันวางรากฐานอนาคตที่เข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยในระยะยาวต่อไป” นายชัยวุฒิ กล่าว
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน เป็นภารกิจเร่งด่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทั้งนี้ได้กำหนดนโยบายที่จะต้องสร้างความชัดเจนในการเสริมสร้างศักยภาพของภาคอุตสาหกรรม วิสาหกิจ และผู้ประกอบการ ให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีพันธกิจหลัก ที่จะสร้างโอกาสและสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุนและการประกอบธุรกิจ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจบนพื้นฐานความรู้และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับภาคการผลิต และเดินหน้าเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนกับต่างประเทศ
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บีโอไอ ได้ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมนโยบาย และมาตรการสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองตอบกับความต้องการของนักลงทุนอย่างแท้จริง และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะมีส่วนสำคัญช่วยวางรากฐานนำพาอุตสาหกรรมไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน อาทิ มาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยการปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง แต่ยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนก็มิได้ลดลง โดยสถิติ 6 เดือนแรกของปี 2553 มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากถึง 632 โครงการ เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนมีจำนวน 1.9 แสนล้านบาท ขยายตัว 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ยังมีสัญญาณที่ดีจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายที่ออกมาประกาศเดินหน้าขยายการลงทุนกันอย่างต่อเนื่อง