กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--แมนพาวเวอร์
บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) แถลงข่าวในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ในการดำเนินโครงการนำร่องการฝึกอบรมผู้ลี้ภัยที่เป็นชนกลุ่มน้อย จากประเทศพม่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการหางาน และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในประเทศสหรัฐอเมริกา
“การพัฒนาทักษะขั้นพื้นฐานด้านการทำงานที่สามารถนำไปปรับใช้กับงานใดๆ ก็ได้นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับการพัฒนาทักษะเฉพาะด้านสำหรับงานใดงานหนึ่ง” มร.ไซมอน แมทธิว ผู้จัดการทั่วไป แมนพาวเวอร์ ประจำประเทศไทย กล่าว “พวกเรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ลี้ภัย ในการหางานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีการ แข่งขันสูง การทำงานหนักของพวกเขา ร่วมกับทักษะที่เราได้ถ่ายทอดให้ ทำให้เรามั่นใจว่าผู้ลี้ภัยจะประสบความสำเร็จได้จากโอกาสที่พวกเขาได้รับ และกลายเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศที่จะเป็นบ้านใหม่ของพวกเขา”
โครงการนี้ดำเนินงานในพื้นที่พักพิงชั่วคราว บ้านแม่หละ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า จังหวัดตาก ในปีแรกของโครงการ ได้จัดฝึกอบรมแก่ผู้ลี้ภัยจำนวน 19 คน เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วย ผู้หญิง 7 คน และผู้ชาย 12 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้ง 19 คนนี้ เป็นกลุ่มหนึ่งในผู้ลี้ภัยหลายพันคนที่ได้รับการตอบรับให้เดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกาทุกปี และสำหรับโครงการในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปีที่สองนั้น เราได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ลี้ภัยเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้ได้คัดเลือกผู้ลี้ภัยจำนวน 45 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 24 คน และผู้ชาย 21 คน เข้ารับการฝึกอบรม โดยครูผู้สอนและและพนักงานอาสาสมัครจาก
บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) เพื่อให้ความรู้ต่อผู้ลี้ภัยโดยใช้วิดีโอ การจำลองบทบาท และการสอนในห้องเรียน เพื่อให้ผู้ลี้ภัยเรียนรู้ทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงานในสำนักงานในอเมริกา
“การอบรมนี้ให้ทักษะที่เป็นประโยชน์ ที่จะทำให้ดิฉันหางานในอเมริกาได้ง่ายขึ้น” ซา กิ ระ อายุ 19 ปี ผู้ลี้ภัยจากค่ายแม่หละ ที่เข้ารับการอบรมจากโครงการของยูเอ็นเอชซีอาร์ และบริษัทแมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) “ยูเอ็นเอชซีอาร์ เปิดรับความร่วมมือจากบริษัทแมนพาวเวอร์ เพราะว่าภาคเอกชนสามารถถ่ายทอดความชำนาญในด้านที่เรา ไม่มี ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อผู้ลี้ภัยอย่างยิ่ง” มร.เจมส์ ลินช์ รองผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ สำนักงานส่วนภูมิภาคในประเทศไทย กล่าว
พนักงานบริษัทจากภาคเอกชนเหมือนอยู่ห่างคนละโลกกับผู้ลี้ภัยซึ่งอาศัยในบ้านหลังคามุงจากในป่าลึก แต่สามารถให้ความรู้ ที่นำไปใช้ได้จริงต่อผู้ลี้ภัย อาทิ การให้คำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในที่ทำงาน การรายงานความคืบหน้า ของงานต่อหัวหน้างาน การซื้ออาหารในโรงอาหาร การวางตัวอย่างเหมาะสมต่อเพื่อนร่วมงาน การใช้เครื่องถ่ายเอกสาร การนำเอกสารใส่แฟ้ม การโอนโทรศัพท์ รวมถึงทักษะพื้นฐานอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการทำงานในสำนักงาน
“บริษัทแมนพาวเวอร์ ทุ่มเทที่จะดึงศักยภาพของผู้ลี้ภัยออกมา พวกเขาเป็นคนที่ฉลาด มุ่งมั่น และตั้งใจที่จะเรียนรู้ ขอเพียงแต่พวกเขาจะได้รับโอกาส” มร.แมทธิว กล่าวเสริม พนักงานบริษัทแมนเพาเวอร์ จำนวน 38 คน อาสาที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอน “พนักงานของเรารู้สึกว่าพวกเขาได้เรียนรู้จากผู้ลี้ภัยพอๆ กับที่ผู้ลี้ภัยเรียนรู้จากพวกเขาเหมือนกัน” มร.แมทธิว กล่าว
อาสาสมัครจากบริษัทแมนพาวเวอร์ เป็นผู้เตรียมอุปกรณ์การสอน และเนื้อหาของการฝึกอบรม โดยทำงานร่วมกับองค์กรโซอาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษากับผู้ลี้ภัยชนกลุ่มน้อยจากประเทศพม่ามาเป็นเวลานาน
“โซอา มุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสให้ผู้ลี้ภัยที่อาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย-พม่า” มร.ไบรอัน เอ โซโลมอน ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย ของโซอา กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่มีพนักงานชาวไทย-กะเหรี่ยงทำงานร่วมกันในโครงการนี้ในค่ายผู้ลี้ภัยที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย พวกเขาช่วยให้เราสื่อสารกับผู้ลี้ภัยได้ง่ายขึ้น ผู้ลี้ภัยส่วนมากเป็นชาวกะเหรี่ยง หรือสามารถพูดภาษากะเหรี่ยงได้มาจากประเทศพม่า”
ผู้ลี้ภัยจำนวน 19 คนที่เข้ารับการฝึกอบรมจากโครงการนำร่องนี้ เป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยอีกหลายพันคนที่สมัครเพื่อเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้โครงการตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของยูเอ็นเอชซีอาร์ เมื่อผู้ลี้ภัยเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลี้ภัยซึ่งผ่านการอบรมแล้ว สามารถติดต่อบริษัทแมนพาวเวอร์ในสหรัฐ เพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ทุกเวลา โดยบริษัทฯ จะมอบหมายพนักงานอาสาสมัครที่จะเป็นผู้ให้คำแนะนำและคำปรึกษา รวมทั้งการหางานที่เหมาะสมกับทักษะของผู้ลี้ภัยต่อไป
ในระดับนานาชาติ บริษัทแมนเพาเวอร์ เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มผู้นำธุรกิจที่เป็นที่ปรึกษาให้ยูเอ็นเอชซีอาร์