กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--IR network
“เสนาดีเวลลอปเม้นท์”ยังรุกเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น และแนวโน้มดอกเบี้ยเริ่มขยับเป็นขาขึ้น “ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ระบุไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารต้นทุนของ SENA เพราะมี D/E ต่ำมากเพียง 0.46 เท่า อีกทั้งมั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายมากนัก เหตุจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ซึ่งมีฐานที่กว้างมากและมีกลยุทธ์เด็ดออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถมัดใจลูกค้าเอาไว้ได้ พร้อมประเมินภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังเติบโตได้อีก 5-10% ตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเป็นขาขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารและการจัดการของ SENA มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายในการวางแผนดูแลระบบค่าใช้จ่ายเพื่อควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนทางการเงินอาจจะปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากบริษัทมียอดเงินกู้ไม่มากนัก โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ต่ำมากอยู่ที่ระดับเพียง 0.46 เท่า จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
“ถึงแม้ดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะขยับขึ้น แต่โดยภาพรวมแล้วอัตราดอกเบี้ยยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งสถาบันการเงินส่วนใหญ่ก็ยังคงแข่งขันกันโดยการเน้นปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ตลาดของปี 2553 ซึ่งสภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น และ “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” มีความเชี่ยวชาญในการผลิตขายที่อยู่อาศัยในตลาดระดับกลางถึงระดับล่าง ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีขนาดใหญ่มากในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทมากนัก และในปีนี้ยังมั่นใจว่าผลประกอบการจะขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ได้คือเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน ”
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดและการขายที่ SENA สามารถมัดใจลูกค้าเอาไว้ได้ นั่นคือการเน้นความรับผิดชอบต่อลูกค้าทั้งในด้านการสร้างความประทับใจจากการดูแลบริการหลังการขาย และคุณภาพงานก่อสร้างที่ดีในระดับราคาที่ไม่สูงนัก นอกจากนี้ยังมีการจัดทำสมาชิก “เสนาแฟมิลี่การ์ด” ที่มีการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการได้รับส่วนลดร้านอาหารร้านสินค้าตกแต่งบ้าน โรงแรม โรงพยาบาล สถานเสริมสุขภาพและความงาม รวมทั้งการต่อยอดลูกค้าจากฐานลูกค้าเดิมโดยให้ค่าแนะนำกับสมาชิกอีกด้วย
แผนการดำเนินงานในปี 2553 ของ SENA คือมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูงที่เน้นครอบคลุมเซ็กเม้นท์ตลาดระดับกลางถึงล่าง โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ได้ดำเนินการพัฒนาเปิดขายโครงการใหม่ 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเสนาแกรนด์โฮม โครงการเสนากรีนวิลล์คลอง4 และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ ชื่อโครงการเดอะคิทท์-แจ้งวัฒนะ และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่อีก 2 โครงการ ที่เน้นขยายฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปยังธุรกิจให้เช่าที่เพิ่มขึ้นสำหรับโครงการพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ที่เจริญนคร พื้นที่ประมาณ 7,000 ตารางเมตร มูลค่าประมาณ 500 ล้ านบาท (ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแบบ) และเพิ่มโครงการคอนโดมิเนียม ย่านวังหิน-ลาดพร้าว กำหนดราคาประมาณ 1 ล้านบาทต่อยูนิต
ดร.เกษรา ได้กล่าวต่อในช่วงท้ายถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 5-10% จากปีก่อน จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงและมีกำลังซื้อค่อนข้างดีโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีความต้องการสูงมาก อีกทั้งคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ในส่วนของผู้ประกอบการจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น ขณะเดียวกันจากสภาพคล่องของสถาบันการเงินที่มีอยู่สูงมากในระบบ ส่งผลให้มีการปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคมากขึ้นด้วย ดังนั้นจึงทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกมากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : IR network
คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) e-mail : natsinee@irnetwork.co.th
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว (มิกซ์) e-mail : nattaphong@irnetwork.co.th